งานนี้บอกเลยว่าไม่ง่ายหลังจากที่ 2 สาวพี่น้องต้องทุบบ้านเก่าแก่กว่า 20 ปีทิ้งเพื่อสร้าง บ้าน 2 ชั้น หลังใหม่ที่แข็งแรงและอยู่สบายกว่าให้พ่อกับแม่ แต่ปรากฏว่าสิ่งที่พี่สาวและคุณ aiaea83 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ออกแบบไว้ดันแตกต่างออกไปจากบ้านในละแวกเดียวกันเลย แรก ๆ พ่อกับแม่ก็ออกอาการไม่ค่อยปลื้มสักเท่าไร จนเจ้าของกระทู้ต้องเรียกว่า "บ้านลูกเป็ดขี้เหร่" แต่หลังจากสร้างเสร็จก็กลับกลายเป็นหงส์แสนสวยโดยสมบูรณ์
[CR] บ้าน "ลูกเป็ดขี้เหร่" สำหรับพ่อและแม่ โดย คุณ aiaea83
สวัสดีพี่ ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ ทุกคนค่ะ เป็นกระทู้รีวิวครั้งแรกในชีวิต เพราะส่วนมากจะตั้งกระทู้ถามผู้รู้ เอาละนะคะจะเริ่มเกริ่นที่ไปที่มาก่อนจะมาเป็นบ้านลูกเป็ดขี้เหร่ (อาจตกหล่นหรือคำพูดชวนงงไปบ้างต้องขอประทานอภัยด้วยนะคะ)
สืบเนื่องจากบ้านหลังเก่าสร้างมาได้ 20 กว่าปี ซึ่งบ้านก็ผ่านทั้งน้ำท่วมและแผ่นดินไหวจนเริ่มผุพังตามกาลเวลาค่ะ ถึงแม้จะซ่อมแซมแต่มันก็ไม่ทำให้อุ่นใจได้ เนื่องจาก
.gif){kind=icon}
1. พื้นที่ของบ้านเรานั้นต่ำกว่าบ้านที่ขนาบข้างค่ะ เวลาน้ำท่วมหรือฝนตก น้ำมักจะไหลมาขังบ้านเราตลอดค่ะ
2. เพราะแผ่นดินไหว ทำให้บ้านเริ่มแตกร้าวค่ะ 3. สายไฟบ้านมันเก่ามากค่ะ เวลาดูข่าวไฟไหม้เพราะสายไฟเก่าก็กลัวดังนั้นพี่สาวกับเจ้าของกระทู้ก็เริ่มปรึกษากันว่าอยากจะสร้างหลังใหม่แทนหลังเก่าให้พ่อกับแม่ค่ะ เพราะท่านก็มีอายุแล้ว อยากให้อยู่แบบสบาย ๆ ไม่ต้องทนปวดหัวกับเรื่องน้ำบ้างไฟบ้างค่ะ
เมื่อตกลงกันได้ก็นำโฉนดไปปรึกษากับกองช่างของเทศบาลตำบลที่เราอยู่เพื่อให้ทางเขาออกแบบให้ แต่ก็เริ่มเจอปัญหาคือช่างไม่สามารถออกแบบให้ได้เพราะพื้นที่บ้านเราแคบ หน้าบ้านกว้าง 7.5 เมตร ด้านหลังกว้าง 8.5 เมตร และยาว 50 เมตร (ใจนี่อยากจะหักครึ่งมาต่อกันเป็นผืนกว้างจริง ๆ ค่ะ) ช่างเขาบอกให้หาบริษัททำเอง หลังจากนั้นเจ้าของกระทูักับพี่สาวก็เริ่มคิดหนัก ได้แต่งงและมึนไม่รู้จะเริ่มหาบริษัทไหนมาทำ เพราะเวลาเข้ามาหาความรู้ในกระทู้ของห้องชายคา หลาย ๆ คนมักถูกช่างรับเหมาโกงบ้าง หนีงานบ้าง ก็เลยเริ่มกลัว
จนผ่านไปหลายอาทิตย์เจ้าของกระทู้กับแม่ก็ผ่านไปเจอบ้านคนรู้จักที่กำลังสร้าง ซึ่งผลงานที่เห็นก็สวยเตะตามากค่ะ เลยได้พูดคุยกับหัวหน้าของบริษัท ซึ่งเขาได้ให้คำแนะนำมาเป็นอย่างดีและสามารถออกแบบในสิ่งที่เราต้องการได้ จึงตกลงจ้างบริษัทนี้ค่ะ
อย่างแรกที่ต้องทำคือก่อรั้วค่ะ เพราะเราต้องการที่จะถมดินขึ้นจากเดิมประมาณ 50 เซนติเมตร ก็ได้ช่างของบริษัทค่ะ กำแพงอิฐบล็อกฉาบด้านเดียว สูง 2 เมตร ยาว 59 เมตร (100,000 บาทค่ะ)
เมื่อก่อรั้วเสร็จ เราก็เริ่มประกาศขายบ้านเดิมที่เป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ ซึ่งไม้ชั้น 2 เกือบทั้งหมดเป็นไม้สักค่ะ พอดีข้างบ้านมีโรงงานทำเฟอร์นิเจอร์เลยติดต่อขายไป (แอบเสียดายพวกวงกบกับประตูบานเฟี้ยมมากค่ะ) 
เริ่มรื้อค่ะ มันเป็นช่วงเวลาที่แสนจะลำบากมาก เพราะหลังจากรื้อเสร็จไม่มีทั้งที่นอนและห้องน้ำ จะให้ไปนอนที่อื่นก็ไม่ได้เพราะเป็นห่วงน้องหมาและน้องแมวหลายชีวิต เลยต้องซื้อเต็นท์สนามมากางนอนทั้งครอบครัวและอาศัยห้องน้ำบ้านญาติที่อยู่ใกล้ ๆ บ้างหรือไม่ก็ห้องน้ำปั๊มบ้างค่ะ และตอนนี้เองธนาคารที่ยื่นกู้ก็ติดต่อเพื่อเข้ามาประเมิน ผ่านไป 3 วันทางธนาคารก็โทรแจ้งว่ายอดเงินที่ต้องการผ่านค่ะ (ช่วงรอนี่อย่างกลัวว่าจะไม่ผ่านสุด ๆ ค่ะ)
แล้วก็เริ่มถมดินค่ะ พอดีรู้จักกับคนรับถมดิน เลยได้ลดราคานิดหน่อยค่ะ (38,080 บาท สูง 60 เซนติเมตร)
พอถมดินเสร็จ ทางบริษัทก็ได้เข้ามาวัดระดับน้ำค่ะ พอได้แล้วก็ใช้เชือกผูกทำเครื่องหมายไว้ พออีกวันก็เริ่มเข้ามาขุดเพื่อวางเสาเอกค่ะ
วันที่ 9 มีนาคม 2558 เวลา 09.09 น. บ้านเราได้ทำพิธีลงเสาเอกค่ะ (เริ่มแล้วบ้านของเรา)
พอลงเสาเอกแล้ว ก็เริ่มลงเสาต้นต่อไปค่ะ ซึ่งทางช่างเขาบอกว่าใส่เหล็ก 8 เส้น จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องแผ่นดินไหวค่ะ (รูปเยอะมากค่ะ อาจจะเล่าได้ไม่หมด เล่าด้วยภาพแล้วกันนะคะ) 
เริ่มวางคานคอดินค่ะ ถมดินสูง 60 เซนติเมตรและยกบ้านอีก 50 เซนติเมตร หนีน้องน้ำสุดตัวค่ะ >[]<
เริ่มตั้งเสาชั้น 1 ค่ะ
ปัญหาเกิดอีกแล้วค่ะ เนื่องจากแผ่นสำเร็จที่ทางร้านนำมามันแตกร้าวเยอะมากค่ะ นี่ยังคิดว่าถ้าไม่ยืนดูคงถูกวางเต็มชั้น 1 ไปแล้ว
เมื่อพื้นชั้น 1 แห้งก็เริ่มตั้งตุ๊กตาไม้ค้ำคานชั้น 2 ค่ะ
เทคานและเสาชั้น 2 ค่ะ
พอเทเสาเสร็จทิ้งไว้ประมาณ 2 วันก็แกะไม้แบบคานกับเสาออกและเริ่มวางแผ่นสำเร็จชั้น 2 
เทพื้นชั้น 2
เมื่อพื้นแห้งดีแล้วก็เริ่มตั้งตุ๊กตาค้ำคานค่ะ เนื่องจากเราจะซ่อนหลังคาไว้ด้านใน
