เจ๋งอะ ! เนรมิตสตูดิโอกึ่งโรงหนังในบ้าน อลังการได้อีก

เนรมิตสตูดิโอกึ่งโรงหนังในบ้าน อลังการได้อีก
Before

เนรมิตสตูดิโอกึ่งโรงหนังในบ้าน อลังการได้อีก
After

เกริ่นนำโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณแมงกุ๊ดจี่สีแพลททินัม สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

           โฮมเธียเตอร์สุดเจ๋ง จากการเนรมิตสตูดิโอกึ่งโรงหนังไว้ดูเองในบ้าน รีวิวนี้รับรองถูกใจคอเอ็นเตอร์เทนเมนท์แบบเต็ม ๆ

           คนที่ชื่นชอบการดูหนัง ฟังเพลง เป็นชีวิตจิตใจ จะมีอะไรดีไปกว่าการได้มีห้องเอ็นเตอร์เทนเมนท์ส่วนตัวอยู่ที่บ้าน เพราะนอกจากจะเป็นพื้นที่เจ๋ง ๆ แบบที่ไม่ต้องใช้ร่วมกับใครแล้ว ยังสามารถเลือกสนุกเวลาไหนก็ได้ซะด้วย ดังนั้น  คุณแมงกุ๊ดจี่สีแพลททินัม สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ก็เลยขอเนรมิตห้องหนึ่งของบ้านเดี่ยวที่เพิ่งซื้อ ให้กลายเป็นห้องโฮมเธียเตอร์สุดอลังการ แบบสตูดิโอกึ่งโรงหนัง จะออกมาเป็นอย่างไร ต้องลองไปติดตามรีวิวนี้กันเลย





เนรมิตสตูดิโอกึ่งโรงหนังในบ้านครับ โดย คุณแมงกุ๊ดจี่สีแพลททินัม

           สวัสดีครับ นี่เป็นกระทู้แรกของผมนะครับ เมื่อเดือนสิงหาปีที่แล้วผมตัดสินใจซื้อบ้านเดี่ยวหลังหนึ่งที่ลำลูกกาครับ ผมทำงานกับภาพยนตร์ มีการมิกซ์เสียง มีการตัดต่อ และชอบฟังเพลงมาก จึงเสียงดังอยู่คอนโดไม่ได้ครับ สงสารห้องข้าง ๆ สาเหตุที่ตัดสินใจซื้อบ้านหลังนี้เพราะมันมีห้อง Master Bedroom ที่เหมาะกับการทำโรงหนังในบ้านเลยครับ บ้านอื่นเขาเอาไว้นอนกัน ผมไปนอนห้องเล็ก ไม่แคร์เรื่องแฟนด้วยครับ เพราะไม่มี 555 ซื้อบ้านอยู่คนเดียวไม่เห็นจะเป็นไรเลยครับผมว่า

           ผมหาผู้รับเหมาะอยู่หลายเจ้าเหมือนกันสำหรับการสร้าง Studio Theater ห้องนี้ หายากมากครับ เมืองไทยมีไม่กี่เจ้าที่รับทำ แล้วงานที่ออกมาก็ไม่ถูกใจผมเท่าไรครับ เท่าที่เจอคือเค้าจะบุนวมผนังทุกด้าน ทำให้เสียงมัน Dead เกินไป จนมาเจอเจ้านี้นะครับ ผมไม่บอกว่าบริษัทอะไรเดี๋ยวจะเป็นการโฆษณา เอาเป็นว่าเจ้าของบริษัทจบคอร์ส THX ของ Lucas Film และ HAA มาครับ (รู้สึกเมืองไทยจะมีแค่ไม่ถึง 5 คน ถ้าผมจำไม่ผิด) เป็นเจ้าเดียวที่เข้าใจว่าผมต้องการจะทำอะไร เลยตัดสินใจจ้างครับ

