ไม่ว่าจะเป็นคอนโด หอพัก หรือบ้านเช่า ส่วนใหญ่มักจะมีกฎเกณฑ์ที่เด็ดขาดในเรื่องการเลี้ยงสัตว์ เนื่องด้วยไม่อยากปวดหัวกับสภาพห้องที่เสี่ยงจะเสียหายมากกว่าปกติ เสียงรบกวน รวมทั้งกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ฉะนั้นคนรักสัตว์จึงต้องเหนื่อยใจกับการหาที่พักที่ยอมอนุโลมให้เลี้ยงเพื่อนตัวเล็กทั้งหลาย วันนี้กระปุกดอทคอมเลยขอแนะนำวิธีปฏิบัติดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณหาที่พักได้ตรงตามความต้องการได้ง่ายขึ้นมาฝากค่ะ
1. เตรียมการตั้งแต่เนิ่น ๆ
การหาบ้านเช่าดี ๆ สักหลังยังต้องใช้เวลาการค้นหาสักระยะหนึ่ง ดังนั้นการหาบ้านเช่าที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ (ซึ่งก็มีจำนวนไม่มากนัก) ยิ่งต้องเผื่อเวลาในการหามากขึ้นเป็น 2 เท่า ดังนั้นคุณควรเผื่อเวลาอย่างน้อย 6 สัปดาห์ เพื่อค้นหาที่พักที่ตอบสนองความต้องการข้อนี้ของคุณได้ เริ่มแรกอาจจะลองค้นหาในอินเทอร์เน็ตก่อน แล้วค่อยไปสำรวจด้วยตัวเองอีกที เพื่อให้ได้ที่พักที่ตรงใจคุณมากที่สุด
2. อย่าปกปิดความจริง
เจ้าของสัตว์เลี้ยงจำนวนไม่น้อยเลือกที่จะปิดบังว่าตัวเองมีสัตว์เลี้ยงเข้าพักอาศัยด้วย แล้วในที่สุดก็ต้องเลี้ยงเจ้าเพื่อนสี่ขาอย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะคุณอาจจะต้องลำบากหาที่อยู่ใหม่อย่างกะทันหัน เนื่องจากถูกเจ้าของที่พักเชิญออกในวันหนึ่งที่ความลับถูกเปิดเผยขึ้นมา
3. ขอความช่วยเหลือ
การขอความช่วยเหลือจากคนคอเดียวกันอย่าง ชมรมคนรักสัตว์ต่าง ๆ จะช่วยให้คุณหาที่พักที่ใจดีพอจะอนุญาตให้เจ้าสี่ขาสุดเลิฟอาศัยอยู่ด้วยได้ง่ายขึ้น ยิ่งในยุคโซเซียลเน็ตเวิร์กอย่างนี้ ช่องทางการติดต่อก็ยิ่งมีมากมาย ทั้งเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ รวมไปถึงอินสตาแกรม เหล่านี้เป็นพื้นที่ที่คุณจะสามารถไปโพสต์ขอความช่วยเหลือในเรื่องนี้ได้ ซึ่งนอกจากจะหาที่พักที่ตรงใจได้แล้ว เผลอ ๆ ก็อาจจะได้มิตรภาพน่ารัก ๆ แถมมาด้วยก็ได้
4. แสดงความรับผิดชอบต่อสัตว์เลี้ยง
ถ้าคุณเป็นเจ้าของที่ดูแลสัตว์เลี้ยงมาอย่างดี ด้วยการพาไปฝึกยังสถาบันฝึกสอนต่าง ๆ เพื่อปรับนิสัยและพฤติกรรมสัตว์เลี้ยงให้น่ารักขึ้น หรือพาไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคต่าง ๆ กับสัตวแพทย์เป็นประจำละก็ อย่าลืมแสดงหลักฐาน เช่น ประกาศนียบัตรจากโรงเรียนฝึกสอน หรือใบรับรองแพทย์ แก่เจ้าของที่พักด้วย หลักฐานเหล่านี้จะช่วยรับรองความประพฤติของสัตว์เลี้ยง รวมทั้งช่วยรับประกันว่าเจ้าสี่ขาของเราจะไม่เป็นตัวแพร่กระจายเชื้อโรค ซึ่งจะช่วยเปิดทางให้คุณหาที่อยู่ได้ง่ายขึ้นค่ะ
