x close

8 เรื่องที่ควรคำนึงถึง ในการใช้บริการขนย้าย



            เมื่อมีบ้านหลังใหม่ ก็มีค่าใช้ในส่วนอื่น ๆ ตามมาอีกมากมาย ส่วนหนึ่งหมดไปกับการตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ โดยยังมีค่าใช้จ่ายอีกส่วนกับการขนย้ายเฟอร์นิเจอร์และข้าวของจากบ้านหลังเก่ามายังนิวาสสถานแห่งใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ไม่แพ้ส่วนอื่น ๆ เลย เพราะข้าวของบางอย่างชิ้นใหญ่ และมีจำนวนเยอะเกินกว่าที่จะขนย้ายเองได้ จึงต้องว่าจ้างให้คนขนย้ายข้าวของมาจัดการแทน การเลือกผู้ให้บริการขนย้ายที่เชื่อถือได้จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อเป็นหลักประกันว่าข้าวของของคุณจะถูกย้ายไปยังสถานที่แห่งใหม่ในสภาพเดิม หรือเสียหายน้อยที่สุด และนี่คือเรื่องที่คุณควรคำนึงถึงและปฏิบัติตาม ในการว่าจ้างบริษัทหรือผู้รับจ้างขนย้ายข้าวของค่ะ 

 1. ค่าบริการจิปาถะ

            บริษัทหรือผู้รับจ้างขนย้ายข้าวของที่ไม่น่าเชื่อถือ อาจทำให้งบประมาณในการขนย้ายข้าวของที่คุณตั้งไว้เดิมเฟ้อเกินจริงได้ แม้เขาจะเสนอราคาการขนย้ายมาถูกกว่าบริษัทดัง ๆ แต่คุณก็อาจโดนค่าจิปาถะอื่น ๆ อย่าง ค่าแพ็คของลงกล่อง ค่ากล่องเพิ่มเติม ทั้ง ๆ ที่ข้าวของชิ้นนั้นสามารถขนย้ายเปล่า ๆ ได้ ค่าเทปกาวปิดกล่องที่แพงเกินจริง  ฯลฯ สุดท้ายก็กลายเป็นยอดเงินที่แพงหูฉี่กว่าที่คิดเอาไว้เยอะ

 2. ไม่ต้องให้ขนย้ายของชิ้นเล็ก ๆ 

            ของเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างพวกเครื่องเล่นเกม เครื่องเล่นซีดี หรือว่ากระเป๋าเครื่องประดับที่ไม่ว่าจะมีค่ามากหรือไม่ก็ตาม คุณควรนำมันย้ายไปยังบ้านหลังใหม่ด้วยตัวเองจะเป็นการดีที่สุด เพราะของชิ้นเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้มักมีโอกาสสูญหายมากที่สุดในระหว่างการขนส่ง แถมคุณเองก็คงจำได้ไม่หมดหรอกว่า ของชิ้นเล็กชิ้นน้อยเหล่านั้นมีอะไรบ้าง

 3. เลือกผู้ให้บริการที่มีนโยบายคืนเงิน

            บริษัทที่น่าเชื่อถือจะมีนโยบายคืนเงินเต็มจำนวนแก่ลูกค้า ในกรณีที่ผู้ว่าจ้างยกเลิกการว่าจ้างขนย้าย นอกจากนี้ยังควรเลือกผู้ให้บริการที่ยินดีรับบัตรเครดิต เพราะการจ่ายด้วยบัตรเครดิตนั้นสามารถยกเลิกการทำธุรกรรมได้ แต่หากจ่ายด้วยเงินสดไปแล้ว โอกาสที่จะได้เงินคืนก็มีน้อยลงเหมือนกัน