โจทย์ของการทำห้องนี้ก็คือ

      1. มันจะต้องกันเสียงได้ ต่อให้ผมทำอะไรบึ้มบั้มกระหึ่มไปสามบ้านแปดบ้าน ตอนตี 3-4 ข้างบ้านจะต้องไม่ได้ยิน

      2. อะคูสติกจะต้องดี เอาง่าย ๆ คือฟังเพลงแล้วเพราะ ดูหนังแล้วโอเค ไม่ก้องเกินไป ไม่ดิบเกินไป เอาให้ได้เหมือนเวลาเราไปมิกซ์เสียงหนังในสตูดิโอครับ

      3. งบห้ามเกิน 2.5 แสน เพราะผมต้องเอาเงินไปซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติมด้วย

มาดูห้องก่อนเริ่มก่อสร้างนะครับ


เนรมิตสตูดิโอกึ่งโรงหนังในบ้าน อลังการได้อีก

        ห้อง Master Bedroom โล่ง ๆ โล้น ๆ เลยครับ มีประตู 2 ด้านขวามือ เป็นประตูเข้าห้องน้ำหนึ่งด้าน ผมจะก่อปิดไปเลยครับ


เนรมิตสตูดิโอกึ่งโรงหนังในบ้าน อลังการได้อีก

        อันนี้อีกด้านหนึ่ง จริง ๆ วิวสวยนะครับ เห็นสวนสาธารณะ แอบเสียดายวิว แต่อยากได้โรงหนังมากกว่า 555


เนรมิตสตูดิโอกึ่งโรงหนังในบ้าน อลังการได้อีก

          เจ้าของบริษัทกับทีมงานมาถึง ขนอุปกรณ์ Death Star เข้าบ้านเลยครับ ตกใจมาก มันคืออะไรวะ !? มันคืออุปกรณ์วัดค่าเสียงของห้องครับ วัดออกมาแล้วห้องนี้ปัญหาเสียงก้องเยอะมาก และเก็บเสียงแทบไม่ได้เลย เสียงออกตามประตูหน้าต่างและเพดานเยอะมาก ผมตัดสินใจไม่เอาหน้าต่างไว้เลยครับ (ถึงได้เสียดายวิวไง) ก่อปิดไปเลย

          ยังไงห้องนี้ก็ฉายโปรเจ็คเตอร์เป็นหลักอยู่แล้ว มันต้องคุมแสงได้ 100% ครับ ห้ามมีอะไรลอดเข้ามา แล้วก็ก่อปิดประตูห้องน้ำไป ประตูกระจก ถอดออก ก่อปิดครึ่งหนึ่ง เหลือระเบียงไว้ครับ เผื่อลูกค้ามาดูหนังแล้วเครียดอยากออกไปสูบบุหรี่ที่ระเบียงก็ไปได้ 555555 (วงการหนังสูบจัดกันทั้งนั้นแหละครับ สูบกันเป็นโรงสีเลย)


เนรมิตสตูดิโอกึ่งโรงหนังในบ้าน อลังการได้อีก

        เริ่มงานครับ ช่างจัดการรื้อวงกบประตูหน้าต่างออกทั้งหมด เอาประตูห้องน้ำออก แล้วก็ก่อปิดครับ


เนรมิตสตูดิโอกึ่งโรงหนังในบ้าน อลังการได้อีก

เนรมิตสตูดิโอกึ่งโรงหนังในบ้าน อลังการได้อีก

        หลังจากก่อปิดแล้ว ดีไซเนอร์จัดการเอาไม้เฌอร่ามาปิดตกแต่ง ให้เข้ากับดีไซน์บ้านของเดิมครับ แต่ยังไม่ได้ติดประตู ประตูเป็นประตูกันเสียงอย่างหนา แบบที่ใช้ในสตูดิโอครับ


เนรมิตสตูดิโอกึ่งโรงหนังในบ้าน อลังการได้อีก

        ตอนนี้ข้างนอกบ้านจะเป็นแบบนี้นะครับ ไม่เหลือหน้าต่างแล้ว เหลือแต่ตรงมุมที่ผมเก็บไว้บานหนึ่งของห้องคอนโทรลครับ ห้องคอนโทรลผมจะเอาเครื่องเสียงที่ไม่ต้องการโชว์ไปวางไว้ในนั้น แล้วไลน์สายลำโพงเข้าไปในโซนที่นั่งชมครับ


เนรมิตสตูดิโอกึ่งโรงหนังในบ้าน อลังการได้อีก

        รูปนี้คือแบ่งโซนกันครับ จะกั้นเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือส่วนที่เป็นโรงหนัง อีกส่วนคือห้องคอนโทรล ก็จะอารมณ์คล้าย ๆ โรงหนังจริง ๆ ที่มีโซนคนนั่ง กับโซนเครื่องฉาย ที่ห้ามคนเข้าไปแหละครับ


เนรมิตสตูดิโอกึ่งโรงหนังในบ้าน อลังการได้อีก

        เนื่องจากเสียงออกทางเพดานมาก เลยต้องเสริมเพดานเข้าไปอีก 4 ชั้น พร้อมฉนวนกันเสียงครับ ในรูปคือกำลังขึ้นโครง


เนรมิตสตูดิโอกึ่งโรงหนังในบ้าน อลังการได้อีก

        ในรูปคือท่อร้อยสายลำโพงครับ เยอะมาก ๆ เยอะจนช่างยังงงว่าอะไรกันหนา 5555 คืองี้ครับ ระบบเสียงที่ใช้คือ 9.1 Channel ลำโพงเลยเยอะครับ พอลำโพงเยอะ สายมันก็เยอะ นี่ยังไม่คิดจะอัพไป Dolby Atmos นะครับ รอให้มันนิ่งก่อนค่อยว่ากัน ช่างร้อยสายแล้วโยงเข้าผนังครับ เพื่อความเรียบร้อยสวยงาม


เนรมิตสตูดิโอกึ่งโรงหนังในบ้าน อลังการได้อีก

        พอร้อยสายเสร็จ ก็เริ่มใส่ฉนวนกันเสียงครับ เป็นฉนวนใยหิน จริง ๆ ผมไม่อยากใช้ครับ สงสารช่าง แต่มันถูกสุดแล้ว T_T


เนรมิตสตูดิโอกึ่งโรงหนังในบ้าน อลังการได้อีก

        ใส่ฉนวนเสร็จก็ปิดผนังทับอีกชั้นครับ จะเห็นว่าสายระโยงระยางทีเดียว ทำโฮมเธียเตอร์ต้องทำตั้งแต่เริ่มตกแต่งแล้วจะดีครับ เก็บงานง่ายกว่ามาทำทีหลัง


เนรมิตสตูดิโอกึ่งโรงหนังในบ้าน อลังการได้อีก

        เสร็จแล้วก็ทาสีครับ ปกติเขาใช้สีแดงกันนะห้องดูหนัง แต่ผมว่ามันร้อนแรงไป อยากให้มันชิล ๆ มากกว่า เพราะทำงานในนี้ครับ เลยเลือกสีนี้ เข้าธีมกับส่วนอื่น ๆ ของบ้านด้วย (ยังตกแต่งไม่เสร็จนะครับ เสร็จแล้วอาจจะมาตั้งกระทู้อีกรอบ)


เนรมิตสตูดิโอกึ่งโรงหนังในบ้าน อลังการได้อีก

        โซนนี้ทาสีดำครับ เพราะเป็นโซนของจอภาพ เดี๋ยวจะเอาลำโพงซ่อนไว้ข้างหลังครับ ทำเหมือนโรงหนังจริง ๆ ที่เอาลำโพงซ่อนไว้ข้างหลังจอภาพเช่นกันครับ ผมไม่เอาลำโพงมาวางข้างนอกครับ ไม่ชอบความรู้สึกของเครื่องเสียงวางเต็มข้างหน้าจอเหมือนนิตยสารเครื่องเสียง ผมว่ารกครับ ไม่สวย


