5 Ideas แต่งบ้านคันทรีให้เย็นใจ (Life and Home)
เรื่อง : ยุภาวดี บุญภา
เหมือนสูงสุดคืนสู่สามัญจริง ๆ ค่ะ ไม่ว่าจะมีพัฒนากรเทคโนโลยีก้าวล้ำไปขนาดไหน ไม่ว่าจะย้ายที่อยู่จากในถ้ำจนอยู่บนตึกสูงเสียดฟ้า แต่สุดท้ายแล้ว "เรา" ก็โหยหาจุดเริ่มต้นที่จากมาเสมอ เพราะพื้นฐานจิตใจของมนุษย์จะมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติแม้ว่าเทคโนโลยีจะก้าวล้ำไปไกล เช่นเดียว การตกแต่งบ้าน ไม่ว่างานดีไซน์จะเปลี่ยนไปตามยุคตามสมัยมากแค่ไหน พอมาวันหนึ่งเรามักจะโหยหาธรรมชาติอยู่ร่ำไป ธรรมชาติที่ว่าคือสิ่งที่เกิดขึ้นเอง คือต้นไม้ใบหญ้า การจัดสวนให้อยู่รอบตัวจึงได้รับความนิยมขึ้นเรื่อย ๆ
เช่นเดียวกับงานดีไซน์ภายในบ้านที่เริ่มเปลี่ยนจากความทันสมัย ตามกระแสสไตล์โมเดิร์นที่ล้ำลึกเรียบง่าย แต่ในส่วนลึก ๆ ในจิตใจเรากลับโหยหาจุดเริ่มต้นเสมอ นั่นคือการกลับมาของบ้านสไตล์วินเทจที่ได้รับความนิยมตลอด 3 ปีที่ผ่านมา และกระแสแห่งความหลังที่ว่าทำให้จิตใจของเราหวนระลึกไปถึงอดีตที่เมื่อครั้งเก่าก่อนในยุคเกษตรกรรม ทุ่งหญ้าเนินเขา ชาวนา และสัตว์เลี้ยง ซึ่งเราเรียกบรรยากาศแบบนี้ว่าเป็นคันทรี หรือชนบทในเมืองนั้น ๆ
ภาพจาก Rikki Snyder
1. ทำความรู้จักบ้านคันทรี
บ้านสไตล์คันทรีในแต่ละท้องถิ่นนั้นมีลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป อย่างในเมืองไทยก็จะเป็นบ้านท้องถิ่นในภูมิภาคต่าง ๆ ที่เห็นภาพได้ชัดก็เป็นเรือนไทยในแต่ละภาค ซึ่งมีอัตลักษณ์ของสถาปัตยกรรมที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละท้องถิ่น แต่หากในนึกภาพบ้านสไตล์คันทรีภาพแรกที่ปรากฏมักจะเป็นภาพบ้านหลังเล็กท่ามกลางทุ่งหญ้าท้องนา มีสัตว์เลี้ยงอย่างวัว แกะ และโรงนาอยู่รอบด้าน ซึ่งภาพที่คุ้นตานี้เป็นบ้านคันทรีแบบยุโรป และในเมืองไทยเองก็นิยมตกแต่งบ้านให้เป็นคันทรีแบบยุโรปเสมอ ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะบรรยากาศที่ดูอบอุ่นธรรมดาแต่สวยงามเลยทำให้คันทรียุโรปเป็นที่ตราตรึงใจคนไทยเรื่อยมา ไม่ว่าจะเป็นอิงลิชคันทรีที่ดูอ่อนหวาน สไตล์ทัสคานีชนบทในประเทศอิตาลีที่ดูอบอุ่น หรือจะเป็นสไตล์โปรวองซ์เมืองโรแมนติกที่ฝรั่งเศสที่ส่งผ่านงานดีไซน์ที่ดูอ่อนนุ่ม
ภาพจาก Jessica Helgerson
2. วัสดุที่เลือกใช้
แน่นอนว่าวัสดุที่ใช้ตกแต่งบ้านสไตล์คันทรีนั้นจะต้องเกี่ยวข้องกับท้องถิ่นนั้น ๆ อย่างบ้านสไตล์ทัสคานีก็จะโดดเด่นในเรื่องของผนังดินซึ่งเป็นดินพื้นเมือง ส่วนอิงลิชคันทรีก็จะเด่นในเรื่องการใช้ผ้าลวดลายกุหลาบ อันเป็นดอกไม้ประจำประเทศอังกฤษ แต่หากให้พูดถึงภาพรวมแล้ว วัสดุที่ใช้ตกแต่งบ้านคันทรีหลัก ๆ ก็มีดังนี้
- ไม้ ด้วยเสน่ห์ของเนื้อไม้ที่มีลวดลายที่รังสรรค์ขึ้นเองทำให้เท็กซ์เจอร์ที่เกิดขึ้นนั้นสร้างความแปลกใหม่ได้เสมอ การใช้ไม้เข้ามาตกแต่งบ้านสไตล์คันทรีจึงมักจะโชว์ลายไม้อย่างเต็มที่ หลีกเลี่ยงการฟอกสีอื่นที่ไม่ใช่สีไม้ธรรมชาติ ชนิดของไม้ที่นิยมใช้ได้แก่ ไม้สน ไม้แอช ไม้โอ๊ค ไม้มะฮอกกานี รวมทั้งไม้สักที่หาได้มากในเมืองไทยด้วย
- หิน ใช้ประโยชน์ในบ้านคันทรีคือ ใช้ปูพื้นและกรุผนังเพื่อความสวยงาม หินที่นิยมใช้ปูพื้นหลัก ๆ ก็จะมีหินอ่อน หินแกรนิต แล้วแต่งบประมาณของเจ้าของบ้าน ส่วนหินที่ใช้กรุผนังนั้นก็จะเป็นหินภูเขา หินทรายตัด และปัจจุบันมีวัสดุทดแทนหินมากมายออกมาเป็นทางเลือก ซึ่งให้ความสวยงามไม่แพ้หินแท้เลยทีเดียว
- ผ้า เป็นวัสดุเพื่อการตกแต่งอย่างแท้จริง ทั้งนี้ผ้าทำได้หลายอย่างมากกว่าเป็นแค่ผ้าม่าน คือเป็นผ้าบุโซฟาก็ได้ เป็นหมอนอิง เป็นชุดผ้าปูที่นอน ผ้าที่เหมาะสมกับบ้านสไตล์คันทรีต้องเป็นเส้นใยมาจากธรรมชาติ อาทิ ผ้าฝ้าย ฝ้าลินิน รวมทั้งผ้าที่ทอขึ้นจากขนสัตว์อย่างขนแกะ เป็นต้น
ภาพจาก Rikki Snyder
3. ดีไซน์เฟอร์นิเจอร์
การเลือกเฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะกับสไตล์คันทรีนั้นมีจุดสังเกตง่าย ๆ คือ ทำจากไม้ เรียบ ๆ แต่ไม่ธรรมดา อย่างมีการโชว์ลายไม้ ทำสีขัด เสี้ยนขาว หรือขัดถลอก ความธรรมดาเหล่านี้เองที่เป็นตัวสร้างความอบอุ่นให้ดูดังว่าเป็นดีไซน์ดั่งเดิม ไม่เน้นเรื่องราวแต่เน้นที่การกลึงไม้เข้ารูปให้เป็นทรง หากเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ผ้า ผ้าก็จะดูอ่อนนุ่ม การถักทอมีช่องระบายค่อนข้างห่าง โทนสีจะไม่ฉูดฉาดมากมองแล้วดูสบายตาเหมือนสีที่ได้จากการย้อมธรรมชาติ
ภาพจาก Wheeler Kearns Architects
4. แต่งเติมให้ครบ
นอกจากเฟอร์นิเจอร์แล้ว การสร้างบรรยากาศของบ้านให้เหมือนอยู่ในชนบทยุโรปก็ไม่ควรมองข้าม อย่างการสร้างเตาผิงจริงละเตาผิงเทียมให้อยู่ในบ้าน การเลือกของประดับตกแต่งจากเซรามิก ถ้วยจานเพ้นท์ลาย กรุผนังด้วยปีกไม้ให้ดูดั่งว่าเป็นบ้านไม้จริง ๆ หรือแม้แต่งการเลือกการน้ำชา ถ้วย จาน เครื่องใช้ในครัว หากเลือกในโทนเดียวกันก็จะทำให้บ้านคันทรีสมบูรณ์ขึ้น
ภาพจาก Aiken House & Gardens
5. จากนั้นมาจัดสวน
จะเป็นแบบอื่นไม่ได้ หากเป็นบ้านสไตล์คันทรีแล้วก็ต้องอิงสวนแบบคันทรียุโรปด้วยเช่นกัน ที่นิยมกันอยู่มากก็คือจัดเป็นสวนอังกฤษ เน้นไม้ดอกสีสันสวยงาม มีงานประติมากรรมตั้งประดับในสวน กลายเป็นความโดดเด่นท่ามกลางแมกไม้ใบเล็กที่ประดับประดา แต่สวนคอทเทจก็เป็นอีกกระแสที่มาคู่บ้านสไตล์คันทรีเช่นกัน ข้อได้เปรียบของสวนคอทเทจมีอยู่ว่าจัดแบบไร้แบบแผน คือจะจัดวางให้ดูดั่งว่าดอกไม้เหล่านั้นเกิดขึ้นเองและพันธุ์ไม้ที่เลือกใช้ก็จะดูเป็นดอกไม้ตามทุ่งหญ้า ซึ่งเหมาะกับบ้านคันทรีมากกว่าสวนอังกฤษที่เลือกใช้ดอกไม้ในเมือง
ไม่ว่าจะเลือกบ้านสไตล์ไหน จะเป็นอิงลิช ทัสคานี โปรวองซ์ เคล็ดลับของสไตล์คันทรี คือความธรรมดา ซึ่งหากมองให้ลึกซึ้งก็คือการหยิบธรรมชาติมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลดการปรุงแต่งที่จะทำให้ความเป็นเนื้อแท้หดหาย เพียงเท่านั้นก็จะได้บ้านคันทรีที่อบอุ่นอย่างที่ต้องการแน่นอนค่ะ