ปลูกเมลอนบนทาวน์เฮ้าส์ ไอเดียสุดเจ๋งที่จัดการเปลี่ยนบ้านให้เป็นสวนเมลอนไฮโดรโปนิกส์ ไม่ต้องง้อสวนใหญ่ ๆ ก็อร่อยกับเมลอนปลูกเองได้ ใครจะเชื่อ..ว่าอยู่ทาวน์เฮ้าส์ก็ปลูกเมลอนไว้กินเองได้เหมือนกัน แถมที่พิเศษกว่านั้นยังเป็นเมลอนแบบไฮโดรโปนิกส์ซะด้วย ซึ่งคนที่อยู่ทาวน์เฮ้าส์คงไม่ต้องเบื่อหน่ายกับการไม่มีสวนใหญ่ ๆ ให้ปลูกผักไว้กินเองอีกต่อไป ถ้าได้เห็นไอเดียสุดเจ๋ง จาก คุณครอบครัวการ์ฟิลด์ตัวอ้วนๆ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เพราะเขาลงทุนปลูกเมลอนปลอดสารเอาไว้กินเองในบ้านทาวน์เฮ้าส์ โดยใช้โครงสร้างบ้านเป็นสวนเมลอนแนวตั้งซะเลย เรียกว่าห้อยระโยงระยางแต่ก็คุ้มค่าทุกตารางนิ้ว เอาล่ะ..เราลองไปพิสูจน์ความเจ๋งด้วยตาตัวเองกันดีกว่า
กลับมาอีกครั้งครับ กับการปลูกน้องเมย์(ล่อน)ไฮโดรโพนิคภาค 2 ของผม 555 โดย คุณครอบครัวการ์ฟิลด์ตัวอ้วน ๆ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม, เฟซบุ๊ก กอล์ฟฟาร์ม เมล่อนไทยแลนด์
กราบสวัสดีพี่ ๆ น้อง ๆ ครับ
ได้เวลามาแชร์ปัญหาและประสบการณ์ในการปลูกกันละครับกับเมลอนญี่ปุ่นคิโมจิ
ปลูกแบบไฮโดรโปนิกส์ของผม
ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณบรรดากูรูด้านเมล่อนทั้งหลายที่คอยให้คำแนะนำในการปลูก
- เมล็ดเมลอนรุ่นนี้ ผมเริ่มเพาะเมล็ดวันที่28 ธันวาคม
2556 นำเมล็ดแช่น้ำอุ่นในขวด 1 คืน แล้วทำการเพาะในวัสดุเพาะคือ ขุยมะพร้าว
ครับ
-
รอบนี้ผมแก้ปัญหาระหว่างการเพาะเมล็ดที่มักจะเจอปัญหารากลอย
เพราะวางเมล็ดในแนวนอน ผมแก้ไขโดยการเอาเมล็ดด้านแหลมลงไปในวัสดุเพาะครับ
เพื่อที่รากเวลางอกจะได้แทงลงด้านล่าง
- จัดการใส่เมล็ดในหลุมเพาะเสร็จ
เอาถาดเพาะใส่ในถาดพลาสติกที่มีฝาปิด ปิดด้วยเทปกาวไม่ให้อากาศเข้า
นำถุงพลาสติกนี้ไปไว้ในท้ายรถ
อากาศที่ร้อนและความชื้นที่อบในถาดจะทำให้เมล็ดงอกไวขึ้นครับ
พอเมล็ดงอกเราก็เอาต้นกล้ามาโดนแดดอ่อน ๆ ให้ต้นกล้าแข็งแรงก่อนครับ
- ผ่านไป 7 วันเมล็ดงอกและพร้อมย้ายลงแปลงปลูกแล้วครับ
- จัดการทำแปลงปลูกเพิ่มเติมด้านข้างบ้านครับ เป็นระบบน้ำวนแบบบ้าน ๆ และย้ายกล้าลงแปลงปลูกครับ
- เติมน้ำเข้าสู่ระบบ ทำการเช็กค่า PH ของน้ำประปา
อยู่ที่ 8.4 สูงมากทีเดียวครับ ใช้น้ำยา PH Down
เพื่อปรับลดค่าให้เหลือระหว่าง 5.8-6.0
- ค่า EC ของน้ำประปาเปล่า ๆ ครับ
- ปุ๋ยที่ใช้จากพี่ตั้ม Best Hydroponics
- ต้นกล้าครับ จริง ๆ
ไม่จำเป็นต้องล้างวัสดุเพาะออกจะดีกว่าครับ
การล้างออกจะทำให้การเจริญเติบโตชะงักไปหลายวันครับ
เอาใส่ลงไปทั้งวัสดุเพาะเลยดีกว่าครับ
ของผมไปล้างแล้วเจอปัญหารากเน่ายกแปลงจนเกือบจะทิ้งทั้งหมดและเพาะใหม่
พอดีพี่ตั้ม Best Hydroponics ให้ลองถ่ายปุ๋ยออกและเติมน้ำเปล่าแทน แค่ 2
วันรากใหม่ก็งอกมาแทนครับ
- ย้ายกล้าลงแปลงด้านข้างครับ
- ย้ายกล้าลงแปลงด้านบนระเบียงบ้าน ตรงห้องนอนใหญ่
- สามวันหลังย้ายกล้าลงแปลงปลูกครับ
แปลงด้านล่างผมทำโครงไม้ไผ่เพื่อร้อยเชือกให้เมล่อนเลื้อยขึ้นไป
และเตรียมคลุมมุ้งกันแมลง
- ผ่านมาอีกสามวัน โตไวมากครับ
- รากเริ่มยาว ต้นโตขึ้นมาก