เนรมิตสตูดิโอกึ่งโรงหนังในบ้าน อลังการได้อีก

        มาต่อกันที่งานพื้นครับ ผมยกพื้นสโลป 2 สเต็ป เวลานั่งดูหนังจะได้ไม่บังกัน แล้วเอาโต๊ะที่จะนั่งทำงานไว้บนสุด เหมือนสตูดิโอที่มิกซ์เสียงนะครับ ใต้พื้นผมก็โยงสาย HDMI ไว้ ต่อจากคอมพิวเตอร์บนโต๊ะ เข้าไปที่ห้องคอนโทรล เวลาจะพรีวิวงานที่กำลังทำอยู่ ก็ยิงขึ้นจอหนังได้เลยครับ


เนรมิตสตูดิโอกึ่งโรงหนังในบ้าน อลังการได้อีก

        นอกเหนือจากพื้นแล้ว บนเพดานยังไม่จบนะครับ ที่เห็นในภาพเรียกว่า Sound Absorber ครับ มีหน้าที่ซับเสียง ปรับอะคูสติกห้องให้เสียงดีครับ มีติดที่ผนังอีกชุดหนึ่งด้วย เดี๋ยวจะเห็นในรูปข้างล่างนะครับ


เนรมิตสตูดิโอกึ่งโรงหนังในบ้าน อลังการได้อีก

        ทำสโลปเสร็จแล้วครับ


เนรมิตสตูดิโอกึ่งโรงหนังในบ้าน อลังการได้อีก

        ทีนี้ก็มาถึงงานแสงไฟ ติดขาตั้งลำโพง เห็นตรงผนังข้าง ๆ ไหมครับ 2 ด้านเลย เป็น Sound Absorber อีกชุดหนึ่งครับ


เนรมิตสตูดิโอกึ่งโรงหนังในบ้าน อลังการได้อีก

        ทีนี้มาถึงงานปูพรมแล้วครับ พรมสีเดียวกับผนังด้านหลังเลย (ช่างแซวว่าเหมือนสนามกอล์ฟ 555) เปิดไฟแล้วก็ เอ้ออออ เป็นโรงหนังขึ้นมาแล้วววว


เนรมิตสตูดิโอกึ่งโรงหนังในบ้าน อลังการได้อีก

        ติดแอร์ครับ เป็นแอร์ตัวเก่าที่ย้ายมาจากบ้านเดิมที่ลาดพร้าว มันเงียบดีครับ ผมเลยเอามาใช้ในห้องนี้


เนรมิตสตูดิโอกึ่งโรงหนังในบ้าน อลังการได้อีก

        ทีนี้เริ่มติดลำโพงกันแล้วครับ นับเอาเองว่ากี่ตัว บนเพดานด้วยนะครับ เป็นลำโพง Front Hight เพิ่มมิติทางด้านสูงครับ นี่ยังไม่เสร็จนะครับ เดี๋ยวต้องเก็บบัวอะไรกันอีกมากมาย


เนรมิตสตูดิโอกึ่งโรงหนังในบ้าน อลังการได้อีก

        พาแวะห้องคอนโทรลนิดนึงครับ สายเยอะ ๆ ที่โยงกันเหมือนชุมสายโทรศัพท์จะมาลงที่นี่ครับ เป็นห้องที่ติดตั้งอุปกรณ์แอมป์อะไรต่าง ๆ ที่ผมไม่อยากจะโชว์ข้างนอกครับ วางกันบนชั้นไปเลย ผมไม่เน้นชั้นหรูครับ เพราะมันไม่มีเสียงอะไรมาทำให้มันสะเทือนอยู่แล้วครับ ไม่เหมือนห้องที่เอาเครื่องไปวางไว้ข้างหน้า อันนั้นก็ต้องจ่ายค่าชั้นวางหรู ๆ กันไป


