x close

12 จุดไม่ควรมองข้าม หากคิดจะซื้อบ้านมือสอง

จุดไม่ควรมองข้าม หากจะซื้อบ้านมือสอง

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          ใคร ๆ ก็อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง เพราะเงินค่าเช่าบ้านที่จ่ายอยู่ทุกเดือนก็ต่างจากค่าผ่อนบ้านไม่มากนัก แต่ถ้าใครยังไม่มีทุนพอจะสร้างบ้านให้ตัวเอง และกำลังเล็งหาบ้านมือสองหลังเหมาะ ๆ อยู่ ก็อยากให้มาดูจุดสังเกตที่ไม่ควรมองข้ามในการเลือกซื้อบ้านกันก่อน จะได้มีบ้านสวยถูกใจ คุ้มค่ากับเงินที่ซื้อไป ไม่พลาดมีปัญหาจุกจิกกวนใจในภายหลังนะจ๊ะ

1. แหงนมองหลังคาบ้าน

          หลังคาบ้านถือเป็นโครงสร้างที่สำคัญอันดับต้น ๆ เพราะถ้าหากเกิดชำรุดหรือรั่วขึ้นมา คราวนี้ ทั้งฝน ทั้งฝุ่น คงจะเล็ดลอดเข้ามาอย่างง่ายดาย ดังนั้นก่อนอื่นเราต้องแหงนดูหลังคาบ้านก่อน สำรวจความเสียหาย หรือดูง่าย ๆ จากสภาพหลังคาบ้านก็ได้ ถ้ามันดูเก่ามากนักก็ลองเสนอให้เขาเปลี่ยนหลังคาให้ใหม่เลยจะดีกว่า เพื่อเลี่ยงปัญหาจุกจิกจนต้องเสียเงินเปลี่ยนหลังคาเองในภายหลัง

2. สำรวจการวางท่อและสายไฟ

          ระบบสาธารณูปโภคอย่างท่อประปา ท่อน้ำทิ้ง และสายไฟ ก็ควรต้องสังเกต เพราะถ้าหากวางระบบท่อเอาไว้ไม่ดี จะทำให้เกิดปัญหาท่อน้ำรั่ว อุดตัน ระบายน้ำได้ไม่ดีเท่าที่ควร หรือถ้าหากวางระบบท่อประปาไม่ถูกต้อง ก็จะเกิดปัญหาน้ำไหลไม่แรง หรือไหลไม่ค่อยสะดวกขึ้นมาอีก ส่วนการจัดระเบียบสายไฟก็เช่นกัน หากช่างไม่มีความชำนาญและเดินสายไฟไม่เรียบร้อย บ้านก็จะดูไม่สวยงาม อีกทั้งหากไฟรั่วก็อาจจะโดดไฟดูดเป็นอันตรายได้ง่าย ๆ


จุดไม่ควรมองข้าม หากจะซื้อบ้านมือสอง

3. ตรวจสอบผนังและการปูพื้นกระเบื้อง

          ส่วนมากบ้านที่เตรียมพร้อมจะขายต่อมักจะมีการตกแต่งที่สวยงาม ชวนให้น่าซื้อ แต่ก็อย่าเผลอชื่นชมความงามจนมองข้ามโครงสร้างการปูพื้นผนัง และพื้นกระเบื้องไปด้วย เพราะถ้าหากมีรอยร้าว รอยเปื้อนจากคราบสกปรกต่าง ๆ บนผนัง หรือปูกระเบื้องได้ไม่เรียบเสมอกันจะได้สังเกตเห็น และขอให้เขาซ่อมแซมแก้ไขได้ทัน

4. ระวังปัญหาน้ำรั่วซึม

          หากสังเกตเห็นรอยเปียกชื้นที่ผนังกำแพงด้านล่าง ช่วงระหว่างรอยต่อของกำแพงและพื้น นั่นก็แสดงว่า ระบบท่อน้ำทิ้งของบ้านหลังนี้มีปัญหา อาจจะเกิดจากการวางระบบท่อน้ำทิ้งไม่ถูกต้อง หรืออาจจะเป็นเพราะโครงสร้างหลังคาเกิดรอยรั่วขึ้นแล้ว ดังนั้นก็ควรแจ้งให้นายหน้าหรือเจ้าของบ้านคนเก่าทราบถึงปัญหานี้ตั้งแต่เริ่มแรกเลย เพื่อที่เขาจะได้หาทางจัดการหรืออาจจะถึงขั้นต้องรื้อระบบการวางท่อน้ำทิ้งใหม่กันต่อไป

