รวม 10 ไม้ดอกสวย ๆ ต้นไม้ปลูกในบ้าน ช่วยดูดซับสารพิษ ฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ มาดูกันว่ามีต้นไม้อะไรบ้างที่จะทำให้บ้านของเราน่าอยู่ไร้กลิ่นกวนใจได้
![ดอกไม้ปลูกในบ้าน ดอกไม้ปลูกในบ้าน](http://img.kapook.com/u/2021/Jarosphan/Home/Garden/188971/00.jpg)
จริง ๆ แล้วไม่ใช่แค่ช่วงนี้เท่านั้น ที่มีปัญหาเรื่องมลภาวะทางอากาศ และไม่ได้มีแค่ในเมืองเท่านั้น เพราะในบ้านที่เราอาศัยอยู่ก็มีมลพิษในอากาศเช่นเดียวกัน นอกจากฝุ่นแล้ว ก็ยังมีกลิ่นเหม็นจากสารเคมีต่าง ๆ ที่ระเหยปะปนมากับอากาศที่เราหายใจ วันนี้กระปุกเลยจะมาชวนทุกคนปลูกดอกไม้ในบ้าน ซึ่งไม่ใช่ต้นไม้ธรรมดา ๆ แต่เป็นต้นไม้ฟอกอากาศที่มาพร้อมดอกสวย ๆ ที่ช่วยดูดซับสารพิษในบ้านได้
![แววมยุรา แววมยุรา](http://img.kapook.com/u/2018/surauch/home/ho1/ox_01.jpg)
แววมยุรา หรือเทอราเนีย (Torenia) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Torenia fournieri เป็นไม้ล้มลุกที่อยู่ในตระกูลคล้า ลำต้นตั้งตรง มีขนปกคลุม ใบกว้างเป็นรูปหอก ปลายใบแหลม โคนใบเว้า ส่วนดอกมีหลายสี เช่น แดง ชมพู ม่วง โดยจะออกดอกตลอดทั้งปี มีจุดเด่นอยู่ที่ช่วยรักษาความชุ่มชื้นในอากาศได้ดี อีกทั้งยังสามารถช่วยดูดสารพิษต่าง ๆ ได้ แถมยังทนทานและเลี้ยงดูง่าย เพียงแค่ปลูกในดินร่วนปนทรายที่ระบายน้ำได้ดี ปล่อยให้ต้นโดนแสงแดดรำไรตลอดทั้งวัน พร้อมรดน้ำให้ดินชุ่มอยู่เสมอก็พอแล้ว แต่หากใครอยากให้แววมยุราออกดอกดกและสวยมาก ก็อย่าลืมหมั่นละลายปุ๋ยคอกกับน้ำเพื่อรดบำรุงต้นเดือนละ 1 ครั้งด้วย
![เบญจมาศ เบญจมาศ](http://img.kapook.com/u/2018/surauch/home/ho1/ox_02.jpg)
เบญจมาศ (Chrysanthemum) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Chrysanthemum morifolium L.H. Bailey เป็นต้นไม้ที่เดิมทีมีแค่ดอกสีเหลืองสีเดียว แต่ปัจจุบันได้รับการปรับปรุงสายพันธุ์จนมีหลายสี หลายลักษณะ ซึ่งดูแล้วสดใสสวยงามมาก ทว่านอกจากเรื่องของความสดใสและสวยงามแล้ว ดอกเบญจมาศยังสามารถกรองอากาศที่เป็นมลพิษอย่างกลิ่นจากสีทาบ้าน กาว พลาสติก และผงซักฟอก ให้กลายเป็นอากาศบริสุทธิ์ได้ ส่วนวิธีการดูแลรักษาต้นเบญจมาศก็ไม่ยาก แค่วางให้โดนแสงแดดโดยตรง เช่น ริมหน้าต่าง รวมถึงหมั่นรดน้ำอย่าให้ขาด เนื่องจากต้นเบญจมาศต้องการน้ำมาก เพราะใบมีการคายน้ำสูง
![เยอบีร่า เยอบีร่า](http://img.kapook.com/u/2021/Jarosphan/Home/Garden/188971/08.jpg)
เยอบีร่า (Gerbera Daisy) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Gerbera Jamesonii เป็นไม้ดอกที่มีลักษณะต้นเป็นกอ ใบออกสีเขียวขอบหยัก และมีขนบริเวณใต้ใบ ดอกมีสีสันสวยงามเรียงแน่นอยู่บนฐานรองดอก มีคุณสมบัติโดดเด่นในเรื่องการดูดสารพิษจากอากาศในอาคาร อีกทั้งยังสามารถคายความชื้นได้สูง จึงทำให้ผู้คนนิยมปลูกในบ้านเพื่อช่วยสร้างสีสันและฟอกอากาศ ดูแลรดน้ำปานกลาง อย่าให้แฉะ และตั้งไว้ในที่ที่มีแสงแดดจัด
![กล้วยไม้สกุลหวาย กล้วยไม้สกุลหวาย](http://img.kapook.com/u/2018/surauch/home/ho1/ox_04.jpg)
กล้วยไม้สกุลหวาย (Dendrobium Orchid) เป็นพันธุ์กล้วยไม้ยอดนิยมในประเทศไทย เพราะเจริญเติบโตได้ดี ใบมีสีเขียวเข้มและหนา ส่วนดอกก็สวยงาม มีขนาดใหญ่ มีกลีบซ้อนกัน 2 ชั้น และมีรากเกสรหรือเดือยยาวออกมาตรงกลางดอก ส่วนจุดเด่นของกล้วยไม้สกุลหวายอยู่ที่คุณสมบัติที่สามารถดูดซับอะซิโตน คาร์บอนไดออกไซด์ และฟอร์มาลดีไฮด์ สารที่อยู่ในน้ำยาล้างเล็บได้ เหมาะจะปลูกในห้องนอน ส่วนการดูแลรักษากล้วยไม้สายพันธุ์นี้ก็ง่าย ๆ แค่รดน้ำวันละ 1 ครั้ง แล้วแขวนไว้ในที่ที่มีแสงแดดรำไรก็เพียงพอแล้ว
![กุหลาบพันปี กุหลาบพันปี](http://img.kapook.com/u/2018/surauch/home/ho1/ox_05.jpg)
กุหลาบพันปี หรืออาซาเลีย (Azalea) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Rhododendron moulmeinense Hook เป็นไม้ต้นขนาดเล็กกึ่งพุ่ม มีลักษณะลำต้นและกิ่งคดงอ ใบหนารูปหอกกลับ มีเกล็ดและมีขนปกคลุมอยู่บริเวณด้านหลังใบ ส่วนดอกออกเป็นช่อสีเหลืองแดง ส่วนมากจะพบอยู่บนที่สูง เนื่องจากชอบอากาศหนาวเย็น ซึ่งจุดเด่นของกุหลาบพันปีจะอยู่ที่ความสามารถในการดูดซับกลิ่นต่าง ๆ ภายในบ้านได้ เช่น กลิ่นเหม็นจากเฟอร์นิเจอร์ไม้อัด ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากโฟม และพลาสติก อีกทั้งหน้าตาก็ยังสวยน่ามองเอามาก ๆ แถมการดูแลรักษาก็ไม่ยากเลยด้วย แค่ตั้งไว้ในที่ที่มีแสงแดดส่องไม่ค่อยถึงและอุณหภูมิต่ำ ส่วนน้ำก็รดให้พอชุ่มชื้น แต่ไม่ต้องถึงขนาดแเฉะ
6. กุหลาบหิน
![กุหลาบหิน กุหลาบหิน](http://img.kapook.com/u/2018/surauch/home/ho1/ox_06.jpg)
กุหลาบหิน (Kalanchoe) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Kalanchoe blossfeldiana เป็นไม้ทรงพุ่มเตี้ย โตเร็ว ใบค่อนข้างกลมคล้ายรูปไข่ อวบน้ำ และเรียงซ้อนกันเหมือนดอกกุหลาบ ดอกออกเป็นช่อชูขึ้นเหนือพุ่ม มีหลายสี เช่น แดง ส้ม ชมพู เหลือง มีคุณสมบัติดูดสารพิษได้เล็กน้อย ส่วนการดูแลก็ง่าย ๆ โตได้ดีในดินทุกชนิด ต้องการแสงแดดจัด ๆ ต้องการความชื้นปานกลาง ต้องการน้ำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง และต้องการปุ๋ยละลายน้ำในช่วงที่ออกดอกเพื่อความสวยงามและสมบูรณ์
![หน้าวัวเปลวเทียน หน้าวัวเปลวเทียน](http://img.kapook.com/u/2018/surauch/home/ho1/ox_07.jpg)
หน้าวัวเปลวเทียน (Lady Jane) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Anthurium Lady Jane เป็นไม้พุ่มเตี้ย ดอกชูช่อขึ้นมา มีลักษณะแปลก แต่ก็เป็นเอกลักษณ์ แถมยังมีสีสันสดใสและหลากหลาย เช่น ขาว ชมพู แดง ม่วงอ่อน และอีกมากมาย โดยจะออกดอกให้เห็นสวยงามตลอดทั้งปี ส่วนคุณสมบัติก็สามารถดูดซึมสารพิษและคายความชื้นได้พอสมควร ซึ่งในเรื่องของการดูแลก็ไม่ยาก โดยหน้าวัวเปลวเทียนจะโตได้ดีในที่ร่มหรือมีแสงรำไร ลมไม่แรง ชอบความชื้นแฉะสูง จึงควรรดน้ำวันละ 2 ครั้ง และถ้าอยากให้ดอกสวยงามมาก ๆ ก็ควรปลูกในพื้นที่ที่มีอากาศเย็น
![เดหลี เดหลี](http://img.kapook.com/u/2018/surauch/home/ho1/ox_08.jpg)
เดหลี (Peace Lily) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Spathiphyllum Clevelandii เป็นไม้ยอดฮิตในการแต่งสวน เนื่องจากมีใบสีเขียวเข้มเป็นมันวาว ออกดอกสีขาวแกมเหลืองสวยงามตลอดทั้งปี ส่วนคุณสมบัติเด่นจะอยู่ที่การดูดซับสารพิษจำพวกแอลกอฮอล์ อะซิโตน ไตรคลอโรเอทิลีน เบนซีน ฟอร์มาลดีไฮด์ และโทลูอีน เช่น ในน้ำยาขัดรองเท้าหรือทินเนอร์ อีกทั้งยังช่วยฟอกสารท็อกซิน (Toxin) ให้เป็นอากาศสะอาดได้ แถมการดูแลก็ไม่ยุ่งยาก เพียงตั้งไว้ให้โดนแดดรำไร ไม่จ้าเกินไป รดน้ำปานกลาง และบำรุงด้วยปุ๋ยน้ำเดือนละ 2 ครั้งก็เพียงพอ
![บีโกเนียใบมัน บีโกเนียใบมัน](http://img.kapook.com/u/2021/Jarosphan/Home/Garden/188971/09.jpg)
บีโกเนียใบมัน (Wax Begonia) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Begonia semperflorens เป็นไม้ดอกที่มีเหง้าอยู่ใต้ดิน ใบสีเขียวสวย เป็นมันเงา มีขน และมีลักษณะคล้ายหัวใจเบี้ยว ส่วนดอกมีสีสันสดใส แถมมากมายหลากหลายสี เช่น แดง ชมพู ส้ม ขาว ออกดอกตลอดทั้งปี มีความสามารถในการดูดสารพิษและคายความชื้นเล็กน้อย โดยจะโตได้ดีในที่ร่มรำไร ไม่ต้องการแสงมาก ชอบดินร่วนซุย เก็บความชื้นได้ดี ต้องการน้ำปานกลาง แต่ต้องระวังอย่าให้โดนฝน
![มังกรคาบแก้ว มังกรคาบแก้ว](http://img.kapook.com/u/2021/Jarosphan/Home/Garden/188971/10.jpg)
มังกรคาบแก้ว หรือคริสต์มาส แคคตัส (Christmas Cactus) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Schlumbergera เป็นไม้อวบน้ำในกลุ่มกระบองเพชร มีความสวยงามทั้งต้น ใบ และดอก โดยต้นและใบจะมีสีเขียวเข้ม หนา ขอบหยัก ปลายใบห้อย ส่วนดอกจะมีหลายสี เช่น แดง ม่วง ชมพู และส้ม ซึ่งจะห้อยย้อยลงมาสวยงามเหมือนกันกับใบ มีคุณสมบัติโดดเด่นในเรื่องของการดูดซับสารพิษในอาคาร แถมยังดูแลง่าย แค่ปลูกในดินที่ระบายน้ำและอากาศได้ดี รดน้ำตอนดินแห้งเล็กน้อย ไม่ต้องรดบ่อย ชอบแสงสว่างพอสมควร แต่ต้องไม่จัดหรือโดนแดดโดยตรงเกินไป รวมถึงชอบความชื้น แต่ก็ต้องระวังอย่าให้น้ำขังด้วย
ฉะนั้นเพื่อเป็นการช่วยลดปริมาณฝุ่น ดูดสารพิษ และฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ ขอแนะนำให้ทุกคนมาช่วยกันปลูกต้นไม้กันคนละต้นสองต้น เพื่อเป็นการป้องกันและลดปัญหานี้ในอนาคต แถมยังได้ยลโฉมเหล่าไม้ดอกสวย ๆ ให้รู้สึกผ่อนคลายได้อีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก สสส., thaikasetsart/เบญจมาศ, ku, สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 3, vichakaset/กุหลาบหิน, คณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และ vichakaset/มังกรคาบแก้วไม้อวบน้ำ