เนรมิตสตูดิโอกึ่งโรงหนังในบ้าน อลังการได้อีก

        อันนี้โซนด้านหลังครับ ติดลำโพง Surround และโปรเจคเตอร์แล้ว


เนรมิตสตูดิโอกึ่งโรงหนังในบ้าน อลังการได้อีก

        โซนข้างหลังเสร็จแล้ว ผมรีบย้ายของมาลง เอาโต๊ะมาวาง เอาโซฟามาตั้งเลยครับ ต้องรีบทำงานไปด้วยครับ ไม่เสร็จช่างมัน พอพรีวิวอะไรได้ก็ยังดีครับ


เนรมิตสตูดิโอกึ่งโรงหนังในบ้าน อลังการได้อีก

        แล้วก็มาทำโซนด้านหน้ากันครับ ติดลำโพงอะไรกันเรียบร้อยไปแล้ว ก็ขึ้นโครงไม้สำหรับจอภาพครับ งานนี้ต้องแม่นเป๊ะกันมาก ๆ คำนวณแล้วคำนวณอีกว่าขนาดมันจะต้องเท่าไรกับระยะของเครื่องฉาย ช่างก็งงผมอีกแล้วครับว่าพี่ทำอะไรของพี่เนี่ยยยยยย (จริง ๆ ช่างทีมไหนมาก็ถามว่านี่มันห้องอะไร 5555)


เนรมิตสตูดิโอกึ่งโรงหนังในบ้าน อลังการได้อีก

        หลังจากติดจอภาพเสร็จ ก็ถึงคราวที่เราจะมาโฟกัสกันที่การ Calibrate ภาพ-เสียง ครับ ทำไมต้อง Calibrate เพราะว่าห้องแต่ละห้องมีขนาดไม่เท่ากัน เสียงที่ออกมาก็ไม่เหมือนกัน การ Calibrate จะช่วยชดเชยให้ภาพและเสียงออกมาเหมือนกับต้นฉบับของสตูดิโอบันทึกเสียงมากที่สุดครับ อันนี้งานละเอียดมาก Sound Engineer มาเองถึง 2 คน พร้อมอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ วัดกันทีละจุด ทีละลำโพงไปเลย เอาให้เป๊ะที่สุดเท่าที่จะทำได้

        ผลออกมาคือ Sound Engineer ปลื้มมากครับ เขาบอกว่ามันออกมาดีเกินคาดเพราะผมให้ช่างยกพื้นสโลป เวทีเสียงกว้างเหมือนเราดูในโรงหนังแบบเป๊ะ ๆ และการเอาลำโพงวางไว้หลังจอ มันมีข้อดีคือเราไม่รู้สึกว่ามันมีลำโพง มันเหมือนเสียงออกจากปากของของตัวละครบนจอเลยครับ ปลื้มทั้งเจ้าของและผู้รับเหมา (มีการชมด้วยนะว่างานนี้ Audiophile มีงง เพราะลำโพงผมไม่ได้แพงเลย แกล้งยอกันเล่นเปล่าไม่รู้ 5555)


เนรมิตสตูดิโอกึ่งโรงหนังในบ้าน อลังการได้อีก

เนรมิตสตูดิโอกึ่งโรงหนังในบ้าน อลังการได้อีก

        เสร็จแล้ว...... หน้าตาเป็นแบบนี้ครับ


เนรมิตสตูดิโอกึ่งโรงหนังในบ้าน

เนรมิตสตูดิโอกึ่งโรงหนังในบ้าน

เนรมิตสตูดิโอกึ่งโรงหนังในบ้าน

เนรมิตสตูดิโอกึ่งโรงหนังในบ้าน อลังการได้อีก

        เอ็นจอยมากครับ ผมพูดเลย ทั้งดูหนังและฟังเพลง ขอบคุณที่ติดตามนะครับ จบละครับ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เจ๋งอะ ! เนรมิตสตูดิโอกึ่งโรงหนังในบ้าน อลังการได้อีก อัปเดตล่าสุด 9 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 15:50:27 4,194 อ่าน
TOP
x close