บ้านพักตากอากาศ อาจเป็นบ้านในฝันที่ใครหลายคนอยากจะมีเป็นของตัวเองสักหลัง แต่ช้าก่อนเพราะบางทีอาจไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นต้องลงทุนซื้อขนาดนั้นก็ได้
เวลาไปเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ แล้วรู้สึกถูกอกถูกใจสถานที่นั้น ๆ เป็นพิเศษ หลาย ๆ คนอาจจะอยากสร้างบ้านพักตากอากาศไว้สักหลังจะได้ไม่ต้องเสียค่าเช่าโรงแรม อยากจะมาพักเมื่อไรก็มาได้เลยและอาจปล่อยเช่าเป็นบางครั้งช่วยหารายได้เข้ากระเป๋าอีกทาง แต่อย่าลืมว่าทุกอย่างย่อมมี 2 ด้านเสมอ ตอนนี้อาจจะมองเห็นแค่ด้านดีของการซื้อบ้านพักตากอากาศ แต่ลืมคำนึงถึงปัจจัยอีกหลาย ๆ อย่าง วันนี้เลยขอนำคำแนะนำจากเว็บไซต์ TerraBKK.com มาฝากกัน ไว้คิดทบทวนพิจารณากันให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุนกับบ้านพักตากอากาศ
เช่าหรือซื้อบ้านพักตากอากาศ ? (Terrabkk)
บ้านพักตากอากาศ หนึ่งความคิดที่ทุกคนใฝ่ฝันอยากเป็นเจ้าของ ด้วย “คุณสมบัติเด่น” ที่ฝังอยู่ในใจ ได้แก่
เป็นมรดกหรูหราส่งต่อให้ลูกหลาน
ตอบโจทย์ Life Style ความเป็นส่วนตัวสูงสุด หลบหนีความพลุกพล่าน
สร้างผลตอบแทนในรูปแบบค่าเช่าและทำกำไรเมื่อขาย
แต่ความเป็นจริงแล้วรายละเอียดที่ซ่อนอยู่อาจไม่สวยงามเสมอไป แน่นอนว่าคนที่สามารถซื้อบ้านตากอากาศได้นั้น พื้นฐานคงต้องมีฐานะอยู่ก่อนแล้ว การตัดสินใจเพิ่มจำนวนทรัพย์สินในรูปแบบบ้านตากอากาศจึงเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับคนทั่วไปที่ไม่ได้เงินถุงเงินถังมากมาย ไม่ได้แปลว่าจะไม่มีโอกาสซื้อหาเป็นเจ้าของบ้านตากอากาศในฝันสักทีเดียว TerraBKK ขอเปิดประเด็นสำคัญเพื่อเปิดมุมมองที่ว่า "เช่าหรือซื้อบ้านตากอากาศ ควรจะตัดสินใจอย่างไร ?"
TerraBKK ขออธิบายการลงทุนบ้านพักตากอากาศเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ การเช่าพัก บ้านตากอากาศตามโอกาศพักผ่อนและการซื้อบ้านพักตากอากาศใน 2 รูปแบบคือ ใช้ทุนตนเองและกู้แบงค์ ทั้งนี้เพื่อให้การอธิบายเป็นที่เข้าใจอย่างง่าย ขอยกตัวอย่างดังนี้
"บ้านพักตากอากาศหลังหนึ่งราคา 3.5 ล้านบาท ขนาด 60 ตารางวา ริมทะเล จ.ระยอง (เป็นบ้านขนาดมาตรฐาน สามารถปล่อยเช่าได้ ณ ราคาตลาดที่ 3,000 บาท/วัน) ตั้งใจว่าซื้อเพื่อใช้เป็นสถานที่พักผ่อนส่วนตัว (อาจปล่อยเช่าเป็นครั้งคราว) และถือครองเป็นระยะเวลา 20 ปี ด้วยทางเลือก 2 ทางดังนี้
1.ซื้อเงินสดคือ ใช้ทุนตัวเอง เป็นเงินสดราคาเต็ม 3.5 ล้านบาท
2.ซื้อเงินผ่อนคือ ใช้ทุนตนเอง 500,000 บาทและกู้แบงค์ 3 ล้านบาท ระยะเวลา 15 ปี ผ่อนค่างวดเดือนละ 25,000 บาท (ปีละ 300,000 บาท)"
จากตัวอย่างTerraBKK ขออธิบายเป็นตารางรายรับรายจ่ายที่เกิดขึ้นในแต่ละกรณีดังนี้
TerraBKK กล่าวถึงตารางข้างต้นว่า
การลงทุนซื้อบ้านพักตากอากาศราคา 3.5 ล้านบาทและถือครองไป 20 ปี ในกรณีซื้อเงินสดจะได้กำไร 4.99 ล้านบาท ขณะที่กรณีซื้อเงินผ่อนจะได้กำไร 3.56 ล้านบาท เพราะการลงทุนซื้ออาคารเพื่อการอยู่อาศัย ไม่ใช่เพื่อการเก็งกำไรหรือสร้างรายได้ด้วยวิธีการซื้อเงินสด จะเป็นการจำกัดเงินทุนที่ไม่มีต้นทุนเพิ่มในรูปแบบดอกเบี้ยธนาคารเหมือนวิธีการซื้อเงินผ่อน และดูเหมือนว่าการลงทุนซื้อบ้านพักตากอากาศไม่ว่าวิธีใดก็ตาม ย่อมได้ผลประโยชน์กลับมามากกว่าการเช่าพักที่ต้องเสียค่าเช่าไปโดยเปล่าประโยชน์
