หลาย ๆ คนอาจเสียเวลาทำความสะอาดกันวันละหลายชั่วโมง แถมยังขยันทำเป็นประจำทุกสัปดาห์แต่ถึงอย่างนั้นแล้วก็ไม่เห็นว่าบ้านจะสะอาดขึ้นเสียที นอกจากนี้ยังรู้สึกเหมือนเฟอร์นิเจอร์ในบ้านเก่าเร็วขึ้นอีกต่างหาก ทำให้นึกหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย ทั้งนี้อาจเป็นเพราะคุณใช้วิธีทำความสะอาดแบบผิด ๆ มาตลอดโดยไม่รู้ตัวก็ได้
ดังนั้นวันนี้กระปุกดอทคอมจึงได้รวบรวมการทำความสะอาดผิด ๆ ที่หลาย ๆ คนมักทำพร้อมวิธีแก้ที่ถูกต้องมาฝาก ลองไปอ่านกันเลยค่ะ
1. ทำความสะอาดกระจกในวันแดดออก หลาย ๆ คนอาจชอบทำความสะอาดกระจกในวันแดดออกเพราะจะช่วยให้กระจกแห้งได้เร็ว แต่ที่จริงแล้วการทำแบบนั้นเป็นวิธีที่ผิด เพราะการทำความสะอาดกระจกในวันแดดออกจะทำให้กระจกแห้งเร็วเกินไปจนทำให้เหลือคราบน้ำยาติดเป็นรอยได้ คุณจึงควรหันมาทำความสะอาดในวันที่มีเมฆมากแทน โดยวิธีทำความสะอาดก็ไม่ยุ่งยากอะไรนัก เพียงแค่ใช้น้ำส้มสายชู 4 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำประมาณ 600 มิลลิลิตร พร้อมด้วยน้ำยาล้างจานเล็กน้อยสัก 2 - 3 หยด เพื่อใช้เป็นน้ำยาทำความสะอาด จากนั้นจึงใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดให้ทั่วกระจกก่อนจะขัดออก เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้ว
2. ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดรอยเปื้อน เวลาที่ทำน้ำหวานสีสด ๆ หก หลาย ๆ คนอาจวิ่งไปหยิบผ้าชุบน้ำมาเช็ดอย่างเมามันส์ทันที เพราะคิดว่ายิ่งเช็ดแรงเท่าไหร่ก็จะช่วยให้คราบเปื้อนหายไปได้มากเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยิ่งคุณเช็ดรุนแรงก็จะยิ่งทำให้รอยเปื้อนกระจายออกไปเป็นวงกว้างมากกว่าเดิมต่างหาก ดังนั้นคราวหน้าถ้าทำให้เฟอร์นิเจอร์ในห้องเปื้อนโดยไม่ตั้งใจอีก ควรหาผ้าสะอาดที่ชุบน้ำยาทำความสะอาดแบบ dry cleaning มาซับเบา ๆ โดยเปลี่ยนมุมไปเรื่อย ๆ เพื่อขจัดรอยเปื้อนแทน
3. ใส่น้ำยาขัดเงามากเกินไป บางคนอาจคิดว่ายิ่งใช้น้ำยาขัดเงามากเท่าไหร่ก็ยิ่งช่วยให้เฟอร์นิเจอร์ไม้ของคุณดูเงางามขึ้นได้เท่านั้น อย่างไรก็ตาม การใช้น้ำยาขัดเงามากเกินไปอาจทำให้เฟอร์นิเจอร์ของคุณเหนียวหนึบแทนที่จะเงางามได้เหมือนกัน ดังนั้นควรใช้ผ้าชุบน้ำยาเพียงเล็กน้อยขัดก็พอ นอกจากนี้ หากว่าคุณเพียงแค่ต้องการขจัดฝุ่นทำความสะอาดเป็นครั้งคราวเท่านั้น ก็ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยาขัดเงาด้วยทุกครั้งหรอก
4. เลือกน้ำยาที่มีฤทธิ์รุนแรงมาใช้ พอเวลาผ่านไป อ่างน้ำของคุณอาจดูหมองเก่าเร็วจนน่าตกใจทั้ง ๆ ที่คุณขยันขัดอยู่เสมอ จนทำให้คุณอดข้องใจไม่ได้ว่าทำไมอ่างอาบน้ำของคุณถึงได้ดูเก่าเร็วนัก ทั้งนี้อาจเป็นเพราะคุณใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์รุนแรงมากเกินไปจนทำให้พื้นผิวอ่างอาบน้ำของคุณสึกกร่อนเร็วขึ้น ดังนั้นควรหันมาใช้เสปรย์ขจัดเชื้อราสูตรอ่อน ๆ มาพ่นทิ้งไว้สัก 10 นาที ก่อนเช็ดล้างให้สะอาดแทนการใช้น้ำยา เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
5. ทำความสะอาดตอนที่เตาเย็นแล้ว ไม่ได้หมายความว่าคุณควรทำความสะอาดตั้งแต่ตอนที่เตายังร้อน ๆ จนมือพองหรอกนะ แต่การทำความสะอาดตอนที่ยังอุ่น ๆ อยู่จะช่วยให้การทำความสะอาดเตาของคุณง่ายขึ้นอีกเยอะ ดังนั้นควรหรี่เตาให้ไฟอ่อนลงสัก 10 - 15 นาที จากนั้นจึงปิด และพ่นน้ำยาทำความทิ้งไว้อีก 20 นาที ก่อนจะใช้แปรงไนลอนขัดให้เรียบร้อย เตาของคุณก็จะกลับมาสะอาดเหมือนใหม่ได้อย่างง่ายดาย
หากใครกำลังทำความสะอาดแบบผิด ๆ เหมือนวิธีที่เรานำมาฝากกันวันนี้ ก็ลองปรับเปลี่ยนวิธีทำความสะอาดของคุณดูนะคะ รับรองเลยว่าจะช่วยให้การทำความสะอาดของคุณง่ายและได้ผลขึ้นอีกเยอะเลยล่ะ