และเริ่มมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญมาเยือน คือ เพลี้ยตัวอ่อน
จัดการหายาฉุนต้มกับน้ำสบู่แล้วฉีดครับ
- อายุ 32 วัน นับจากวันที่เพาะเมล็ดครับ
- อายุ 42 วัน นับจากวันเพาะเมล็ดครับ เริ่มออกดอกละ
- แปลงด้านล่าง เริ่มเจอปัญหาเรื่องแมลงหวี่ขาวครับ
- ผมชะล่าใจไปนิดหนึ่งและเพิ่งมากางมุ้งครับ แต่ท้ายที่สุดตอนจบก็ตายไปหลายต้นเพราะแมลงหวี่ขาวเหมือนกันครับ
- อายุ 49 วันนับจากวันเพาะเมล็ด
ดอกตัวเมียก็ทยอยบานและก็ได้ทยอยผสมเกษร รุ่นนี้ติดลูกแฝดมาหลายต้นเลยครับ
ผสมเกษรเสร็จก็ติดป้ายจดวันผสมเกษรเอาไว้เพื่อจะได้ไม่ลืมครับ
- เรามีพนักงานคอยเฝ้าดูแลไร่เมลอนตลอด 24 ชั่วโมงนะครับ
- ส่วนนี่คือต้นที่อยู่แปลงด้านล่างครับ
ขนาดกางมุ้งแล้วยังโดนแมลงหวี่ขาวเล่นงานจนเป็นโรคใบหงิกครับ
ต้องถอนทิ้งอย่างเดียวครับแปลงด้านล่าง 3 ต้น ด้านบน 1 ต้นครับ
- มาดูการเจริญเติบโตของลูกเมลอน หลังผสมเกษรครับ
- เจ้าเมลอนแฝดคนละฝาคู่นี้
ตอนแรกตั้งใจจะเก็บไว้ทั้งคู่ สุดท้ายก็เป็นไปตามกลไกการคัดสรรของธรรมชาติ
จำใจต้องตัดลูกเล็กทิ้งเพื่อให้อีกลูกโตได้เต็มที่ครับ
- อายุ 63 วัน นับจากวันเพาะเมล็ดครับ หลาย ๆ
ลูกเริ่มออกลายละครับ ช่วงนี้ผมร้องเพลงให้น้องเม (ลอน)
ออกลายมาเล้ยย...ออกลายให้เห็น 5555
- อายุ 77 วันครับ ลายเริ่มสวยละครับ
- ดูขนาดของลูกเมลอนเทียบกะมือผมนะครับ
- ดูแปลงด้านบนระเบียงบ้านกันมาก็เยอะละ
ทีนี้มาดูแปลงด้านล่างกันบ้างครับ โดนแมลงหวี่ขาวจากต้นมะยมที่คน
ข้างบ้านปลูก จากทั้งหมด 24 ต้น ตายเพราะแมลงหวี่ขาวเยอะมาก ตอนนี้เหลือแค่
7 ต้นเท่านั้นครับ ที่รอดมาจนลูกออกลายแล้ว
รู้สึกอยากจะจุดไฟเผาต้นมะยมที่ข้างบ้านเค้าปลูกมากครับ
- ช่วงนี้ผมเริ่มขัดลายเมลอนละครับ
การขัดลายทำเพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างลายที่สวยงาม
ซึ่งเมลอนญี่ปุ่นคิโมจิ เป็นพันธ์ที่สุดยอดเรื่องลายสวยและรสชาติหวาน
มีกลิ่นที่หอมมากครับ
- กลับมาดูแปลงด้านบนครับ อายุ 85 วัน
นับจากวันเพาะเมล็ด ต้องห่อลูกเมลอนตั้งแต่ลูกเล็ก ๆ เลยนะครับ
กันแมลงวันทองมาเจาะครับตอนนี้ลายเริ่มสวยมากละครับ
- ดูลายชัด ๆ ครับ
- มาดูรังนกที่อยู่บนต้นเมลอนกันบ้างครับ มันคือไข่นกอะไรหว่า ???
- และแล้วก็ได้เวลาเก็บเกี่ยวครับ อันนี้เป็นแปลงด้านบน
ตายไปก็เยอะ เด็ดมากินก่อนก็หลายลูกเหมือนกันครับ เหลือเท่าที่เห็นคือ 4
ลูกครับ
- อันนี้ของแปลงด้านล่างครับ ตายไปเพราะแมลงหวี่ขาวเยอะเลยทีเดียวครับ เหลือแค่ 5 ลูกครับ
- ส่วนลูกที่เหลือ
ผมเก็บไปกินที่ต่างจังหวัดช่วงสงกรานต์ และซื้อเครื่องวัดความหวานมาลองวัด
ความหวานอยู่ระหว่าง12-14 องศาบริกครับ กับเมลอนชุดนี้
หวานฉ่ำอร่อยทีเดียวครับ
-
ก็จบละครับ
สำหรับการปลูกเมลอนคิโมจิแบบ ไฮโดรโปนิกส์ของผม สำหรับรอบนี้ก็เจอปัญหาต่าง
ๆ มากมายครับ ได้ผู้รู้หลาย ๆ ท่านคอยให้คำแนะนำที่ดีเสมอมา
ใครสนใจปลูกและอยากพูดคุยแลกเปลี่ยนเข้ามาดูในเฟซบุ๊กผมได้ครับ
ผมลงรูปไว้ในเฟซบุ๊กผมค่อนข้างเยอะเลยครับ เฟซบุ๊ก ครอบครัวการ์ฟิลด์ตัวอ้วนๆ คุณกอล์ฟอาร์ทติสท์ตัวพ่อ ลากันด้วยภาพนี้ครับ ป.ล.มาปลูกเมลอนกินเองกันเถอะนะครับ บ๊ายบายคร้าบบบบบบบบ