สิบกว่าวันเห็นจะได้ คนงานก็เริ่มเอาไม้ค้ำชั้น 1 ผ่านไป 5 วันชั้น 1 ก็สำเร็จค่ะและเริ่มก่อชั้น 2 (คนงานช่างชุดนี้งานเขาไวจริง ๆ ค่ะ วันอาทิตย์ไม่หยุดเลย ทำให้งานเดินเร็วมาก จนคนงานต้องเดินมาถามโฟร์แมนที่คุมว่าต้องทำอะไรอีกเพราะอิฐหมดแล้ว)
เมื่ออิฐมาส่งพร้อมใช้ ชั้น 2 ก็มาค่ะ ช่วงที่ก่อชั้น 2 ช่างเหล็กอีกกลุ่มก็เข้ามาทำโครงหลังคาค่ะ เราเลือกใส่กระเบื้องลอนเพราะพ่อกับพี่ไม่อยากได้เมทัลชีทเนื่องจากเสียงดังค่ะ 
พอใส่กระเบื้องลอนปุ๊บทำให้เจอปัญหาทันทีค่ะ เนื่องจากสถาปนิกออกแบบให้ลาดชันน้อยเกินไปบวกกับคนที่สั่งของสั่งตะขอเกี่ยวกระเบื้องแบบสมัยก่อนไม่เป็นลอนเลยกระดก ฝนตกทีถึงกับนองพื้นค่ะ ทำให้ต้องรื้อกระเบื้องออกใหม่หมด ซึ่งกว่าจะไม่รั่วก็กินเวลาเป็นเดือน โชคดีที่ช่วงนั้นฝนตก เราเลยได้เช็กสภาพว่ามันยังรั่วอยู่หรือเปล่า พอไม่รั่วก็เดินหน้าต่อค่ะ
ท่อน้ำและท่อไฟใช้ช่างคนละชุดหมดค่ะ งานเลยไวมาก (แต่บ้านแคบลงไปถนัดตาเพราะคนเยอะเหลือเกิน)
บ้านพร้อมฉาบแล้วค่า
โดยช่างจะใช้น้ำรดอิฐก่อนที่จะฉาบรอบแรกค่ะ เสร็จแล้วก็จะนำตาข่ายบาง ๆ ปิดทับช่วงเอ็นทับหลังทั้งหลังค่ะ
ช่างเริ่มช่วยกันฉาบ โดยเริ่มจากหลังบ้านค่ะ 
การขัดมันนี่มันช่างบีบหัวใจจริง ๆ ค่ะ คือกลัวมันจะออกมาไม่สวยอย่างที่อยากได้ แต่ดีที่ช่างสร้างบ้านแนวนี้มาหลายหลังเลยทำให้ง่ายขึ้นค่ะ ที่จริงบ้านแนวโมเดิร์นแบบนี้ เป็นความต้องการและอยากได้ของลูกสาวทั้ง 2 ค่ะ แม้ตอนแรกพ่อกับแม่จะไม่ค่อยชอบเพราะไม่เคยเห็น เนื่องจากบ้านในหมู่บ้านจะมีแต่แบบบ้านทรงจั่วเหมือน ๆ กัน ซึ่งบ้านเราเป็นบ้านทรงโมเดิร์นหลังแรกของหมู่บ้านค่ะ แต่พอออกมามันสวยถูกใจ พ่อกับแม่ก็เลยชอบใจไปด้วยค่ะ ^^
เริ่มตกแต่งตามแบบที่เราต้องการค่ะ เริ่มจากก่ออิฐโชว์แนว ตอนแรกอยากจะทาสีขาว แต่ช่างบอกว่ามันจะซีดไปเป็นสีอิฐดีกว่า เอ๊า ! เชื่อก็เชื่อค่ะ (ช่างที่ทำนี่ใจเย็นมากค่ะ ค่อย ๆ ทำไป วัดไป วางไป)
และช่างเหล็กชุดเดิมก็มาทำบันได เราใช้เหล็กไอบีมค่ะ ซึ่งตอนแรกพ่อบ่นหนักมากเพราะมันมีเส้นเดียว เขากลัวมันเอียงไปมา แต่พอทำแล้วมันแข็งแรงมากค่ะ 
ต่อไปก็เริ่มติดกระเบื้องผนังห้องน้ำค่ะ ซึ่งใช้ช่างที่ทำอิฐโชว์แนว (เนื่องจากฝีมือดีที่สุดของกลุ่ม) เป็นห้องน้ำที่ตามใจฉันมากค่ะ จับปน ๆ กันมีหลายแนวจนเริ่มสงสัย นี่มันสวยเหรอฟะ !? 
