ไอเดียแต่งบ้านสไตล์อิเล็กทริก โดยการนำของเก่าและของใหม่มาผสมผสานและตกแต่งให้เข้ากันได้อย่างลงตัว เป็นสไตล์การตกแต่งบ้านที่มีทั้งความคลาสสิกและทันสมัยในหลังเดียวกัน
ไอเดียแต่งบ้านสไตล์อิเล็กทริก ที่เกิดจากการนำของเก่าและของใหม่มาผสมผสานในการตกแต่งบ้าน และมีทั้งกลิ่นอายความเป็นตะวันตกกับตะวันออกอยู่ในตัว หากชอบสไตล์การตกแต่งบ้านที่มีทั้งความคาสสิก ทันสมัย และย้อนยุคในหลังเดียวกัน วันนี้ คุณ Teerannosaurus สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ก็จะมาบอกเล่าเกี่ยวกับการตกแต่งบ้านสไตล์อิเล็กทริกให้ฟังกันค่ะ
สวัสดีครับ วันนี้เจ้าของกระทู้อยากจะเขียนรีวิวแนวคิดการแต่งบ้านแบบผสมผสานระหว่างตะวันตกผสมตะวันออก ของเก่าผสมของใหม่ และคลาสสิกผสมวินเทจ สืบเนื่องมาจากเจ้าของกระทู้มีความชอบหลากหลาย โน่นก็ชอบ นี่ก็สวย ของสะสมเก่า ๆ ก็มี แฟนก็มีโจทย์เพิ่มให้อีก ผมเอาโจทย์ทุกอย่างมายัดเข้าไปในบ้านหลังเดียวกัน ซึ่งผลลัพธ์ออกมาก็ภูมิใจเลยล่ะครับ ผมเลยอยากแชร์ผลลัพธ์และกระบวนการคิด เผื่อใครชอบแนว ๆ เดียวกันจะได้หยิบจับไปใช้กันบ้างนะครับ
สู่ขอตั้งแต่ยังไม่ได้ดูตัว
- เมื่อปลายปีที่แล้วเจ้าของกระทู้ได้ซื้อบ้านที่เชียงใหม่ไว้หลังหนึ่ง เราเลือกซื้อบ้านเดี่ยวจัดสรรเพราะเรา 2 คนอยู่กรุงเทพฯ เป็นหลัก ช่วงที่ไม่ได้ขึ้นไปเชียงใหม่ จะได้ฝากส่วนกลางดูแลอะไรต่อมิอะไรได้ จริง ๆ เราคุยกันมาก่อนหน้านี้แล้วว่า อีกหน่อยเราจะเลิกจากงานประจำแล้วย้ายไปอยู่เชียงใหม่กัน ว่าแล้วผมก็ส่งแฟนขึ้นไปดูลาดเลาก่อน ผมหาหมู่บ้านที่น่าสนใจจากในอินเทอร์เน็ตแล้วส่งลิสต์ให้แฟนลองไปดู ช่วงที่เขาขึ้นไปทำงานที่เชียงใหม่ก็เราคุยกันว่าเราไม่รีบ ดู ๆ ไปก่อน เจอถูกใจก็ค่อยซื้อ
- พอแฟนกลับมาพร้อมโบรชัวร์ของหมู่บ้านก็บอกว่า "ไปดูที่นี่มาสวยมาก ๆ เลย เขาว่าตัวเองต้องชอบ" ผมดูหน้าตาโบรชัวร์แล้วยังคิดอยู่ว่าไม่เหมือนที่ส่งลิสต์ไปให้นี่หว่า เลยถามว่า "แล้วที่อื่น ๆ ที่ให้ไปล่ะ เป็นยังไงบ้าง" แฟนตอบว่า “เปล่า ไม่ได้ไป เขาว่าที่นี่หนะดีแล้ว แต่ต้องรีบจองนะเพราะโปรโมชั่นเขาอีกแค่ 2 อาทิตย์"