ทั้งนี้ทั้งนั้น TerraBKK ขอเปิดประเด็นสำคัญที่ทุกคนอาจมองข้ามไปด้วยความประมาทดังนี้
1. สถานที่ท่องเที่ยว
การซื้อบ้านพักตากอากาศทำให้ต้องท่องเที่ยวสถานที่เดิม ๆ สร้างความบันเทิงใจในการพักผ่อนได้จริงหรือไม่ เพราะอาจเกิดความเบื่อหน่ายจำเจกับสถานที่เดิม ๆ ขณะที่การเช่าพักไม่มีภาระผูกพัน จึงสามารถเปลี่ยนสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ได้ตลอดเวลา
2. งบประมาณการท่องเที่ยว
การซื้อบ้านพักตากอากาศทำให้ต้องลดทอนงบประมาณการท่องเที่ยวลด เช่น ค่าผ่อนชำระ 300,000 บาทต่อปี หากไม่ซื้อบ้านพักตากอากาศ สามารถนำเงินไปท่องเที่ยวต่างประเทศยกครอบครัวได้ในทุกปี เป็นต้น
3. โอกาสการท่องเที่ยว
การซื้อบ้านพักตากอากาศต้องมั่นใจว่ามีเวลาได้อยู่อาศัยจริง เช่น ราคาบ้านพักตากอากาศ 3.5 ล้านบาทคิดอายุสิ่งปลูกสร้างที่ 20 ปี เท่ากับว่าบ้านพักตากอากาศมีมูลค่า 175,000 บาทต่อปี หากคิดค่าเช่าพักที่ 3,000 บาทต่อวันต้องอยู่อาศัยจริงกว่า 2 เดือนจึงจะเกิดความคุ้มค่า หากมีเวลาอยู่อาศัยน้อยกว่านั้น ไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้อบ้านพักตากอากาศ แล้วนำเงินจำนวนดัวกล่าวไปลงทุนทรัพย์สินประเภทอื่นอาจก่อให้เกิดประโยชน์มากกว่าก็เป็นได้
4. ภาระการดูแลรักษา
การซื้อบ้านพักตากอากาศทำให้เกิดภาระค่าใช้จ่ายอื่น แม้ไม่ได้เข้าอยู่อาศัย เช่น ค่าส่วนกลางหรือค่าซ่อมแซม เป็นต้น แม้บ้านพักตากอากาศสามารถสร้างความเป็นส่วนตัว แต่อาจไม่สะดวกสบายเหมือนการเช่าพักที่พร้อมด้วยบริการและอาหาร
5. การสร้างรายได้เสริม
บ้านพักตากอากาศมีโอกาสต่ำที่จะสร้างรายได้เสริมในรูปแบบค่าเช่าได้อย่างสม่ำเสมอ ยิ่งหากซื้อด้วยเงินผ่อนมีความเป็นไปได้สูงที่ต้องควักเนื้อใช้เงินทุนตัวเอง เพราะค่าเช่าไม่ครอบคลุมค่าผ่อนงวดนั้น ๆ รวมทั้งมีต้นทุนการดำเนินการเช่าด้วย
6. การขายเปลี่ยนมือ
บ้านพักตากอากาศมีสภาพคล่องไม่สูงนัก เนื่องจากลักษณะเฉพาะทางประโยชน์ใช้สอยเป็นไปเพื่อการพักผ่อน มีผู้ซื้อเฉพาะกลุ่มที่มีกำลังทรัพย์ ซึ่งมีโอกาสและทางเลือกมากมายในการซื้อบ้านพักตากอากาศได้ตามความพึงพอใจ
แม้ว่า “ซื้อหรือเช่าบ้านพักตากอากาศ” จะขึ้นอยู่กับความพึ่งพอใจของบุคลลนั้น แต่ท้ายนี้ขอแนะนำว่าควรพิจารณาโอกาสในการเข้าอยู่อาศัยหรือจำนวนวันที่พักอาศัยเป็นสำคัญ เพราะการเป็นเจ้าของบ้านพักตากอากาศเหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ที่มีคนหมุนเวียนเข้ามาอยู่อาศัยสม่ำเสมอ หรือในโครงการที่มีระบบบริหารการเช่าเต็มรูปแบบ
แม้การพักผ่อนจะเป็นสิ่งสำคัญในการเติมพลังให้กับชีวิต แต่อย่าด่วนตัดสินใจลงทุนด้วยอารมณ์ชั่ววูบ จะก่อให้เกิดผลกระทบทางการเงินได้ หากท่านยังมีฐานะการเงินไม่แข็งแรงมากพอ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก