โซลาร์รูฟ ทางเลือกใหม่ของพลังงาน กับการใช้บ้านทำเงิน
เนื่องจากกำลังผลิตไฟฟ้าในประเทศไทยที่มีอยู่ไม่เพียงพอ ที่จะรองรับการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นทุกวัน ทั้งภาคครัวเรือน ชุมชน และอุตสาหกรรม ทางรัฐบาลจึงได้จัดตั้งโครงการรับซื้อพลังงานไฟฟ้าจากภาคครัวเรือนเข้ามาเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการผลิตพลังงานไฟฟ้า ซึ่ง โซลาร์ รูฟ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยขจัด ปัญหาตรงนี้ได้ดีทีเดียว แต่หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่ทราบว่า โซลาร์ รูฟ ที่กำลังพูดถึงอยู่นี้คืออะไร มีประโยชน์เช่นใด และจะสามารถผลิตกำลังไฟฟ้าจากบ้านของเราได้อย่างไร ในวันนี้ก็จะนำข้อมูลเหล่านี้มาอธิบายให้ฟังกันค่ะ
โซลาร์ รูฟ คืออะไร ?
โซลาร์ รูฟ (Solar Roof) คือระบบเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์มาเป็นพลังงานไฟฟ้าบนหลังคา โดยใช้แผงเซลล์แสงอาทิตย์ (Solar Module) ที่ติดตั้งบนหลังคาที่พักอาศัยหรืออาคารต่าง ๆ รับพลังงานแสงเข้ามาเปลี่ยนเป็นไฟฟ้ากระแสตรง ก่อนส่งไปยังเครื่องแปลงไฟ (Inverter) เพื่อเปลี่ยนจากไฟฟ้ากระแสตรงเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ แล้วนำพลังงานไฟฟ้าที่ได้ไปใช้งานต่อไป โดยจะใช้เองภายในครัวเรือนหรือนำไปจำหน่ายให้กับภาครัฐก็ได้ ซึ่งสามารถติดตั้งได้กับหลังคา ทุกประเภท ได้แก่ หลังคากระเบื้องซีแพคโมเนีย หลังคาลอนคู่ หลังคาคอนกรีต หลังคาเมทัลชีท และหลังคากระเบื้องแบบเรียบ ยกเว้นหลังคาที่ใช้โครงไม้ หลังคาสังกะสี และหลังคาที่มีร่มเงาปกคลุมตลอดทั้งวัน
ประโยชน์ที่ได้รับจากโซลาร์ รูฟ
1. ช่วยกันเปลี่ยนโลกได้
ปัญหาโลกร้อนมีมาอย่างต่อเนื่องจากการใช้พลังงานในปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นสาเหตุสำคัญของระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น การเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศน์ อุณหภูมิในชั้นบรรยากาศ รวมถึงภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและทวีความรุนแรงจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งแน่นอนว่ามีผลกระทบกับทุกชีวิตบนโลก ดังนั้นคงจะดีกว่าหากหันมาช่วยกันใช้พลังงานสะอาด อย่างเช่น พลังงานไฟฟ้าที่ได้จากแสงอาทิตย์ ที่ทุกคนสามารถร่วมด้วยช่วยกันทำได้ โดยไม่สร้างมลภาวะใด ๆ ให้แก่โลกกันดีกว่า
2. ช่วยเสริมกำลังผลิตไฟฟ้า
ในภาวะที่ก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลักที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าของประเทศ มีแนวโน้มลดลงและกำลังจะหมดไปในอีก 5-7 ปีข้างหน้า ในขณะที่ความต้องการการใช้ไฟฟ้าในทุกภาคเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ พลังงานแสงอาทิตย์จึงถือเป็นทางเลือกสำคัญที่จะเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระในส่วนนี้ได้ โดยภาคประชาชนเป็นหนึ่งที่สามารถช่วยสร้างความมั่นคงทางพลังงานได้ แทนที่จะให้ภาครัฐมาสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่อาจเกิดมลพิษแก่ชุมชนในพื้นที่รอบ ๆ เช่น โรงไฟฟ้าถ่านหิน หรือโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
3. ช่วยสร้างรายได้ให้กับครอบครัว
ด้วยการลงทุนเพียงครั้งเดียวกับการติดตั้งโซลาร์ รูฟ บนหลังคาบ้านของคุณเอง ถือเป็นการลงทุนที่จะช่วยสร้างรายได้ให้กับครอบครัวในระยะยาวจากพลังงานที่อยู่แล้วในธรรมชาติ กับระบบที่ไม่ซับซ้อนยุ่งยาก อีกทั้งยังช่วยสร้างกำไรในเม็ดเงินจำนวนมากให้กับผู้ที่ลงทุนด้วย โดย Size XL (10KWp) สามารถทำเงินได้ ประมาณเดือนละ 8,520 บาทเลยทีเดียว ตลอด 25 ปีของสัญญาจากการไฟฟ้า โดยผู้ที่มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการจะต้องเป็นอาคารประเภทที่อยู่อาศัยเท่านั้น โดยมีใบเสร็จแจ้งหนี้ค่าไฟฟ้าที่ระบุประเภทมิเตอร์ ประเภทที่ 1