- แฟนจับมัดมือชกซะขนาดนี้จะทำไงได้ ผมโอนเงินจองไปเลยครับทั้งที่เห็นแต่โบรชัวร์กับแปลนบ้าน ธนาคารทำเรื่องประเมินกับกู้ให้แล้วเสร็จใน 2 สัปดาห์ ส่วนบ้านจริง ๆ ก็ไปเห็นกันวันโอนนั่นแหละ จบกระบวนการซื้อบ้านทั้งหมดภายใน 14 วัน
แรกพบ
- เจ้าของกระทู้ลางานวันศุกร์เพื่อนัดโอนตอนบ่ายวันศุกร์นั้นเลย ช่วงเช้าลงเครื่องเราแวะดูบ้านก่อน บ้านก็ดูอบอุ่นสวยงามทีเดียวแหละ แค่หน้าตาภายนอกธรรมดาไปหน่อย (ในสายตาเจ้าของกระทู้) แต่ข้อดีของที่นี่คือวัสดุอุปกรณ์และงานช่างต่าง ๆ ถือว่าดีเลย แปลนฟังก์ชั่นต่าง ๆ ตอบโจทย์การใช้งานจริง ๆ เราไม่ต้องทำอะไรเพิ่มมาก
- ส่วนห้องรับประทานอาหาร คิดตั้งแต่เห็นแปลนเลยว่าจะบิวท์อินม้านั่งยาวด้านนึงเพื่อวางโต๊ะกินข้าวไว้ เราอยากใช้โซนนี้ทำงานที่มีที่เสียบปลั๊กและเล่นแล็บท๊อปได้ด้วย เลยอยากให้ดูสบาย ๆ นิดนึง
- มีมุมลึกเข้าไปแปลก ๆ แบบนี้ ตอนแรกว่าจะทำบานเลื่อนปิดส่วนนี้ไป ใช้เป็นส่วนที่เก็บของ
- ชั้น 2 เป็นโถงใหญ่ก่อนแยกย้ายเข้าห้องนอน 3 ห้อง ห้องนี้มีสัดส่วนแปลก ๆ ผมเลยคิดว่าจะกั้นผนังให้เป็นส่วนของห้องพระ
- ห้องนอนใหญ่มีหน้าต่างค่อนข้างเยอะ มีมุมแปลก ๆ อีก ยังนึกไม่ออกว่าจะจัดยังไง
- ส่วนนี้เป็นโถงบันไดเหมือน ๆ บ้านจัดสรรทั่วไปครับ
เจ้าสาวในอุดมคติ
ผมชอบของเก่าแนวแอนทีค ชอบภาพเขียนที่สะสมมาตั้งแต่บ้านหลังแรก (หลังนี้เป็นหลังที่ 3 แล้วที่อยู่ด้วยกันกับแฟน) เพราะของแต่ละชิ้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ชอบวัสดุที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ขัดแต่งเยอะ เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ส่วนใหญ่เลยเป็นแบบลอยตัว ซื้อเป็นชิ้น ๆ ผมไม่ค่อยเลือกพวกที่จัดมาเป็นเซตหรือพวกวัสดุปิดผิว ส่วนแฟนผมเป็นพวกมนุษย์เห็นผี แฟนรู้ว่าผมชอบของเก่า แต่ขอว่าอย่าให้ดูขลังก็พอ เดี๋ยวจะไม่กล้าอยู่ ผมเลยเลือกแต่งแบบผสมของใหม่กับแอนทีค โดยอยากให้ภาพรวมเหมือนบ้านแบบฝรั่ง