5. แสดงความจริงใจ
คงจะดีไม่น้อยถ้าเราจะรู้ข้อผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพื่อจะได้ไม่เดินตามรอยและผิดพลาดซ้ำในจุดเดิม ๆ เพราะฉะนั้นการเปิดใจพูดคุยกับเจ้าของที่พักในประเด็นความเดือดร้อนที่เขาเคยเจอมาก่อนจากผู้เช่าเก่า จะทำให้เรารู้ว่าสิ่งไหนควรทำและไม่ควรทำ แถมวิธีนี้ยังจะช่วยให้เจ้าของที่พักสบายใจที่จะให้คุณและสัตว์เลี้ยงเข้าพักอีกด้วยค่ะ
6. โชว์ความน่ารักของสัตว์เลี้ยง
คงไม่มีอะไรจะพิสูจน์ความสามารถในการควบคุมสัตว์เลี้ยงของคุณได้ดีไปกว่าการแสดงให้เห็นกันจะจะ กับตา เพราะฉะนั้นการพาเจ้าสี่ขาของเราไปแนะนำให้เจ้าของที่พักรู้จัก จะช่วยให้เขาได้เห็นพฤติกรรมน่ารัก ๆ ของสัตว์เลี้ยงได้ หรือถ้าไม่สะดวก จะให้เขาดูจากรูปก็ได้เช่นกัน เชื่อเถอะว่า หากเจ้าของที่พักมีนิสัยรักสัตว์เป็นทุนเดิม คงจะหลงเสน่ห์เพื่อนรักของคุณได้ง่าย ๆ จนใจอ่อนยอมให้เข้าพักในที่สุด
7. พร้อมจะจ่ายเพิ่ม
ราคาที่พักที่มีข้อเสนอให้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้ อาจจะมีราคาสูงกว่าที่พักปกติ ด้วยเหตุผลในการซ่อมแซมและรักษาความสะอาดที่อาจจะต้องดูแลกันมากขึ้น คงดีกว่าหากคุณเตรียมใจและเตรียมกำลังทรัพย์เผื่อเอาไว้ จะช่วยทำให้คุณมีทางเลือกมากขึ้นค่ะ
8. อย่าลืมทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร
แม้จะตกลงกันได้ และนัดวันย้ายเข้าบ้านเป็นมั่นเป็นเหมาะแล้วก็ตาม แต่ใช่ว่าจะมั่นใจได้ 100% เพราะการตกลงกันลอย ๆ ดูจะไร้หลักประกันเกินไป ดังนั้นอย่าลืมทวงถามการทำสัญญาเช่าก่อนจะวางเงินมัดจำด้วย เพราะไม่ว่าจะคุยกันถูกคอขนาดไหน ก็ไม่ควรจะไว้ใจใครง่าย ๆ สัญญาที่เป็นลายลักษณ์อักษรจะเป็นหลักประกันในสิ่งที่ได้คุยตกลงกันไว้ทั้งหมด แนะนำให้อ่านสัญญาให้ถี่ถ้วนก่อนจรดปลายปากกาเซ็นลงไปด้วยนะคะ จะได้ไม่พลาดจนต้องมานั่งเสียใจภายหลังจ้า
หวังว่าคำแนะนำทั้ง 8 ข้อนี้ จะช่วยให้คุณหาที่พักทั้งสำหรับตัวเองและเจ้าสี่ขาสุดเลิฟได้ง่ายขึ้น หากกำลังกลุ้มใจกับการมองหาที่พักที่ยินดีต้อนรับสัตว์เลี้ยง ลองนำวิธีเหล่านี้ไปใช้กันดูนะจ๊ะ
แบบบ้านสวย ตกแต่งบ้าน สินเชื่อบ้าน ฮวงจุ้ยบ้าน สวนสวยๆ คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่