วิธีเตรียมบ้านรับหน้าฝน เพื่อความปลอดภัยของบ้านและครอบครัว เพื่อให้บ้านเราผ่านหน้าฝนนี้ไปได้อย่างปลอดภัย
เริ่มชุ่มฉ่ำกับสายฝนกันแล้ว เป็นสัญญาณว่าถึงคราวที่ฤดูฝนได้เวียนกลับมาอีกครั้ง แต่การที่ฝนตกเช้า ตกเย็น ตกไม่เป็นเวลาอย่างนี้ ก็อาจจะกระทบกระเทือนกับบ้านของเราทั้งเปียกแฉะเลอะเทอะ อีกทั้งยังอาจเกิดความเสียหายกับบ้านได้ด้วย ดังนั้นเรามาเตรียมบ้านให้พร้อมรับหน้าฝนกันด้วยวิธีต่อไปนี้กันดีกว่าค่ะ บ้านเราจะได้ผ่านหน้าฝนนี้ไปได้อย่างปลอดภัย
1. เคลียร์ท่อและรางน้ำฝนให้โล่ง
ในช่วงฤดูร้อนหรือฤดูหนาว สายลมอาจจะพัดพาใบไม้ให้ร่วงหล่นตกค้างในท่อน้ำ รางน้ำฝน และหลังคาบ้าน จนอาจจะกลายเป็นสิ่งกีดขวางทางเดินของน้ำ ให้ไหลไม่สะดวก เกิดการเอ่อล้นเสี่ยงน้ำท่วมบ้านได้ ยิ่งถ้ามีสิ่งกีดขวางบนหลังคาบ้านมาก ๆ น้ำฝนที่ตกลงมาก็จะไม่ไหลไปตามร่องกระเบื้องมุงหลังคา แต่จะไหลมาด้านข้าง รดขอบหน้าต่างและผนังให้เสียหายแทน ดังนั้นเราควรจะเคลียร์ท่อน้ำและรางน้ำฝนให้โล่งเสียก่อน ด้วยการปัดกวาดเศษใบไม้และสิ่งอุดตันออกจากท่อให้หมด จากนั้นหากไม่มีอุปกรณ์หรือไม่รู้วิธีลอกท่อที่ถูกต้อง แนะนำให้ปรึกษาช่างผู้ชำนาญการ ให้เขามาลอกท่อให้เลยดีกว่า
2. อุดทุกรอยรั่ว
ตรวจเช็กให้แน่ใจว่าหลังคา ฝ้า และเพดาน ไม่มีรอยรั่ว แตกร้าวหรือมีช่องให้น้ำผ่านเข้ามาได้ ควรซีลขอบหน้าต่างให้เรียบร้อย และจะดีมากถ้าใช้ยางซีลชนิดที่กันน้ำได้ หากจุดใดเกิดการชำรุดก็ต้องจัดการซ่อมแซมโดยทันที เพื่อในวันที่มีพายุฝนกระหน่ำ จะได้ไม่ต้องกังวลว่าน้ำฝนจะเล็ดลอดเข้ามาในบ้านให้ต้องเหนื่อยเช็ดถู และเฟอร์นิเจอร์จะได้ไม่โดนน้ำฝนทำลายให้เสียหายด้วย นอกจากนี้อย่าลืมหาเกราะป้องกันน้ำให้คอมเพรสเซอร์เครื่องปรับอากาศด้วยนะคะ อาจจะต้องลงทุนกันมากหน่อยแต่รับรองว่าคุ้มไปตลอดทั้งปีแน่ ๆ จ้า
3. ใส่ใจสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ
อย่าลืมใส่ใจสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น สระว่ายน้ำ สนามหญ้าหน้าบ้าน ที่ควรต้องลดระดับน้ำในสระ และรดน้ำต้นไม้ให้น้อยลง เผื่อไว้สำหรับรองรับน้ำฝนที่จะตกลงมาด้วย อีกทั้งถ้าหน้าต่างบ้านเป็นหน้าต่างไม้ ก็ควรต้องลงทุนทาสีชนิดกันน้ำได้ แทนสีเก่า เพื่อให้ช่วยป้องกันน้ำฝนซึมลงในเนื้อไม้ จนทำให้หน้าต่างบวมเสียรูป รายละเอียดยิบย่อยแบบนี้แต่ละบ้านก็มีไม่เหมือนกัน ดังนั้นช่วงที่ใกล้จะเข้าหน้าฝนอย่างนี้ แนะนำให้คุณสำรวจดูให้ทั่วบ้าน และจดรายการที่ต้องเตรียมป้องกันน้ำฝนกันให้ดีด้วย
4. ป้องกันลมพัดทำลายข้าวของ
หน้าฝนมักจะมาพร้อมกับพายุ และลมแรง ๆ ซึ่งอาจจะทำลายสวนสวย ร่มกลางสนาม ถังขยะ หรือข้าวของที่สามารถปลิว ร่วงหลุด หรือหักงอได้ง่าย ดังนั้นคงดีกว่าถ้าเราจะเก็บสิ่งของเหล่านี้ในที่ปลอดภัย เช่น ในโรงรถ หรือห้องเก็บของไว้ก่อน เพื่อป้องกันลมแรง ๆ มาพัดข้าวของให้ปลิวกระจัดกระจาย เสียหายในภายหลัง หากเป็นของที่ไม่สามารถเก็บเข้าที่ได้ ลองหาอะไรยึดไว้ให้แข็งแรงก็จะปลอดภัยขึ้นนะ
5. อย่าลืมเรื่องไฟฟ้า
สำหรับบ้านไหนที่ต่อเติมบ้านไปเมื่อช่วงฤดูร้อนและยังสร้างไม่เสร็จเรียบร้อย หรือมีการตั้งโต๊ะจัดปาร์ตี้ที่สนามหน้าบ้าน ก็ควรต้องตรวจเช็กให้ดี ว่ามีสายไฟ หรือการต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดอื่นค้างไว้หรือเปล่า เพราะถ้าหากลืมเก็บเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือสายไฟเหล่านี้ อาจเกิดอันตราย เช่น ไฟช็อต ไฟรั่ว ในขณะที่ฝนตกได้นะจ๊ะ
6. ตัดกิ่งไม้ให้เรียบร้อย
หน้าฝนที่ลมแรง ๆ อย่างนี้หากกิ่งไม้หรือต้นไม้เกิดโค่นทับหลังคาบ้านก็คงไม่ดีแน่ ฉะนั้นในวันที่ฟ้าปลอดโปร่ง เราก็จัดการตัดแต่งกิ่งไม้ที่ใกล้จะหัก หรือกิ่งที่ค่อนข้างใหญ่ลงก่อนดีกว่า และอย่าลืมเคลื่อนย้ายต้นไม้ดอกไม้กระถางเล็ก ๆ ที่เสี่ยงจะปลิวไปกับสายลมไว้ในที่ปลอดภัยด้วยนะคะ
7. เตรียมไฟฉายให้พร้อม
ในวันที่มีพายุลูกใหญ่พัดถล่ม ไฟก็อาจจะดับใช้การไม่ได้ ดังนั้นทางที่ดีเราควรเตรียมไฟฉาย หรือเทียนไขให้พร้อมก่อนดีกว่า เช็กให้แน่ใจด้วยว่ามีอุปกรณ์ครบพร้อมใช้งานทุกอย่าง ทั้งถ่านไฟฉาย เทียนไข ไฟแช็ก และควรเก็บของเหล่านี้ไว้ในที่ที่หยิบใช้งานได้สะดวกที่สุดด้วย เผื่อเกิดไฟดับขึ้นมาจะได้ไม่งงอยู่ในความมืดกันนานเกินไป
เริ่มเข้าหน้าฝนกันแล้ว ยังไงก็อย่าลืมทำตามคำแนะนำที่เรานำมาฝากกันด้วยนะคะ บ้านจะได้ไม่โดนพายุฝนและลมแรง ๆ ถล่มให้ต้องเสียหาย ผ่านหน้าฝนกันมาได้อย่างปลอดภัย และถึงอย่างไรป้องกันไว้ก่อนก็ดีกว่าแก้แน่ ๆ จริงไหมจ๊ะ?