5. เตาไฟฟ้าดีกว่าเตาแก๊ส

          สำหรับห้องครัว ถ้าเป็นไปได้อยากจะแนะนำให้เลือกใช้เตาไฟฟ้าแทนเตาแก๊ส เพราะร้อนเร็วกว่า และมีความเสี่ยงน้อยกว่า นอกจากนี้ยังมีความสวยทันสมัยอยู่ในตัว ทำให้ห้องครัวสวยงามน่าใช้มากขึ้น และถึงแม้เตาไฟฟ้าจะเปลืองไฟ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีความปลอดภัยมากกว่าเตาแก๊สที่อาจเกิดการรั่วขึ้นมาได้

6. เลี่ยงฉนวนใยหิน

          น้อยคนนักที่จะรู้ว่าจริง ๆ แล้วแร่ใยหิน (Asbestos) ที่เป็นหนึ่งในส่วนผสมของวัสดุก่อสร้างต่าง ๆ เป็นอันตรายต่อสุขภาพค่อนข้างมาก เพราะหากสูดดมเข้าไปเกินปริมาณ ก็อาจจะสะสมในร่างกายและก่อให้เกิดก้อนเนื้อร้าย หรือมะเร็งได้ ดังนั้นทางที่ดีเราก็ควรจะเลี่ยงใช้วัสดุก่อสร้างที่มีแร่ใยหินเป็นส่วนประกอบ ซึ่งส่วนมากจะพบได้ในกระเบื้องมุงหลังคาแบบลอนลูกฟูก ท่อระบายน้ำ กระเบื้องปูพื้น ฝ้าเพดาน ฝาผนัง ฉนวนกันความร้อน สามารถสังเกตได้ง่าย ๆ จากวัสดุที่มีความวาวใส หรือจะใช้วิธีถามเอาตรง ๆ กับนายหน้าขายบ้านเลยก็ได้

จุดไม่ควรมองข้าม หากจะซื้อบ้านมือสอง

7. เช็กระบบปรับอากาศ

          บ้านที่มีเครื่องปรับอากาศ ก็ควรจะเช็กระบบทำความเย็นด้วย ว่าเป็นเครื่องปรับอากาศที่มีระบบการทำงานแบบควบคุมจากส่วนกลาง หรือ Central A/C หรือเปล่า เพราะระบบนี้จะมีตัวคอยล์เย็นหลายตัวซึ่งสามารถทำความเย็นพร้อม ๆ กันได้มากกว่าหนึ่งห้อง จึงให้ความเย็นได้ทั่วถึงทั้งบ้าน ประหยัดพลังงานได้เยอะกว่าเครื่องปรับอากาศระบบอื่น ๆ นอกจากนี้ควรต้องสอบถามจากเจ้าของบ้านคนเก่า ว่าติดตั้งแอร์มานานกี่ปีแล้ว และล้างแอร์ครั้งล่าสุดเมื่อไร แต่ถ้าจะให้แน่ใจ ควรเรียกช่างแอร์มาเช็กระบบแอร์ให้รู้กันจะจะไปเลยจะดีที่สุด

8. ทำเลที่ตั้งก็สำคัญ

เชื่อได้ว่าทำเลที่ตั้งของบ้านเป็นข้อแรก ๆ ที่ผู้ซื้อบ้านจะคำนึงถึง เพราะหากมีบ้านอยู่ในทำเลที่ดี มีทั้งตลาด ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน หรือใกล้ที่ทำงานก็จะดีมาก ถือเป็นทำเลทองที่น่าจะมีราคาบ้านแพงอยู่พอสมควร ดังนั้นหากงบซื้อบ้านของคุณน้อย จะเลือกทำเลที่เดินทางไปไหนมาไหนสะดวก ไม่วุ่นวาย ไม่ไกลความเจริญ โรงเรียนของลูก และที่ทำงานของคุณมากนักก็ได้

9. พื้นต้องไม่ลาดเอียง

          นอกจากต้องตรวจสอบการปูพื้นผนังและพื้นกระเบื้องแล้ว โครงสร้างการปูพื้นบ้านก็ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน เพราะถ้าหากช่างปูพื้นบ้านได้ไม่เรียบแน่นเสมอกัน อาจจะเกิดปัญหาบ้านลาดเอียง ปิดประตู หน้าต่างได้ไม่สนิท และพื้นก็จะกร่อนได้ง่ายด้วยค่ะ ดังนั้นหากเจอปัญหาอย่างนี้ ก็ต้องแจ้งให้ผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบได้รับทราบ เพื่อจะได้ซ่อมแซมแก้ไขปัญหากันต่อไป

จุดไม่ควรมองข้าม หากจะซื้อบ้านมือสอง

10. ระบบไฟต้องเพียงพอ

          ระบบไฟในบ้านควรจะมีมิเตอร์ที่สามารถรองรับกำลังการใช้ไฟได้ 15 แอมป์ หรือ 30 แอมป์ จะดีมาก เพื่อให้รองรับการเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าพร้อม ๆ กันได้อย่างปลอดภัย ไม่ต้องเสี่ยงไฟดับทั้งบ้านหรือไฟฟ้าลัดวงจรจนเป็นอันตราย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณอาจจะต้องไปแจ้งความจำนงค์ขอติดตั้งมิเตอร์เพิ่มเองกับการไฟฟ้า ในกรณีที่บ้านหลังนั้นใช้มิเตอร์กำลังไฟน้อยกว่าที่คุณต้องการ

11. สอดส่องแมลง

          แมลงและสัตว์ต่าง ๆ ที่อยู่รายล้อมบ้านก็ควรต้องระวัง โดยเฉพาะบ้านไม้ยิ่งต้องดูแลเรื่องมด มอดและปลวก เพราะแมลงเหล่านี้สามารถทำลายพื้นไม้ให้ผุกร่อน หมดสภาพการใช้งานเร็วกว่าที่ควร และถ้าหากพบว่ามีร่องรอยการกัดแทะไม้ หรือร่องรอยพื้นไม้ถูกทำลาย ต้องรีบแจ้งให้ช่างกำจัดแมลงมาจัดการกับมันทันที เพื่อป้องกันความเสียหายที่มากกว่านี้นะคะ

12. ต้องไม่มีคราบเชื้อราและความสกปรก

          บ้านที่น่าอยู่ต้องสะอาดสะอ้าน และปลอดเชื้อโรคเชื้อราทุกชนิด ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจซื้อบ้าน ควรต้องเดินสำรวจดูรอบ ๆ บ้านอย่างละเอียดทุกซอกทุกมุม โดยเฉพาะบริเวณจุดอับ และขอบหน้าต่าง มุมกำแพง พื้น ผนัง ว่ามีคราบสกปรก และเชื้อราอยู่หรือไม่ หากพบว่ามีก็แสดงว่านอกจากบ้านจะไม่สะอาดน่าอยู่แล้ว ยังอาจจะมีปัญหาพื้นผนังและหน้าต่างรั่วซึมอีกด้วย


          ก่อนจะตัดสินใจซื้อบ้านมือสองสักหลัง ก็อยากให้นำจุดน่าสังเกตที่เรานำเสนอ ไปใช้สำรวจบ้านกันดู เพื่อกรองความเสี่ยงซื้อบ้านไม่ได้มาตรฐานออกไปสักหน่อย และรับรองว่าคุณจะตัดสินใจซื้อบ้านมือสองได้คุ้มค่า และน่าอยู่อย่างแน่นอนค่ะ



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
12 จุดไม่ควรมองข้าม หากคิดจะซื้อบ้านมือสอง อัปเดตล่าสุด 14 ตุลาคม 2558 เวลา 12:01:53 5,241 อ่าน
TOP