ซึ่งบริษัท SPCG จำกัด (มหาชน) ที่นำโดย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ กรรมการผู้จัดการใหญ่และเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจ โซลาร์ ฟาร์ม (Solar Farms) แห่งแรกในไทยและอาเซียน ได้เปิดช่องทางให้กับผู้ที่มีใจลงทุนกับระบบผลิตไฟฟ้พลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา ภายใต้แบรนด์ SPR Solar Roof ด้วย 3 องค์ประกอบหลักในคุณภาพระดับชั้นนำ ได้แก่
แผงเซลล์แสงอาทิตย์ของ Kyocera จากประเทศญี่ปุ่น ขนาด 1.7 ตารางเมตร น้ำหนัก 20 กิโลกรัมต่อแผ่น (น้ำหนักแผงบวกโครงรับอยู่ที่ 15 กิโลกรัมต่อตารางเมตร ในขณะที่หลังคาทั่วไปรับได้ที่ 40 กิโลกรัมต่อตารางเมตร) รับประกันคุณภาพการผลิตไฟฟ้าถึง 25 ปี Power Output ที่ 80% ตามมาตรฐาน STC (Standard Test Condition) ที่ผ่านการทดสอบแล้วในมาตรฐานระดับสากลในแบบที่ไม่ได้ใครกล้ารับประกันเท่านี้
ติดตั้งด้วยทีมงานมากประสบการ์ณที่เคยคลุกคลีกับธุรกิจโซลาร์ ฟาร์มมาแล้ว พร้อมกับการรับประกันการติดตั้งถึง 2 ปี และบริการหลังการขายที่จะเข้าไปช่วยตรวจระบบทุก ๆ 6 เดือน (ฟรี 2 ปี) อีกทั้งสามารถโทรศัพท์ขอคำปรึกษาได้ตลอด และ On-Site Service ที่ดำเนินโดยช่างผู้ชำนาญการ
การขอสินเชื่อ
และตอนนี้ทาง บริษัท SPCG จำกัด (มหาชน) ได้จับมือกับทางธนาคารกรุงไทย จัดทำสินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อการติดตั้งระบบโซลาร์ รูฟ เป็นครั้งแรกของเมืองไทย ในอัตราดอกเบี้ยเพียง 8.88% เท่านั้นจากปกติ 27% ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์หรือบุคคลในการค้ำประกัน รู้ผลภายใน 3-4 วัน และยังได้เป็นผู้บุกเบิกนวัตกรรมทางการเงินครั้งแรกกับโซลาร์รูฟในเมืองไทยด้วย แต่ทั้งนี้มีจำนวนจำกัดให้เพียง 300 หลังคาเรือนเท่านั้น
ขั้นตอนการติดตั้ง
ผู้ที่สนใจจะติดตั้งสามารถเปิดสำรวจกับทางโฮมโปรได้ทุกสาขา ซึ่งสำหรับผู้ที่ขอสินเชื่อจะต้องนำเอกสาร ประกอบด้วยใบเสนอราคา, สำเนาทะเบียนบ้าน, สำเนาบัตรประชาชน, ใบเสร็จเงินเดือนหรือรายได้ที่เกิน 50,000 บาทต่อเดือน ไปยื่นกู้ที่ธนาคารกรุงไทยสาขาใกล้บ้านก่อน ค่อยจากนั้นจ่ายมัดจำ 10% แล้วรอการดำเนินการทางเอกสาร จ่ายเงินที่เหลือ แล้วรอกำหนดวันติดตั้ง
ส่วนผู้ที่ไม่ขอสินเชื่อหลังจากจ่ายมัดจำ 10% แล้ว ให้รอเอกสารแล้วจ่ายส่วนที่เหลือ หลังจากนั้นก็รอกำหนดวันติดตั้งเช่นเดียวกัน แต่เนื่องจากทางรัฐบาลจะเปิดโครงการถึงวันที่ 30 เดือนมิถุนายน 2558 นี้ ดังนั้นหากรีบดำเนินการก็จะเป็นผลกับการลงทุนของคุณเอง ซึ่งการดำเนินงานเรื่องเอกสารกับทางราชการ ทางบริษัทฯ จะเป็นผู้ดำเนินการให้ทั้งหมด โดยที่ลูกค้าแค่เตรียมเอกสารและนำไปยื่นให้กับทางโฮมโปรสาขาใกล้บ้านได้
โดยในตอนนี้ก็มีคนดังให้ความสนใจและวางใจให้ SPCG จำกัด (มหาชน) ช่วยดำเนินการมาแล้วมากมาย อาทิ หม่อมราชวงศ์ ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีและที่ปรึกษาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และดร. ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ที่กลายมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับทางบริษัทด้วย
สนใจติดต่อได้ที่ HomePro สาขาใกล้บ้าน หรือที่ SPR Call Center 02-712-6202
แบบบ้านสวย ตกแต่งบ้าน สินเชื่อบ้าน ฮวงจุ้ยบ้าน สวนสวยๆ คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่