ไม่ต้องแปลกใจไปถ้าช่วงนี้จะเห็นโครงการคอนโดฯ ต่าง ๆ อัดแคมเปญโปรโมชั่นกันดุเดือด นั่นเป็นเพราะการซื้อ-ขายที่อยู่อาศัยกำลังอยู่ในภาวะชะลอตัว โดยเฉพาะตลาดคอนโดฯ ยิ่งเห็นชัด ผู้ประกอบการต้องใช้แคมเปญส่งเสริมการขายเข้าช่วย หวังให้ผู้ซื้อตัดสินใจง่ายขึ้น เร็วขึ้น เช่น โปรโมชั่นและแพ็คเกจการเงินประเภท ดาวน์ต่ำ ผ่อนน้อย อยู่ฟรี ไม่มีดาวน์ ฯลฯ อย่างไรก็ตามทุกโปรโมชั่นมักมีเครื่องหมายดอกจัน (*) หรือมีเงื่อนไขบางอย่างซ่อนอยู่ และการปล่อยกู้ของธนาคารก็ไม่ง่ายเหมือนก่อน ดังนั้นการตรวจสอบเงื่อนไขเรื่องเงินดาวน์หรือการชำระเงินจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้การซื้อ การผ่อน การกู้ครั้งนี้จบลงอย่างราบรื่นสวยงาม
บอลลูน/เทดาวน์
ปกติเงินดาวน์แต่ละงวดจะใกล้เคียงกับอัตราผ่อนจริงเสมอ เช่น คอนโดฯ ราคา 1 ล้านบาท ผ่อน 20 ปี ดอกเบี้ยประมาณ 6% อัตราผ่อนจริงก็จะตกประมาณเดือนละ 7,000 บาท ดังนั้นเงินดาวน์ก็จะอยู่ประมาณนี้ แต่ถ้าเห็นโปรโมชั่นเงินดาวน์ต่ำจนผิดปกติ เช่น ดาวน์เดือนละ 999 บาท ควรสงสัยไว้ก่อนว่าจะต้องมีการเทดาวน์ก้อนใหญ่หรือมีบอลลูน ซึ่งเป็นลักษณะของเงินงวดที่ปูดหรือเพิ่มขึ้นจากอัตราผ่อนปกติแน่นอน และถ้าเจอแบบนี้ต้องประเมินว่าไหวหรือเปล่า หรือเตรียมเงินล่วงหน้าสำหรับการเทดาวน์ในบางงวด หรือในเดือนที่มีบอลลูนให้พร้อม
เงื่อนไขกรณี "กู้ไม่ผ่าน"
เนื่องจากนิยามคำว่า “กู้ไม่ผ่าน” ของแต่ละโครงการไม่เหมือนกัน เช่น บางโครงการกำหนดว่าต้องกู้ไม่ผ่านเพราะติดแบล็คลิสต์เท่านั้น หรือบางโครงการอาจรวมถึงกรณีกู้ได้ไม่เต็มวงเงิน ก็ถือว่าเป็นการกู้ไม่ผ่านเช่นกัน ดังนั้นเรื่องนี้ก็ต้องตกลงและเข้าใจให้ตรงกัน เพราะบางโครงการอาจกำหนดเงื่อนไขเรื่องการยื่นกู้ไว้ด้วย เช่น ต้องยื่นกู้อย่างต่ำ 3 ธนาคาร และลูกค้าจะต้องถูกปฏิเสธจาก 2 ธนาคารขึ้นไปจึงจะเข้าเกณฑ์ เป็นต้น
กู้ไม่ผ่านคืนเงินหรือไม่
กู้ไม่ผ่านคืนเงินหรือไม่ เรื่องนี้ก็ต้องให้ชัดเจนและต้องเขียนลงในสัญญาด้วย จะได้ไม่ถกเถียงกันภายหลัง
การจ่ายเงินคืนกรณีกู้ไม่ผ่าน
การจ่ายเงินคืนกรณีกู้ไม่ผ่าน แม้จะระบุว่าถ้ากู้ไม่ผ่านจะคืนเงิน แต่ก็ต้องระบุให้ชัดเจนถึงการชำระคืน เช่น แบ่งเป็นงวด หรือจะจ่ายงวดเดียว มีดอกเบี้ยหรือไม่ เริ่มต้นจ่ายเมื่อไหร่ เพราะเงิน ๆ ทอง ๆ เมื่อเข้ากระเป๋าใครไปแล้วจะเอาคืนนั้น...ไม่ง่าย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2556