 4. ปฏิบัติตัวต่อผู้ขนย้ายอย่างเหมาะสม

            ตัวผู้ว่าจ้างเองก็ต้องปฏิบัติตัวแก่ผู้ถูกว่าจ้างอย่างเหมาะสมด้วย ไม่ใช่ถือว่าตัวเองเป็นผู้จ้างมาแล้วจะทำอย่างไรก็ได้ เพราะข้าวของของคุณที่ต้องขนย้ายถือว่าตกอยู่ในการดูแลของเขา หากเขาเกิดไม่พอใจ ขนย้ายของให้คุณแบบลวก ๆ ไม่ติดรายชื่อข้าวของที่หน้ากล่อง วางกล่องของแตกง่ายซ้อนทับกัน ไม่อำนวยความสะดวกให้คุณเท่าที่ควร ความลำบากก็จะตกไปอยู่กับผู้ว่าจ้างอย่างคุณซึ่งไม่สามารถจัดการกับข้าวของชิ้นใหญ่ และหนักได้เพียงลำพังแน่นอน เพราะฉะนั้นจึงต้องถ้อยทีถ้อยอาศัย มีอัธยาศัยแก่กันก็จะดีที่สุด ที่สำคัญการปฏิบัติตัวดี ๆ ต่อกันก็เป็นเรื่องที่ดีในสังคมอยู่แล้วนะคะ

 5. เลือกบริษัทที่รับประกันความเสียหาย

            ในฐานะเจ้าของทรัพย์สิน เราย่อมต้องการให้ข้าวของอยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุดเมื่อไปถึงที่หมาย ซึ่งนั่นหมายความว่าคุณควรว่าจ้างบริษัทรับขนย้ายที่มีมาตรฐาน มีประสบการณ์ และมีการประกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้อุ่นใจว่าข้าวของของคุณจะได้รับการเอาใจใส่เป็นอย่างดี และแม้จะเกิดความเสียหายขึ้น อย่างน้อยคุณก็ยังได้เงินชดเชยตามที่ตกลงกันไว้ 

 6. ไม่ประเมินราคาการขนย้ายผ่านทางโทรศัพท์

            การอธิบายขนาด น้ำหนัก การคาดคะเนความยากง่ายในการขนย้ายข้าวของ ไม่สามารถทำได้อย่างราบรื่นผ่านการทำงานทางโทรศัพท์ ทางบริษัทขนย้ายจำเป็นต้องส่งคนมาประเมินการขนย้ายที่บ้านของคุณ หากบริษัทที่คุณกำลังหมายตาเอาไว้ไม่มีบริการตรงจุดนี้ ก็มองหาเจ้าใหม่ดีกว่า 

 7. ต้องกล้าบอกเลิกกลางคันหากไม่พอใจในการบริการ 

            หากคุณเห็นว่าพนักงานที่เข้ามาขนย้ายข้าวของของคุณ ไม่ได้ทำด้วยความใส่ใจ และเกรงว่าจะทำให้เกิดความเสียหาย ขอให้แจ้งตรงหน้างานเลยว่าคุณต้องการให้เขาปรับปรุงอย่างไร หรือขอยกเลิกงานกลางคัน หากมัวแต่เกรงใจ คุณอาจต้องเสียเงินอีกก้อนใหญ่โดยไม่จำเป็น ในการซ่อมแซมข้าวของ หรือซื้อของชิ้นใหม่ ผู้ให้บริการที่เชื่อถือได้จะมีสปิริตมากพอที่จะรับฟังคำติชม และยอมรับในข้อผิดพลาดของตัวเอง 

            การขนย้ายข้าวของก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องคำนึงถึงไม่แพ้เรื่องอื่น ๆ ในการจัดการกับบ้านหลังใหม่ อย่าลืมนำไปใช้ และปฏิบัติกันดูนะคะ เพื่อให้การขนย้ายสิ่งของเข้าบ้านหลังใหม่ของคุณเป็นไปได้อย่างราบรื่น








เรื่องที่คุณอาจสนใจ
8 เรื่องที่ควรคำนึงถึง ในการใช้บริการขนย้าย อัปเดตล่าสุด 20 สิงหาคม 2555 เวลา 11:33:21 1,513 อ่าน
TOP