เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
การปูพรมช่วยทำให้บ้านดูหรูหรา อีกทั้งยังให้สัมผัสที่นุ่มสบายเท้าทุกย่างก้าว ทำให้คนนิยมใช้พรมตกแต่งภายในบ้านกันอย่างแพร่หลาย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าพื้นพรมทำความสะอาดยากกว่าพื้นกระเบื้อง และการดูแลรักษาให้อยู่ในสภาพที่ดีไปตลอดก็ไม่ง่ายนัก ดังนั้นหากใครอยากรู้ทางลัดในการทำความสะอาดพรม ต้องลองมาดูข้อมูลเหล่านี้ไปพร้อม ๆ กันเลยจ้า
หมั่นดูดฝุ่นบ่อย ๆ
พื้นพรมเป็นพื้นที่กักเก็บฝุ่นได้เป็นอย่างดี ฉะนั้นคุณควรจะดูดฝุ่นให้พรมอยู่เสมอ หรืออย่างน้อยก็สัปดาห์ละครั้ง เพื่อให้พรมสะอาดและใช้ไปได้นาน ๆ แต่สำหรับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงอาศัยอยู่ด้วย ควรต้องดูดฝุ่นทุกวัน หรืออย่างน้อยวันเว้นวันเลยค่ะ เพื่อป้องกันขนสัตว์ติดฝังแน่นอยู่ในพรม ทำให้ทำความสะอาดยาก และอาจจะเป็นสาเหตุให้เกิดโรคภูมิแพ้ หอบหืด กับคนในครอบครัวด้วย
จัดการกลิ่นอับให้หมด
บ้านที่มีเด็กและสัตว์เลี้ยงคงต้องปวดหัวกับปัญหาคราบสกปรก ที่เป็นสาเหตุของกลิ่นอันไม่พึงประสงค์บนพรมอย่างแน่นอน อย่างนี้ปล่อยไว้นานคงไม่ดีแน่ จึงแนะนำให้ผสมเบกกิ้งโซดากับผงบอเร็กซ์ (Borax) แล้วโรยทิ้งไว้บนพรมประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นก็ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดพื้นพรมอีกที เพียงเท่านี้กลิ่นอันไม่พึงประสงค์บนพรมก็จะหายไป กลับมามีกลิ่นหอมสดชื่นน่าใช้ได้ง่าย ๆ แล้วล่ะ
เตรียมพร้อมรับมือกับทุกคราบเปื้อน
เคล็ดลับการแก้ปัญหารอยเปื้อนหรือคราบสกปรกบนพื้นก็คือ ต้องรีบจัดการกับคราบที่เกิดขึ้นทันที ดังนั้นหากทำน้ำหกใส่พรม ให้รีบซับด้วยผ้าสะอาดก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นผสมน้ำเปล่ากับสบู่ แล้วค่อย ๆ ซับน้ำสบู่ลงบนรอยเปื้อน และใช้ผ้าแห้งวางลงบนรอยอีกที ทับด้วยหนังสือหรือของชิ้นหนัก ๆ อีกชั้นก็ได้ เพื่อให้ผ้าซับน้ำบนพรมออกมาให้หมด แต่หากว่าเป็นคราบเหนียว หรือคราบน้ำมัน ให้นำเบกกิ้งโซดา หรือแป้งข้าวโพดมาโรยลงบนคราบ แล้วทิ้งไว้ข้ามคืน วันรุ่งขึ้นค่อยใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดออก ทั้งเบกกิ้งโซดา และแป้งข้าวโพด จะช่วยดูดซับคราบน้ำมันออกจากพรมได้อย่างหมดจด ทำให้พรมกลับมาสะอาดได้ดังเดิม
ทั้งหมดนี้เป็นเคล็ดลับการรักษาพรมให้สะอาดและมีสภาพน่าใช้งานอย่างยาวนาน สำหรับคนที่มีพรมอยู่ในบ้าน ก็อย่าลืมนำเทคนิคที่เรานำมาฝากกันไปใช้ดูนะคะ