การตกแต่งแบบนี้เรียกว่า อิเล็กทริก สไตล์ (Eclectic Style) คือ การตกแต่งแบบผสมผสาน โดยการมิกซ์แอนด์แมตช์เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งหลายรูปแบบต่างยุค ต่างสมัย ต่างสไตล์ ให้เข้ากันโดยการจัดองค์ประกอบหรือการใช้สีสันที่ไปในทางเดียวกัน การตกแต่งแบบนี้จะใกล้เคียงกับสไตล์ แม็กซิมาลิซึม (Maximalism) ซึ่งทั้ง 2 สไตล์ยืนอยู่บนแนวความคิด More is More ถ้าลองเสิร์ชกูเกิลด้วยคำว่า อิเลคทิค สไตล์ (Eclectic Style) ก็จะเห็นภาพครับ
คอร์สเจ้าสาว
ความลำบากของการแต่งบ้านหลังนี้คือ ตัวบ้านอยู่เชียงใหม่ เราไม่รู้จักผู้รับเหมาหรือใครที่เชียงใหม่เลย เลยอาศัยโครงการช่วยเหลือหลาย ๆ อย่าง ตั้งแต่บิวท์อิน ทาสี หาช่างมาติดผ้าม่าน ติดมุ้งลวด ติดแอร์ ช่วยรับของ และเก็บของ ซึ่งต้องบอกว่าโครงการให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดีตลอดหลายเดือนที่แต่งบ้านจนจบงาน พอมีงานที่บกพร่องต้องแก้ไขก็รีบแก้ไขให้ ไม่มีบิดพลิ้ว เรื่องความรับผิดชอบ ผมให้คะแนนเต็มหรือเกือบเต็มนะกับโครงการนี้
ผมส่องแนวทางแต่งบ้านจากเว็บไซต์ Pinterest เป็นหลัก สังเกตว่าบ้านฝรั่งจะมีรายละเอียด เช่น บัวพื้น เพดาน คิ้วประตู และหน้าต่างที่สวยมาก ทำให้ภาพรวมดูเนี้ยบขึ้น ผมเลยติดบัวเพดานและคิ้วประตูเพิ่ม ช่างที่ใช้ก็เป็นช่างชุดเดียวกับที่ทำบ้านตัวอย่างให้โครงการ ซึ่งเขาก็รับงานอยู่ในโครงการนั่นแหละ แต่มีข้อจำกัด เช่น ลายลูกฟักของหน้าบานตู้หรือสี จะจำกัดเฉพาะที่มีอยู่ในบ้านตัวอย่าง ซึ่งมีอยู่ไม่กี่แบบ ดังนั้นส่วนของบัวและกรอบประตูมีแค่แบบเดียว ไม่มีให้เลือกครับ และมีเฉพาะสีขาวเท่านั้นไม่มีสีอื่น
- ภาพนี้ขอให้ช่างถ่ายส่งมาให้ทางมือถือ เพื่อตรวจดูงาน (อาจไม่ค่อยสวยนะครับ)
- ส่วนบิวท์อิน ผมเลือกบิวท์อินเฉพาะตู้เสื้อผ้าห้องนอนใหญ่ ห้องนอนเล็ก 1 ห้องและใต้ซิงค์ในห้องน้ำทั้ง 4 ห้อง ตู้เสื้อผ้าห้องนอนใหญ่ ทำรูปเป็นตัวแอล (L)
- หัวเตียงตอนแรกจะไม่ทำบิวท์อินผนังหัวเตียง แต่ช่างแนะนำว่าทำไว้จะสวยกว่า ไม่งั้นหัวเตียงจะลอยไม่ติดกับผนังหัวเตียงถ้าไม่ทำบิวท์อินผนัง เพราะหัวเตียงจะไปชนกับผ้าม่าน (ฟังดูงงไหมครับ ?)
