แปลงปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์ ที่เจ้าของกระทู้มาพิสูจน์ให้เห็นว่า ใคร ๆ ก็ทำแปลงปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์ได้ แม้พื้นที่จะเล็กและแคบแบบหน้าบ้านทาวน์เฮ้าส์ของเขา
ในแต่ละเดือนเราซื้อผักมากินก็ไม่น้อย แถมยังเสี่ยงกับอันตรายจากสารเคมีตกค้างอีก วันนี้เลยอยากจะชวนทุกคนมาทำแปลงปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์เล็ก ๆ แต่สามารถเก็บกินได้ตลอดปีและการันตีความคุ้มค่า ไปพร้อม ๆ กับ คุณสมาชิกหมายเลข 2692247 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่นำตัวอย่างแปลงปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์ของตัวเองมาให้ชม เผื่อใครอยากจะมีผักสดปลอดสารพิษไว้กินบ้าง
แปลงปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์ สำหรับบ้านทาวน์เฮาส์ 16 ตร.ว. (ขอมอบวิทยาทานความรู้) โดย คุณสมาชิกหมายเลข 2692247
แปลงปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์สำหรับบ้านทาวน์เฮาส์ 16 ตารางวา ที่นำมาเขียนรีวิวให้ชมวันนี้เพราะ...
1. ออกแบบสำหรับผู้มีพื้นที่ปลูกน้อย ขนาดความกว้าง 50 ซม. x ยาว 150 ซม. x สูง 200 ซม.
จงใจออกแบบให้หลังคากันฝน เนื่องจากพื้นที่มีจำกัด (ถ้าให้กางออกจะไปติดด้านหลังครับ)
จากที่เฝ้าดูเวลาฝนตก น้ำไหลเข้าท่อนิด ๆ หน่อย ๆ ไม่เคยเข้ามาเยอะท่วมรากจนมิดสักที
ผมจึงเลือกใช้ท่อสามทางแบบลดขนาด เพราะผมไม่อยากเจาะท่อพีวีซีครับ
2. ออกแบบเป็นระบบน้ำนิ่งและน้ำวน (แต่พอทดลองเลี้ยงแล้วผักสวย ผมจึงไม่ต่อปั๊มน้ำและระบบถ่ายเทน้ำลงตามชั้นปลูก)
3. ออกแบบให้สามารถจอดรถหน้าบ้านได้ ไม่เกะกะบ้านคนอื่น (ไม่ได้วางบนฟุตบาท อยู่หน้าบ้านไม่ได้เกะกะใคร และไม่มีทางเดินต่อกัน มันเป็นทางลาดหน้าบ้านครับ)
4. ลงทุนค่าวัสดุไปประมาณ 3,000 กว่าบาท (ถ้าอยากปลูกต้องลงทุนครับ ระยะยาวยังไงก็คุ้มทุนเพราะปลูกเองไม่ต้องซื้อผักสลัดอีกแล้ว)
5. รูปที่ถ่ายมาลงพันทิปยังไม่ได้คลุมมุ้งกันแมลงนะครับ
6. สามารถปลูกได้ครั้งละ 81 ต้น
ต้นไหนโตแล้วก็เก็บทานได้เลยครับ แล้วนำต้นกล้ารุ่นใหม่มาปลูกแทน ก็จะได้ผักหมุนเวียนไว้กินตลอดปีครับ
ต้นที่จะนำไปกินแยกใส่ถังแช่น้ำเปล่า (เฉพาะราก) ทิ้งไว้ 2 วันก็นำมาทานได้แล้ว (ผักไม่เหี่ยวครับ ผมทดลองแล้ว)
7. หลังจากนำผักออกมาจากรางปลูก ควรนำมาแช่น้ำเปล่าทิ้งไว้ 2 วัน (น้ำห้ามท่วมรากจนมิด) แล้วแช่ตู้เย็นไว้สัก 1 วัน (ลดปริมาณสารเคมีตกค้างจากน้ำปุ๋ย) ผมเชื่อว่าผักที่ปลูกแบบไฮโดรโปรนิกส์ ไม่ได้ปลอดภัย 100% แต่ดีกว่าเจอสารจากยาฆ่าแมลงเต็ม ๆ
สรุปผมจะไม่อธิบายเรื่องการปูกและการเพาะเลี้ยงนะครับ (เพราะในกระทู้อื่น ๆ บอกหมดแล้ว ก็ทำตามนั้นไปครับ) ต้องการมาบอกว่าบ้านทาวน์เฮาส์ก็สามารถปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์ได้ครับ เพียงแต่ต้องออกแบบให้เหมาะกับตัวบ้านเท่านั้นเอง
ส่วนภาพด้านล่างนี้เป็นการทดลองปลูกรุ่นที่ 1 ครับ (ตอนเพาะต้นกล้า ผมเอาไปไว้ในที่ร่ม นานไปต้นผักเลยยืด) แต่ตอนปลูกผักที่ 2 ลำต้นไม่ยืดแล้วครับ ส่วนแปลงปลูกผมใช้แบบ 3 ชั้น จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องแสงแดดครับ เพราะถ้าด้านบนโตแล้วแค่ย้ายลงมาชั้นล่างแล้วปล่อยทิ้งไว้ให้โตเอง ก็หมดปัญหาแล้วครับ
ได้เวลาแปรรูปผลผลิตแล้วครับ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณสมาชิกหมายเลข 2692247 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม