
แต่งคอนโด 24 ตร.ม. ไม่ต้องบิวท์อิน ก็เจ๋งได้ !
เกริ่นนำโดยกระปุกดอทคอมขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
คุณสมาชิกหมายเลข 1692682 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ไอเดียแต่งคอนโด ขนาด 24 ตร.ม. แบบห้องสตูดิโอ โดยไม่ต้องบิวท์อิน ใช้แค่เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวก็ออกมาสวยไม่แพ้ห้องบิวท์อินหรู ๆ เลยนะ ชาวคอนโดที่กัดฟันซื้อห้องขนาดเล็ก ๆ เท่าที่มีกำลังซื้อไหว ถึงแม้จะอยากได้ห้องบิวท์อินแบบหรูหรา แต่ก็อาจจะเหลืองบในการตกแต่งอยู่น้อยนิด จนต้องพึ่งพาเฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัวไปก่อน ซึ่งอย่าเพิ่งคิดว่าการตกแต่งคอนโดแบบไม่บิวท์อินจะออกมาไม่สวยดั่งใจเสมอไปนะคะ เพราะวันนี้
คุณสมาชิกหมายเลข 1692682 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ได้พิสูจน์ให้เราเห็นกันแล้วว่า สามารถตกแต่งคอนโดให้ออกมาสวยและน่าอยู่ได้ โดยไม่ต้องง้อบิวท์อินเหมือนกัน ลองไปติดตามความเจ๋งของห้องนี้กันเลย ..
รีวิวการแต่งห้องขนาด 24 ตร.ม. สวรรค์น้อย ๆ ของผมแบบไม่ Built-in 
ตอนเด็ก ๆ ผมฝันมาตลอดว่าอยากมีบ้านเล็ก ๆ เป็นของตัวเองเพื่อที่เราจะได้ทำอะไรก็ได้ตามใจของเรา ก็ค่อย ๆ มองมาเรื่อย ๆ อยากได้ห้องที่ไม่ใหญ่มากเพราะเป็นคนขี้เกียจถูบ้านที่สุด และติดรถไฟฟ้า ห้องเล็ก ๆ หาไปเรื่อย ๆ จนได้เจอห้องขนาด 24 ตร.ม. ห้องนี้ครับ

เป็น ห้องแบบ Studio นะครับ เป็นห้องเปล่า ๆ มีแถมชุดครัวตู้เสื้อผ้า (Built-in) และตู้เก็บรองเท้าให้ครับ ตอนตรวจห้องครั้งแรกบอกตรง ๆ ครับผมหลงรักห้องตัวเองไปเลยในทันที ไม่รู้ว่าอาการอย่างนี้เรียกว่าเห่อของใหม่หรือเปล่าไม่แน่ใจนะครับ แต่มันรู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ อยากย้ายเข้ามาอยู่ให้เร็วที่สุด มาดูห้องตอนว่างเปล่ากันก่อนนะครับ

ส่วนในโซนแห้งผมเพิ่มแค่ที่แขวนเสื้อผ้าแบบคล้องประตู (คือไม่อยากเจาะประตูกลัวห้องช้ำ) อยู่ในมุมขวาบนของรูปครับ แค่นี้ผมว่าห้องน้ำผมก็สวยพอแล้วครับ ที่เต็มใส่มากกว่านี้กลัวจะรกเลยขอแค่นี้ละกัน ไปดูโซนห้องครัวกันต่อดีกว่า

โซนห้องครัวผมก็ใส่เฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นไป 4 ชิ้น คือ ไมโครเวฟ อันนี้ยกมาจากบ้านเก่าใช้มา 10 ปีแล้ว ยังไม่พังก็ใช้กันต่อไป และที่แขวนผ้าเช็ดมือครับ

และเนื่องจากผมไม่อยากให้เอาอะไรมาวางด้านบนเพราะกลัวมันจะดูรก ผมเลยไปซื้อที่วางจานขนาดเล็กมาใส่ไว้ในลิ้นชักครับ

อีกฝั่งเป็นช่องใส่ตู้เย็นที่ทางโครงการออกแบบไว้พอดิบพอดีครับ ตอนถ่ายลืมปิดประตูห้องน้ำครับ ขออภัยด้วย ตู้เย็นเป็นของเก่าที่ย้ายเข้ามาครับใช้มา 10 ปียังไม่พังเช่นกันก็ใช้กันต่อไป ในอนาคตผมตั้งใจว่าที่ว่างบนตู้เย็นคงสร้างชั้นวางของเพิ่มอาจจะ Built-in เพราะคิดว่าคงหาชั้นที่ขนาดพอดีกับช่องยาก อย่างไรก็ตามแต่มันเป็นเรื่องของอนาคตครับ

โซนห้องเก็บของ เนื่องจากห้องเล็กครับ เลยต้องออกแบบตู้เก็บห้องให้สูงและเต็มที่สุด ได้ตู้บิลลี่ของ IKEA มาครับ ผมพยายามจะเก็บของจัดเป็นกลุ่ม ๆ แล้วยัดใส่กล่องไว้เพื่อให้ใส่ของได้เยอะขึ้นและเพื่อไม่ทำให้ห้องดูรกเกินไปครับ ตัวอย่างเช่น

กล่องใส่อุปกรณ์เครื่องเขียนครับ จะใช้งานก็ดึงกล่องออกมาแล้วหยิบ ใช้ง่ายและหาของง่ายครับ

กล่องสีส้ม 3 กล่อง ใส่ของต่างชนิดกัน ส่วนชั้นล่างสุดเป็นตู้เก็บรองเท้าของผมครับ ของที่โครงการแถมมาผมเอาออก ในอนาคตผมคิดว่าจะหากล่องที่ลายเหมือน ๆ กันมาใส่รองเท้าแทน จะได้ดูไปในทางเดียวกันครับ
มาดูโซนห้องทำงานและรับประทานอาหารกันบ้างนะครับ (ที่น้อยก็ใช้ร่วมกันไปเลยละกัน) เนื่องจากเวลาผมทำงานผมจะวางหนังสือมากมายเต็มโต๊ะเลยครับ ผมจึงจำเป็นต้องใช้โต๊ะขนาดใหญ่พอสมควร เลยไปซื้อโต๊ะขนาด 156 ซม. มา โต๊ะนี้ใช้เป็นทั้งโต๊ะทำงานและกินข้าวไปด้วยกันเลยนะครับ ด้านบนติดเพดาน ผมเพิ่มชั้นวางของเบสตัวจาก IKEA ไป 3 กล่อง แบบมีประตูปิดเอาไว้ปกปิดความรกของห้องครับ ของรก ๆ ผมจะซ่อนไว้ข้างบนหมด 
และด้านข้างโต๊ะทำงานเป็นพื้นที่สำหรับชั้นวางของ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีของอันนี้ยกมาจากบ้านเก่าครับ เห็นว่าเป็นลายไม้และขนาดเข้าช่องได้พอดีอย่างสวยงาม ในอนาคตพื้นที่กำแพงที่ว่างอยู่ผมจะซื้อทีวีขนาด 55 นิ้ว มาติด อยากได้ TV 3 มิติ ราคาต่ำกว่า 3 หมื่นบาท ไม่รู้ต้องรออีกกี่ปีถึงจะได้ราคานี้ก็คงต้องรอไปก่อน

ในโซนห้องทำงานเห็นเรียบร้อยแบบนี้มีความลับอยู่เหมือนกันนะครับ นั่นก็คือกล่องใส่ของใต้โต๊ะครับ หากเปิดออกมาจะเจอกับ...เป็นที่เก็บอุปกรณ์ที่มีสายไฟรก ๆ ทั้งหมด ทั้ง Harddisk DVD-Rom ที่ชาร์จโน่นนี่นั่นต่าง ๆ ครับ

และเนื่องจากของข้างในส่วนใหญ่เป็นอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ซึ่งคายความร้อน ผมกลัวว่าภายในจะร้อนเกินไปผมจึงต้องเจาะช่องด้านหลังเพิ่มเพื่อระบายความร้อนด้วย

เท่านั้นยังไม่พอ ใต้โต๊ะผมยังมีรางเก็บสายไฟเพื่อซ่อนความรกอีกชุดนึงครับ

โซนห้องนอนตอนแต่งนี่เปลี่ยนไป เปลี่ยนมา หลายรอบมากครับ ตอนแรกอยากได้เตียงสูงแบบในเว็บ เพื่อที่ด้านล่างจะวางโซฟาไว้นั่งดูทีวีที่อยู่ฝั่งตรงกันข้าม แต่พอวัดความสูงเพดานแล้วคิดว่าไม่เวิร์กแน่ เลยคิดว่าจะทำอย่างไรดี คิดไป คิดมา บวกกับเดินดูเตียงหลาย ๆ แบบเลยไปพบเตียงแบบเดย์เบด ที่เหมาะจะเป็นทั้งเตียงและโซฟาภายในตัวเดียวกัน เลยสรุปได้เตียงแบบนี้มาครับ

ซึ่งในบรรดาเฟอร์นิเจอร์ที่หามาทั้งหมดผมชอบเตียงนี้มากสุดเลยครับ เพราะมันมีความว้าวและแก้ปัญหาหลายอย่างมาก อย่างแรกคือบ้านเดิมผมต้องใช้ตู้เสื้อผ้าถึง 2 ตู้ (เสื้อผ้าเยอะมาก) ย้ายมาบ้านใหม่ไม่มีที่พอจะเพิ่มตู้เสื้อผ้าอีกตู้หนึ่งได้ ก็ได้เตียงนี่แหละมาช่วยชีวิตไว้เพราะมันทำอย่างนี้ได้ครับ

ความว้าวของเตียงยังไม่จบเพียงเท่านี้นะครับ เพราะมันยังสามารถทำสิ่งนี้ได้ด้วย ถ้านอนคนเดียวเหงาสามารถระเบิดออกมาเป็นเตียงคู่ได้ด้วย เจ๋งมาก ๆ ครับ ในอนาคตพื้นที่กำแพงว่าง ๆ เหนือเตียงผมคงหาสติ๊กเกอร์เก๋ ๆ มาติดนะครับ

โซนห้องแต่งตัว โซนนี้ประกอบไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ 2 ชิ้นนะครับ คือ ตู้เสื้อผ้า กับตู้กระจก

อย่างแรกคือตู้เสื้อผ้าครับ เป็นแบบ Built-in ที่ทางโครงการแถมมา เปิดตู้มาเป็นแบบนี้ครับ

เนื่องจากเสื้อผ้าผมเยอะมาก เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับตู้นี้ ผมจึงติดตั้งราวแขวนกางเกงเพิ่มครับ เป็นแบบ 2 ราวคู่กันไปเพื่อให้ใส่กางเกงเข้าไปเพิ่มได้เป็นสองเท่าครับ

ความพิเศษของราวคู่ที่ผมติดตั้งเพิ่มไปนี้อีกอย่างคือ ในอนาคตหากผมต้องการใส่ของชิ้นใหญ่อย่างอื่นก็สามารถถอดราวออกได้ง่าย ๆ แบบนี้ครับ

สำหรับตู้กระจกมองด้านหน้าก็ดูเรียบง่าย เรียบร้อยมากนะครับ แต่หากสังเกตดี ๆ จะเห็นความพิเศษของมันซึ่งก็คือสิ่งนี้ครับ มันมีที่ซ่อนหลังกระจกไว้ใส่ของอาทิเช่น เครื่องสำอางต่าง ๆ ของผมได้ครับ ผมชอบมาก ๆ ตู้นี้

โซนอ่านหนังสือ สำหรับมุมนี้ตั้งใจไว้นั่งอ่านหนังสือและชมวิวแบบชิล ๆ ระหว่างวันครับ เลยเอาตู้หนังสือและเก้าอี้ Bean Bag รูปกบมาวางไว้ ชิลมาก ๆ เก้าอี้ก็นั่งสบายมาก ๆ ครับ

โซนล้าง ซัก ตาก เป็นโซนสุดท้ายของบ้านผมแล้วนะครับ ซึ่งโซนนี้เป็นมุมซักและตากผ้าครับ อยู่บริเวณระเบียงห้อง และเนื่องจากที่ตากน้อยเลยต้องเลือกเครื่องซักผ้าแบบอบผ้าได้เผื่อใช้กรณีฉุกเฉินครับ เลือกไซส์เล็กสุดตามแนวคิด a little bit in everything ครับ

วางเครื่องซักผ้าก็เต็มระเบียงแล้วครับ แต่พยายามใช้พื้นที่ให้คุ้มพื้นที่ระหว่างตู้คอมเพรสเซอร์แอร์กับเครื่องซักผ้า เลยหาตะขอมาเกี่ยวไว้แขวนของต่าง ๆ และซอกข้าง ๆ เครื่องซักผ้า ยังไว้วางจักรยานได้อีก 1 คันครับ นอกจากนั้นช่องระหว่างท่อกับกำแพงผมยังเอาไว้วางไม้กวาดกับไม้ถูพื้นอีก

สำหรับราวตากผ้านี้ต้องยกไว้บนสุดเลยครับ ถ้าไม่ยกสูงขนาดนี้เวลาตากผ้าจะปิดประตูไม่ได้ครับ

และทั้งหมดนี้ก็คือสวรรค์น้อย ๆ ของผมครับ อาจจะแต่งได้ไม่ดีที่เท่าแบบที่มองไว้ตอนแรก แต่ผมชอบมาก ๆ ครับ ทำให้ผมเข้าใจความรู้สึกของคนที่ชอบอยู่บ้านขึ้นมาก ทุกวันนี้ไม่ค่อยอยากออกไปไหน อยากนั่งอยู่บ้านอ่านหนังสือชิล ๆ ไปเรื่อย ๆ ครับ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบนะครับ แนะนำสิ่งใดผมยินดีรับฟังครับ สงสัยประการใดผมยินดีตอบเช่นกัน สุดท้ายนี้ของปิดด้วยรูปภาพห้องเล็ก ๆ แต่ยิ่งใหญ่ในใจผมรูปนี้นะครับ สวัสดีครับ