- ชั้น 2 ทำผนังกั้นเป็นห้องพระ ผมเลือกทำเป็นลายทางยาว ๆ เหมือนผนังหัวเตียง ทำซุ้มประตูแบบเปิดโล่งไว้ เพื่อให้ต่อเนื่องกับส่วนนั่งเล่นจะได้ไม่อึดอัด
- หลังจากจบงานบิวท์อินก็เป็นงานของช่างสี ทางโครงการแถมวอลเปเปอร์ให้ทั้งหลัง ผมขอเปลี่ยนเป็นทาสี โดยผมเป็นคนหาสีมาเอง ผมสั่งซื้อสีให้มาส่งที่โครงการ ผมสั่งช่างไว้ว่า พอเริ่มทารอบแรกให้ถ่ายรูปส่งให้ผมดูก่อนทาสีทั้งหมด เพราะไม่มั่นใจว่าสีที่ดูในร้านจะเหมือนที่ทาจริงบนผนังหรือเปล่า ตอนแรกผมเลือกสีเทาอมฟ้าเอาไว้ ที่ผมเรียกว่าเทานกพิราบเป็นสีโถงกลางทั้งหมดของบ้านยกเว้นห้องนอน เพราะดูเป็นแนวฝรั่งดี บ้านเอเชียมักจะเน้นสีโทนอุ่นมากกว่า ภาพแรกที่ช่างส่งมาให้เป็นแบบนี้ครับ
- เห็นภาพนี้เข้าไป ขณะผมนั่งประชุมอยู่ แทบไม่เป็นอันทำงานเลย "เฮ้ย ! นี่เราเลือกสีพลาดขนาดนี้เลยเหรอ" ทำไมสีเทานกพิราบดูคูล ๆ ถึงได้กลายเป็นสีเบบี้บลูอย่างกับเนอสเซอรี่ไปได้ รูปถูกส่งมาให้วันพฤหัสบดี ผมจองตั๋วเครื่องบินบินไปดูวันศุกร์เย็นเลยครับ
- ใจชื้นขึ้นนิดนึง…สีที่เห็นจริงก็ดูฟ้ากว่าที่คิดไว้ แต่ดูไม่ฟ้าใสเหมือนภาพที่ช่างส่งมาให้ ผมคิดว่าจะแก้ดีหรือเปล่า ในที่สุดก็ตัดสินใจเก็บไว้ตามนั้น คิดว่าพอเอาเฟอร์นิเจอร์และผ้าม่านแต่งลงไป น่าจะพอเอาอยู่
- ห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้อง ผมยังไม่รู้ว่าจะแต่งยังไง เลยใช้สีกลาง ๆ เอาไว้ก่อน เลือกใช้สีเทากลาง ๆ วันหลังจะวางเฟอร์นิเจอร์สีอะไรลงไปก็ได้ เข้าได้ทุกสี
- แชนเดอเลียร์ที่ซื้อไว้ให้เอาเข้ามาช่วงนี้ เพราะต้องเจาะเพดานจะได้เก็บสีทั้งหมดทีเดียว โครงการเดินไฟเผื่อไว้ให้อยู่แล้ว ผมแค่ให้เจาะเพดาน ดึงสายออกมาอย่างเดียว ไม่ต้องเดินไฟใหม่
- ปิดท้ายสุดด้วยงานม่านที่สั่งผลิตเอาไว้นานแล้ว รองานสีเสร็จก็เอาเข้าติดได้เลย ส่วนใหญ่ผมใช้มู่ลี่ไม้เกือบทั้งหมด ยกเว้นห้องนอนที่ใช้ม่าน 2 ชั้น แฟนผมชอบมู่ลี่ไม้มาก ย้ายบ้านมากี่หลัง ต้องขอมู่ลี่ไม้ตลอด ส่วนตัวผมว่ามู่ลี่ไม้ติดฝุ่นง่ายไปหน่อย