เมื่อห้องน้ำเสร็จเรียบร้อย ก็เริ่มทำพื้นชั้น 1 และชั้น 2 ค่ะ
เริ่มติดตั้งไฟค่ะ 
แต่แล้วปัญหาก็เกิดกับขอบหน้าต่างค่ะ ฝนตกเยอะทำให้ซัดขอบหน้าต่างและไหลนองพื้นค่ะ แก้ไม่หายสักที 
งานบันไดที่มีแต่เหล็ก ช่างก็เข้ามาติดไม้ค่ะ ซึ่งใช้ไม้ฉำฉาเป็นตัวบันได แต่เราอยากได้ลูกเล่นนิด ๆ หน่อย ๆ เพิ่ม เลยนำไอเดียที่ได้จากห้องชายคามาใช้ค่ะ โดยบอกช่างว่าอยากได้แผงเหล็กกั้นบันไดด้านซ้าย ด้านขวาขอราวจับ โดนใช้เอ็นขึงเป็นดีไซน์
โรงรถค่ะ พอดีเห็นแบบในอินเทอร์เน็ตแล้วชอบเลยส่งให้ช่างดู แต่พอออกแบบมาไม่ค่อยเหมือนแต่ก็พอรับได้ค่ะ
เมื่องานในบ้านเริ่มแล้วเสร็จก็มาถึงหน้าบ้านค่ะ เราตกลงกับทางช่างว่าจะเทเต็มพื้นที่ด้านหน้า แต่ตอนนี้ก็เริ่มหนักใจเรื่องประตูรั้วหน้าบ้านค่ะ เพราะหน้าบ้านแคบจะใช้ประตูแบบไหนดีที่สามารถมีพื้นที่ให้กว้างมากที่สุด จนมาจบลงตรงที่ใช้รั้ว 2 รางค่ะ โดยเริ่มก่อสองข้างเข้ามาอย่างละเมตรนิด ๆ
หลังบ้านนี่เราได้เพิ่มหลังคาโพลีเหมือนโรงรถค่ะ
บ้านหลังนี้ที่เรียกว่า ลูกเป็ดขี้เหร่ ก็เพราะว่ามันเป็นบ้านที่แปลกแยกไม่เหมือนกับบ้านหลังอื่น ๆ ซึ่งบางคนอาจจะมองว่าสวยหรือไม่สวย เพราะบ้านเราสร้างจากความต้องการที่ผสมปนเปชนิดที่เรียกได้ว่ามั่วมากค่ะ แต่เราก็ภูมิใจที่ทำให้พ่อกับแม่ได้มีชีวิตที่แสนสบายในบ้านหลังใหม่ ซึ่งถึงแม้ในตอนแรกท่านทั้งคู่จะไม่ค่อยชอบเท่าไร แต่พอออกมาสวยงามจนคนในหมู่บ้านต้องแวะเวียนมาขอชม ท่านทั้งคู่ก็ถึงกับยิ้มออกค่ะ เราเคยมานั่งคุยกันทั้งครอบครัว พ่อกับแม่ได้พูดว่า ไม่เคยคิดเคยฝันว่าจะได้มาอยู่บ้านแบบนี้ ซึ่งตอนนั้นเราก็น้ำตาคลอเหมือนกันค่ะ กว่าบ้านหลังนี้จะเสร็จสมบูรณ์อาจจะต้องรออีกสักหน่อย แต่พอถึงวันนี้อยากจะขอบคุณเพื่อนของพี่สาวที่ให้พวกเรายืมเงินก้อนหนึ่งมาใช้ในช่วงแรก ขอบคุณพี่ป้าน้าอาที่ช่วยเหลือ ขอบคุณพี่สาวที่สร้างฝัน สร้างบ้านหลังนี้ขึ้นมา และขอบคุณพ่อแม่ที่ทำให้พวกเรามีแรงผลักดันสร้างบ้านนี้ขึ้นมา โดยใช้เวลา 6 เดือนเต็มกับการรอคอยขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตาม "บ้านลูกเป็ดขี้เหร่" นะคะ ^^
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ aiaea83 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