- เหมือนเช่นเคย พอติดตั้งเสร็จ ช่างผ้าม่านก็ถ่ายรูปส่งงานให้ผมทางไลน์ ตอนเห็นภาพทั้งหมด บอกตรง ๆ ใจไม่ดีเลย รู้สึกไม่แน่ใจว่าแต่งออกมาเสร็จจะได้ดั่งใจหรือเปล่า ส่วนโถงชั้นล่างผมเลือกมู่ลี่ไม้บาสวูดสีโอ๊ค ดูแบบนี้แล้วสีมันโดด ๆ แต่คิดว่าเอาเฟอร์นิเจอร์ลงก็น่าจะโอเคอยู่
- ประตูกระจกหน้าบ้านและโถงบันได ผมใช้ม่านโปร่งสีขาวเดินเส้นบาง ๆ ด้วยสีเทา คิดเอาว่าถ้าเป็นผืนใหญ่น่าจะได้เอฟเฟคเป็นเหลื่อมเทา ๆ เข้ากับสีผนังบ้าน แต่ทำไมสีจากรูปที่ส่งมาให้ดูแปลก ๆ
- โถงชั้น 2 และห้องนอนเล็กใช้มู่ลี่ไม้สีขาวทั้งหมด ส่วนนี้จากรูปดูดีอยู่ สีขาวมั่นใจได้เสมอว่าไม่ผิด
- ห้องนอนใหญ่นี่แหละที่เห็นภาพแล้วปวดใจที่สุด ทำไมม่านมันถึงได้เงาแวบเป็นผ้าคลุมรถขนาดนั้น แต่คราวนี้ผมทำใจสงบนิ่ง คิดว่าผิดที่รูปถ่าย ที่เลือกไว้ต้องไม่ผิด จริง ๆ ผมเลือกผ้าสักหลาดสีเทาอมครีม มีเหลือบเงานิด ๆ เพิ่มความหรูหรา
เจ้าสาวที่ผมภูมิใจ
ผมขึ้นเชียงใหม่เป็นรอบที่ 3 คือ ตอนเอาเฟอร์นิเจอร์เข้าเลยทีเดียว ผมเอาเฟอร์นิเจอร์เข้า 2 ครั้ง ครั้งแรกเอาชิ้นใหญ่ หลัก ๆ ผมเข้าไปดูว่าขาดเหลืออะไร ครั้งที่สอง (หรือเชียงใหม่รอบที่ 4) เอาตัวเล็ก ๆ ที่เพิ่มเติมส่วนที่ขาดกับพวกรูปภาพของจากบ้านที่สะสมไว้มาเติม ลงเฟอร์นิเจอร์ครั้งแรกพอเห็นลาง ๆ แล้วว่าหน้าตาเป็นยังไง
ตัดเข้าสู่บ้านที่แต่งเรียบร้อยเลยแล้วกันนะครับ บอกก่อนว่าภาพ After ถูกปรับแต่งตามสมควรเพื่ออรรถรสในการชมนะครับ หลัก ๆ ก็ปรับ Contrast, Sharpness และแก้ไข Lens Distortion ปรับความเอียง เป็นต้น โดยชั้นล่างทั้งหมดผมคุมโทนให้อยู่ในโทนสีขาวกับสีครีม เพื่อให้สีเข้ากับห้องครัวที่เป็นบิวท์อินสีขาว ผ้าม่านโปร่งที่เห็นด้านขวาของภาพ เป็นประตูออกสู่หน้าบ้าน
- ห้องรับแขก
- โซนรับแขกเดิมอยากได้โซฟารูปตัวแอล (L) แต่หาถูกใจไม่ได้ เลยจัดเป็นโซฟา 3 ที่นั่งวาง 2 ตัวแทน มุมอีกด้านวางเก้าอี้แอนทีคตัวเล็ก เพื่อให้ดูสมดุล ม่านหรือมู่ลี่เต็มผนังแบบนี้ ช่วยทำให้ห้องดูกว้างขึ้นและเป็นสัดส่วนขึ้น ถ้างบถึงควรจัดม่านให้เต็มมากกว่าตัดเป็นท่อนหรือลอย ๆ จากพื้นนะครับ
- ตัดขอบแก้เลี่ยนของสีขาวด้วยสีโอ๊คในมู่ลี่ไม้และโต๊ะ โต๊ะข้างเป็นแอนทีคสไตล์จีนเพื่อให้เข้ากับรูปภาพสไตล์จีน ภาพจีนภาพนี้เป็นภาพที่เคยแขวนในห้องทำงานของพ่อ ผมเห็นมาตั้งแต่เด็ก เคยวาดรูปนี้ส่งครูวิชาศิลปะด้วย ถือเป็นของมีค่าทางจิตใจชิ้นหนึ่ง ส่วนโคมไฟระย้าได้มาจากจตุจักร แต่บังเอิญว่ามีหน้าร้านอยู่เชียงใหม่นี่เอง เป็นโครงเหล็กทำสีแบบแอนทีคเข้ากับธีมของบ้านได้ดีเลย
- ห้องอาหาร ส่วนนี้ต่อเนื่องมาจากห้องรับแขก เลยใช้โทนสีเดียวกันคือ สีขาว-ครีมตัดกับสีไม้โอ๊ค บิวท์อินม้านั่งไว้ด้านหนึ่งให้ดูไม่เป็นทางการมากเหมาะกับนั่งกินข้าวก็ได้ นั่งเล่น หรือทำงานไปด้วยก็ได้ ผมเดินไฟเพิ่มไว้ริมผนังทั้ง 2 ฝั่ง เอาหมอนบังไว้เพื่อเสียบโน๊ตบุ๊คเวลาต้องการทำงาน
- ผมเจอโต๊ะทานข้าวตัวนี้เป็นตัวแรกแล้วปิ๊งเลย เข้ากับคอนเซ็ปท์ที่คิดไว้ที่สุด โต๊ะไม้แกะสีขาวทำสีแบบแอนทีค ท็อปหุ้มด้วยวัสดุเหมือนสังกะสี แอบดูดิบนิด ๆ ผมเจอโต๊ะทานข้าวที่ เอสบี เฟอร์นิเจอร์ เลยชะล่าใจคิดว่าซื้อทีหลังก็ได้ เพราะน่าจะมีหลายตัว ผมไปซื้อเอาตอนบ้านแต่งใกล้ ๆ เสร็จ ปรากฏว่าหมดเกลี้ยงทุกสาขา ที่ผมได้มาเป็นตัวโชว์ตัวสุดท้ายแล้วมั้ง สั่งมาได้จากสาขาบางนา
- เลือกเก้าอี้หวายสีเข้มเข้ากับสีมู่ลี่ไม้ แต่งแบบหวาน ๆ ให้เข้ากับแชนเดอเลียร์ลายดอกกุหลาบ และทำให้ภาพรวมมีกลิ่นอายดิบ ๆ หน่อย โดยตกแต่งด้วยหมอนอิงขาว-ดำลายกราฟิก เพื่อลดทอนความหวานและทำให้ดูร่วมสมัยขึ้น
- มุมเล็ก ๆ แคบ ๆ ที่เดิมคิดว่าจะกั้นเป็นห้องเก็บของเล็ก ๆ ผมเปลี่ยนใจว่าจะทำให้บ้านดูคับแคบไปหน่อย เลยตั้งใจจะหาตู้หรือโต๊ะมาวาง คิดเอาไว้ว่าควรเป็นแบบตัวเดียวจบและมีความเด่น เพื่อไม่ให้มุมนี้กลายเป็นมุมเฉา ๆ ผมเลยไปได้ตู้แอนทีคอินเดียมาเป็นนางเอกของบ้าน (ส่วนชิ้นที่ผมยกให้เป็นพระเอก อยู่ในห้องนอนครับ)
- ตุ๊กตาจีนที่มุมห้องนี่ต้องแอบแฟนซื้อ เพราะไม่ได้รับอนุมัติแน่นอน ตอนถูกส่งมาบ้านถูกห่อมาแบบมัมมี่ แฟนถามเป็นอย่างแรกเลยว่า "นั่นอะไร" จริง ๆ ผมอยากได้แบบขนาดเท่าคนจริงนะ แต่เกรงใจแฟน เลยเอาตัวเล็กพอ
- ขึ้นไปดูที่ชั้น 2 กันต่อครับ
- โถงบันได แฟนสั่งห้ามแต่แรกเลยว่าไม่ต้องซื้อภาพเพิ่มแล้ว ภาพเขียนที่สะสมไว้ส่วนใหญ่เป็นงานพุทธศิลป์ นอกจากกระจายอยู่ทั่วบ้านแล้ว ส่วนใหญ่ก็มาเรียงอยู่โถงบันไดเป็นแกลเลอรี่ภาพเขียน
- คอนโซลที่โถงบันไดตอนแรกจะไว้ที่ห้องครัว แต่พอเอาเข้าบ้านแล้วคิดว่าวางตรงนี้น่าจะลงตัวกว่า ม่านตรงโถงบันไดเป็นม่านโปร่งแบบเดียวกับทางเข้าหน้าบ้าน ส่วนแชนเดอเลียร์เป็นไม้มะม่วงแกะทั้งชิ้น งานไทย ดูหรูดิบ ๆ
- แฟนบอกว่าด้านใต้คอนโซลดูโล่งไปหน่อย ช่วงบ่าย ๆ วันนั้นเลยไปได้แม่เสือดาวจากบ้านถวายมาวางด้านล่าง แม่เสือดาวทำจากเรซินทำสีทอง งานดี เหมือนงานทองเหลืองมาก ทำให้มุมนี้ดูหวานซ่อนเปรี้ยวขึ้น ส่วนแจกันดัดแปลงมาจากเชิงเทียน แจกันสวย ๆ แพงไป เลยเอาเชิงเทียนมาใช้แทน ดูฟรุ้งฟริ้งดี
- ขึ้นจากบันไดมาเจอโถงก่อนแยกย้ายเข้าห้องนอนทั้ง 3 ห้อง วางชั้นหนังสือแอนทีคอินเดียไว้หน้าห้อง เนื่องจากชั้นวางเป็นกระจก วางหนังสือหนัก ๆ มันจะแอ่น ผมเลยวางของตกแต่งเล็ก ๆ มากกว่า ทิ้งชั้นไว้โล่ง ๆ ไปก่อน ค่อย ๆ สะสมครับ ส่วนกลางโถงทางเดินวางโต๊ะเล่นไพ่สไตล์วิคตอเรียน โต๊ะนี้พิเศษตรงที่กางออกมาเป็นโต๊ะปูผ้าสักหลาดสำหรับเล่นไพ่ได้ครับ
- ส่วนนั่งเล่นของห้อง ตั้งใจให้ดูสนุกกว่าห้องรับแขกที่ชั้นล่าง เลยเลือกใช้สีสันที่หลากหลายกว่าและสนุกกว่า
- ใช้เฟอร์นิเจอร์หลาย ๆ รูปแบบมาวางปน ๆ กัน ตั้งแต่โซฟาสียีนส์ที่ดูทันสมัย เก้าอี้แอนทีคเลานจ์แชร์ (Lougue Chair) แนวคลาสสิกและตู้จีนแอนทีคสีเขียวไข่กา พรมช่วยให้ของตกแต่งที่ดูกระจัดกระจายหลายรูปแบบเป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้น
- แต้มด้วยสีแดงของรูปภาพพุทธศิลป์แนวโมเดิร์น ให้ดูสนุกขึ้น และวางหมอนหลาย ๆ แบบ เพื่อคุมโทนไม่ให้โดดเด่นจนเกินไป สีของหมอนที่มีสีขาว แดง เหลือง และเทา ช่วยรวมภาพรวมของห้องเข้าด้วยกัน
- ห้องนอนใหญ่ เดิมผมอยากได้เตียง 4 เสา แต่หาที่ถูกใจไม่ได้ ส่วนแฟนบอกกว่าของในบ้านยังไงก็ได้ แต่เตียงห้ามเป็นของเก่า สุดท้ายไปได้เตียงทำเลียนแบบเตียงโบราณ ผมยกให้เป็นพระเอกของบ้านเลย เนื่องจากเตียงเด่นมาก แต่หัวเตียงค่อนข้างแคบ เลยไม่วางโต๊ะข้างเตียง แต่หาโคมไฟแนวเรียบ ๆ ไม่ขโมยซีนมาตกแต่งแทน ก็มาเจอโคมไฟทรงดอกบัวจากบุญถาวรพอดี โคมไฟตั้งโต๊ะและโคมไฟพื้นเกือบทั้งหมดในบ้าน มาจากบุญถาวรเชียงใหม่ครับ ราคาและรูปแบบโอเคเลยนะ
- ม่านผ้าสักหลาดเหลือบเงานิด ๆ ของจริงสวยถูกใจกว่าภาพถ่ายที่ร้านผ้าม่านส่งมาให้มาก ม่าน 2 ชั้นเต็มผนังทำให้ห้องดูดีมีคลาสมาก สีน้ำเงินเข้มของผนังทำให้ห้องดูมีมิติ โดยรวม ๆ ผมชอบโทนสีโดยรวมของห้องนอนมาก เตียงนี่นอนสูบวิญญาณมาก ไม่อยากลุกเลยทีเดียว
- ปลายเตียงอีกด้านวางคอนโซลจีนขนาด 3 เมตร เว้นผนังไว้ติดทีวี
- ห้องน้ำในบ้านนี้ทั้ง 4 ห้อง ผมไม่ได้ทำอะไรมาก เพราะกระเบื้องที่โครงการให้มาก็สวยงามใช้ได้อยู่แล้ว รูปแบบจะเป็นแบบนี้เหมือนกันทั้งหมด ต่างกันแค่ขนาดห้อง ผมทำบิวท์อินใต้อ่างล้างหน้าทุกห้อง แต่ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ มีหน้าต่างขนาดใหญ่บริเวณจากุชชี่ ผมติดมู่ลี่อะลูมิเนียมดำด้านเพื่อให้เข้ากับท็อปหินแกรนิต โครงการให้มาเป็นกระจกเปลือย ๆ ผมเลยไปสั่งร้านกรอบรูปทำกรอบ แล้วใส่กระจกใหม่ทุกห้อง ทำกรอบเสร็จห้องน้ำดูดีขึ้นมาก ส่วนของห้องนอนใหญ่ผมเลือกกรอบขนาด 3.5 นิ้ว มีลวดลายแล้วสั่งพ่นสีดำ
- ห้องนอนเล็ก 2 ห้อง ห้องที่ 1 เป็นห้องนอนแม่ ซึ่งผมทิ้งให้แม่แต่ง เลยไม่ได้ถ่ายภาพมา ส่วนอีกห้องเป็นห้องนอนแขก ผมเลือกเตียงคิงไซส์เผื่อแขกมาเป็นคู่จะได้นอนได้สบาย ผมแต่งห้องนี้ด้วยรูปภาพผ้าปักเป็นชุด 4 ภาพ จากเวียดนามที่พ่อซื้อไว้นานแล้ว
- ห้องนี้ไม่มีตู้เสื้อผ้า ผมใช้ตู้จีนแอนทีคมาวางสำหรับให้แขกเก็บของ
- ยังมีห้องนอนชั้นล่างที่ผมยังไม่ได้จัด ตั้งใจว่าจะปรับเปลี่ยนเพื่อใช้งาน ยังไม่แน่ใจว่าจะใช้ทำอะไร เลยเก็บเอาไว้ก่อน ส่วนรอบ ๆ บ้านมีแพลนจัดต่อ ไว้จะมาอัพเดทนะครับ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ Teerannosaurus สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม