รีวิวรีโนเวททาวน์เฮ้าส์เก่า 3 ชั้น อายุ 30 ปี งบไม่เกิน 2 ล้านบาท พร้อมประสบการณ์ซื้อบ้านมือสองแบบฉบับมนุษย์เงินเดือน
หลายบริษัทมีสวัสดิการให้พนักงานซื้อบ้านได้อย่างคุ้มค่า บริษัทของ คุณ สมาชิกหมายเลข 5125566 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ก็เช่นกัน ฉะนั้นเขาจึงไม่ลังเล ตัดสินใจมองหาบ้านมือสองหนึ่งหลัง แล้วนำมารีโนเวทใหม่ ทำให้มีทรัพย์สินเป็นของตัวเอง ไม่ต้องเสียค่าเช่าเปล่าทุกเดือน ซึ่งงานนี้ตัวเขาก็ไม่พลาดนำประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟังอย่างละเอียด ตั้งแต่เริ่มต้นซื้อบ้าน หาผู้รับเหมา จนแปลงโฉมเสร็จ ฮั่นแน่ อยากรู้กันแล้วล่ะสิว่ารีวิวรีโนเวททาวน์เฮ้าส์ สามชั้นของเขาเป็นอย่างไร เปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน ถ้างั้นอย่ามัวรอช้า มาดูกันได้เลยค่ะ
รีโนเวททาวเฮ้าส์เก่า 30 ปี ให้กลับมามีชีวิต ตามแบบฉบับมนุษย์เงินเดือน โดย คุณ สมาชิกหมายเลข 5125566 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
สวัสดีครับ ผมอยากจะมาแชร์ประสบการณ์การซื้อทาวน์เฮ้าส์มือสองมารีโนเวทนะครับ เกริ่นนำก่อนเลย คือ ผมเป็นคนต่างจังหวัด เริ่มมาทำงานกรุงเทพฯ ปี พ.ศ. 2557 มาแรก ๆ ก็เช่าอพาร์ตเมนต์อยู่แถว BTS อ่อนนุช เพราะไม่ไกลที่ทำงาน ซึ่งอพาร์ตเมนต์ที่อยู่ก็ดีมาก เงียบสงบ ไม่ไกลจาก BTS ผมอยู่ได้สบาย ๆ ไม่มีปัญหาอะไร แต่ที่อยากซื้อบ้านก็เพราะสวัสดิการของบริษัทนี่แหละ คือ บริษัทที่ผมทำงานจ่ายดอกเบี้ยค่าบ้านให้ไม่เกิน 5% ซึ่งดอกบ้านก็ประมาณนี้อยู่แล้ว สรุปคือผมจะซื้อบ้านได้โดยแทบจะผ่อนแค่เงินต้น ก็เลยตัดสินใจซื้อครับ ถือว่าได้สินทรัพย์ด้วย เพราะถึงเช่าอยู่ต่อไป ก็เสียค่าเช่ารายเดือนเท่ากับผ่อนเงินต้นอย่างเดียวอยู่ดี
ผมขอแบ่งขั้นตอนทั้งหมดตามนี้ครับ
1. กำหนดความต้องการและหาบ้าน
2. ขั้นตอนการซื้อบ้าน
3. คุยกับสถาปนิกและหาผู้รับเหมา
4. เริ่มงานรีโนเวท
1. กำหนดวามต้องการและหาบ้าน
เริ่มหาจากอินเทอร์เน็ต Google ดู ก็ได้เข้าไปดูเว็บ ddproperty, thaihometown, กรมบังคับคดี และอื่น ๆ อีกหลายเว็บไซต์ โดยโจทย์ของผมคือ ผมอยากได้บ้านที่ไม่ไกลจากที่ทำงานมาก ไม่ไกลจากรถไฟฟ้า และราคาไม่แรงมาก ด้วยเงื่อนไขแบบนี้ จากที่ผมหา ๆ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยถ้าจะเอาบ้านมือหนึ่ง ก็เลยมองหาทาวน์เฮ้าส์มือสอง กะว่าจะรีโนเวทเอา ดูอยู่หลายที่ครับ โทร. ไปขอดูบ้านไม่น่าจะต่ำกว่า 15 ที่ ใช้เวลาประมาณ 4-5 เดือน สุดท้ายก็มาลงเอยที่หมู่บ้านหนึ่งใกล้ ๆ BTS อุดมสุข หมู่บ้านเงียบสงบ ต้นไม้เยอะ ไม่ห่าง BTS มาก (ไม่เกิน 2 กิโลเมตร) ใกล้ทางด่วน โดยผมซื้อบ้านหลังนี้จากการที่เห็นป้ายติดหน้าบ้าน เลยโทร. ไปหาเจ้าของ คุย ๆ แล้วก็ดีลกัน ก่อนหน้านี้กะจะเอาอีกหลังหนึ่งในหมู่บ้านเดียวกัน เพราะไปดูหลังนั้นก่อน เห็นจากอินเทอร์เน็ต เข้าไปดู วางเงินมัดจำเรียบร้อยแล้ว แต่ดันมาเจอหลังที่ซื้อจริง ๆ ตอนหลัง เนื้อที่เยอะกว่า แล้วได้ราคาดีกว่า เลยจำใจยอมเสียเงินมัดจำหลังแรก ดีว่ามัดจำไปไม่กี่หมื่น
รีโนเวททาวเฮ้าส์เก่า 30 ปี ให้กลับมามีชีวิต ตามแบบฉบับมนุษย์เงินเดือน โดย คุณ สมาชิกหมายเลข 5125566 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
สวัสดีครับ ผมอยากจะมาแชร์ประสบการณ์การซื้อทาวน์เฮ้าส์มือสองมารีโนเวทนะครับ เกริ่นนำก่อนเลย คือ ผมเป็นคนต่างจังหวัด เริ่มมาทำงานกรุงเทพฯ ปี พ.ศ. 2557 มาแรก ๆ ก็เช่าอพาร์ตเมนต์อยู่แถว BTS อ่อนนุช เพราะไม่ไกลที่ทำงาน ซึ่งอพาร์ตเมนต์ที่อยู่ก็ดีมาก เงียบสงบ ไม่ไกลจาก BTS ผมอยู่ได้สบาย ๆ ไม่มีปัญหาอะไร แต่ที่อยากซื้อบ้านก็เพราะสวัสดิการของบริษัทนี่แหละ คือ บริษัทที่ผมทำงานจ่ายดอกเบี้ยค่าบ้านให้ไม่เกิน 5% ซึ่งดอกบ้านก็ประมาณนี้อยู่แล้ว สรุปคือผมจะซื้อบ้านได้โดยแทบจะผ่อนแค่เงินต้น ก็เลยตัดสินใจซื้อครับ ถือว่าได้สินทรัพย์ด้วย เพราะถึงเช่าอยู่ต่อไป ก็เสียค่าเช่ารายเดือนเท่ากับผ่อนเงินต้นอย่างเดียวอยู่ดี
ผมขอแบ่งขั้นตอนทั้งหมดตามนี้ครับ
1. กำหนดความต้องการและหาบ้าน
2. ขั้นตอนการซื้อบ้าน
3. คุยกับสถาปนิกและหาผู้รับเหมา
4. เริ่มงานรีโนเวท
1. กำหนดวามต้องการและหาบ้าน
เริ่มหาจากอินเทอร์เน็ต Google ดู ก็ได้เข้าไปดูเว็บ ddproperty, thaihometown, กรมบังคับคดี และอื่น ๆ อีกหลายเว็บไซต์ โดยโจทย์ของผมคือ ผมอยากได้บ้านที่ไม่ไกลจากที่ทำงานมาก ไม่ไกลจากรถไฟฟ้า และราคาไม่แรงมาก ด้วยเงื่อนไขแบบนี้ จากที่ผมหา ๆ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยถ้าจะเอาบ้านมือหนึ่ง ก็เลยมองหาทาวน์เฮ้าส์มือสอง กะว่าจะรีโนเวทเอา ดูอยู่หลายที่ครับ โทร. ไปขอดูบ้านไม่น่าจะต่ำกว่า 15 ที่ ใช้เวลาประมาณ 4-5 เดือน สุดท้ายก็มาลงเอยที่หมู่บ้านหนึ่งใกล้ ๆ BTS อุดมสุข หมู่บ้านเงียบสงบ ต้นไม้เยอะ ไม่ห่าง BTS มาก (ไม่เกิน 2 กิโลเมตร) ใกล้ทางด่วน โดยผมซื้อบ้านหลังนี้จากการที่เห็นป้ายติดหน้าบ้าน เลยโทร. ไปหาเจ้าของ คุย ๆ แล้วก็ดีลกัน ก่อนหน้านี้กะจะเอาอีกหลังหนึ่งในหมู่บ้านเดียวกัน เพราะไปดูหลังนั้นก่อน เห็นจากอินเทอร์เน็ต เข้าไปดู วางเงินมัดจำเรียบร้อยแล้ว แต่ดันมาเจอหลังที่ซื้อจริง ๆ ตอนหลัง เนื้อที่เยอะกว่า แล้วได้ราคาดีกว่า เลยจำใจยอมเสียเงินมัดจำหลังแรก ดีว่ามัดจำไปไม่กี่หมื่น
- นี่เป็นรูปตอนเข้าไปดูครั้งแรก ๆ เลย (เละนิดหนึ่งแต่คิดว่าไม่แย่มาก)
- ระเบียงชั้น 3
- หลังบ้านพอมีพื้นที่ต่อครัวนิดหน่อย
- มีน้ำรั่วตรงห้องนอนชั้น 2 ด้วย แบบนองพื้นเลย เครียดอยู่เหมือนกัน แต่ผู้รับเหมากับวิศวกรบอกว่าแก้ได้ เดี๋ยวไปไล่หาจุดรั่วแล้วอุดได้
- ห้องน้ำชั้น 1 เล็กมาก เลยบอกสถาปนิกว่าจะขยาย
2. ขั้นตอนการซื้อบ้าน
การซื้อบ้านก็ไม่ได้ยากอะไรครับ ผมก็หา ๆ อ่านจากอินเทอร์เน็ต หลัก ๆ ก็คือ
- ติดต่อผู้ขาย ดีลราคาให้ลงตัว
- ทำสัญญาจะซื้อจะขาย (อันนี้จะทำไม่ทำก็ได้ แล้วแต่ แต่ผมแนะนำว่าทำดีกว่า เพราะว่าทุกอย่างจะได้ชัดเจนและมีหลักประกัน) วางเงินมัดจำบ้านก็วางตอนเซ็นสัญญานี้นะครับ
- ไปโอนที่สำนักงานที่ดิน แนะนำให้ไปแต่เช้าและไม่ใช่ช่วงปลายไตรมาส ผมไปช่วงใกล้ปิดไตรมาส ซึ่งพวกคอนโดพยายามปิดยอดกัน ก็เลยมีการโอนเยอะ ผมไปเที่ยง เสร็จเกือบสามทุ่ม ขั้นตอนการโอนที่สำนักงานที่ดินจริง ๆ แป๊บเดียวครับ ไม่เกิน 20 นาที ที่นานคือรอคิว รอจนหลับไปหลายตื่นเลย
- พอได้บ้านมาเป็นชื่อเราแล้ว ก็จัดการย้ายชื่อเราเข้าในทะเบียนบ้าน และไปขอมิเตอร์น้ำไฟใหม่ให้เรียบร้อยครับ ตอนเซ็นจะซื้อจะขายกัน สัญญาผมเขียนไว้ว่าผู้ขายมีหน้าที่โอนมิเตอร์น้ำ-ไฟมาให้ผม แต่พอผมไปติดต่อการไฟฟ้ากับการประปา ปรากฏว่ามิเตอร์มันถูกตัดไปหมดแล้ว เพราะบ้านไม่มีใครอยู่มาจะ 10 ปีแล้ว ผมก็เลยจัดการติดตั้งใหม่ เสียเงินไปราว ๆ หมื่นบาท รวมค่าน้ำ ค่าไฟค้างชำระ โดยจำนวนเงินนี้ผมเอาไปเบิกกับผู้ขายภายหลัง เขาก็โอนมาให้ ไม่มีปัญหาอะไรครับ
3. คุยกับสถาปนิกและหาผู้รับเหมา
ผมมีเพื่อนเป็นสถาปนิกก็เลยใช้บริการเพื่อน ก็บอกความต้องการไปว่าอยากได้สไตล์ไหน เจอรูปไอเดียบ้านสวย ๆ ในอินเทอร์เน็ตก็เซฟ ๆ ไว้ แล้วส่งให้เพื่อนดูเป็นตัวอย่าง คุยเสร็จเพื่อนสถาปนิกก็เข้ามาวัดบ้านและเขียนแบบครับ โดยเขียนแบบนี่ใช้เวลาประมาณเดือนกว่า ของผมค่าสถาปนิกไม่แพง เพราะเป็นเพื่อนกัน สิ่งที่ได้คือ แบบ Sketch up แบบ 3 มิติ แล้วก็แบบ Interior ซึ่งตรงนี้ผมคิดว่าเพื่อนผมเขาไปจ้าง Interior เขียนอีกที แบบ Interior นี่จะมีผังไฟ ผังเฟอร์นิเจอร์ สเปก ค่อนข้างละเอียดเลยครับ
ส่วนเรื่องผู้รับเหมา ผมได้ยินได้อ่านมาเยอะว่า หาดี ๆ ยาก บางเจ้าถึงขั้นทิ้งงาน เชิดเงินหนีไป อ่านแล้วก็กลัวครับ ผมก็เลยพยายามเอาผู้รับเหมาที่พอจะมีคอนเน็กชั่นกับเพื่อนที่เป็นสถาปนิก โดยเอาผู้รับเหมาเข้ามาดูและตีราคา 3 เจ้า คิดว่าจะได้เปรียบเทียบกัน 2 เจ้าเป็นผู้รับเหมาที่มีคอนเน็กชั่นกับเพื่อนสถาปนิกของผม ส่วนอีกเจ้าผมหามาเองจากเฟซบุ๊ก ผมมีราคาในใจไว้ว่าไม่อยากให้เกิน 1.3 ล้านบาท แต่ผู้รับเหมาทั้ง 3 รายตีออกมา 1.6-1.7 ล้านบาทหมดเลย ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมรับชะตากรรมครับ จะทำปริมาณงานขนาดนี้ก็คงต้องยอมเสียแล้วแหละ ซึ่งในเมื่อตีราคามาเท่า ๆ กัน ผมเลยเลือกผู้รับเหมาที่เพื่อนรู้จักดี อย่างน้อย ๆ ก็น่าจะไม่ทิ้งงานและคุยกันง่าย ตัดสินใจได้แล้วก็ไปเซ็นสัญญารีโนเวทกับผู้รับเหมาครับ หลังจากเซ็นประมาณครึ่งเดือนก็เริ่มงานเลย
4. เริ่มรีโนเวทบ้าน
ตรงนี้จะขอเล่าไปด้วยภาพละกันนะครับ
2. ขั้นตอนการซื้อบ้าน
การซื้อบ้านก็ไม่ได้ยากอะไรครับ ผมก็หา ๆ อ่านจากอินเทอร์เน็ต หลัก ๆ ก็คือ
- ติดต่อผู้ขาย ดีลราคาให้ลงตัว
- ทำสัญญาจะซื้อจะขาย (อันนี้จะทำไม่ทำก็ได้ แล้วแต่ แต่ผมแนะนำว่าทำดีกว่า เพราะว่าทุกอย่างจะได้ชัดเจนและมีหลักประกัน) วางเงินมัดจำบ้านก็วางตอนเซ็นสัญญานี้นะครับ
- ไปโอนที่สำนักงานที่ดิน แนะนำให้ไปแต่เช้าและไม่ใช่ช่วงปลายไตรมาส ผมไปช่วงใกล้ปิดไตรมาส ซึ่งพวกคอนโดพยายามปิดยอดกัน ก็เลยมีการโอนเยอะ ผมไปเที่ยง เสร็จเกือบสามทุ่ม ขั้นตอนการโอนที่สำนักงานที่ดินจริง ๆ แป๊บเดียวครับ ไม่เกิน 20 นาที ที่นานคือรอคิว รอจนหลับไปหลายตื่นเลย
- พอได้บ้านมาเป็นชื่อเราแล้ว ก็จัดการย้ายชื่อเราเข้าในทะเบียนบ้าน และไปขอมิเตอร์น้ำไฟใหม่ให้เรียบร้อยครับ ตอนเซ็นจะซื้อจะขายกัน สัญญาผมเขียนไว้ว่าผู้ขายมีหน้าที่โอนมิเตอร์น้ำ-ไฟมาให้ผม แต่พอผมไปติดต่อการไฟฟ้ากับการประปา ปรากฏว่ามิเตอร์มันถูกตัดไปหมดแล้ว เพราะบ้านไม่มีใครอยู่มาจะ 10 ปีแล้ว ผมก็เลยจัดการติดตั้งใหม่ เสียเงินไปราว ๆ หมื่นบาท รวมค่าน้ำ ค่าไฟค้างชำระ โดยจำนวนเงินนี้ผมเอาไปเบิกกับผู้ขายภายหลัง เขาก็โอนมาให้ ไม่มีปัญหาอะไรครับ
3. คุยกับสถาปนิกและหาผู้รับเหมา
ผมมีเพื่อนเป็นสถาปนิกก็เลยใช้บริการเพื่อน ก็บอกความต้องการไปว่าอยากได้สไตล์ไหน เจอรูปไอเดียบ้านสวย ๆ ในอินเทอร์เน็ตก็เซฟ ๆ ไว้ แล้วส่งให้เพื่อนดูเป็นตัวอย่าง คุยเสร็จเพื่อนสถาปนิกก็เข้ามาวัดบ้านและเขียนแบบครับ โดยเขียนแบบนี่ใช้เวลาประมาณเดือนกว่า ของผมค่าสถาปนิกไม่แพง เพราะเป็นเพื่อนกัน สิ่งที่ได้คือ แบบ Sketch up แบบ 3 มิติ แล้วก็แบบ Interior ซึ่งตรงนี้ผมคิดว่าเพื่อนผมเขาไปจ้าง Interior เขียนอีกที แบบ Interior นี่จะมีผังไฟ ผังเฟอร์นิเจอร์ สเปก ค่อนข้างละเอียดเลยครับ
ส่วนเรื่องผู้รับเหมา ผมได้ยินได้อ่านมาเยอะว่า หาดี ๆ ยาก บางเจ้าถึงขั้นทิ้งงาน เชิดเงินหนีไป อ่านแล้วก็กลัวครับ ผมก็เลยพยายามเอาผู้รับเหมาที่พอจะมีคอนเน็กชั่นกับเพื่อนที่เป็นสถาปนิก โดยเอาผู้รับเหมาเข้ามาดูและตีราคา 3 เจ้า คิดว่าจะได้เปรียบเทียบกัน 2 เจ้าเป็นผู้รับเหมาที่มีคอนเน็กชั่นกับเพื่อนสถาปนิกของผม ส่วนอีกเจ้าผมหามาเองจากเฟซบุ๊ก ผมมีราคาในใจไว้ว่าไม่อยากให้เกิน 1.3 ล้านบาท แต่ผู้รับเหมาทั้ง 3 รายตีออกมา 1.6-1.7 ล้านบาทหมดเลย ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมรับชะตากรรมครับ จะทำปริมาณงานขนาดนี้ก็คงต้องยอมเสียแล้วแหละ ซึ่งในเมื่อตีราคามาเท่า ๆ กัน ผมเลยเลือกผู้รับเหมาที่เพื่อนรู้จักดี อย่างน้อย ๆ ก็น่าจะไม่ทิ้งงานและคุยกันง่าย ตัดสินใจได้แล้วก็ไปเซ็นสัญญารีโนเวทกับผู้รับเหมาครับ หลังจากเซ็นประมาณครึ่งเดือนก็เริ่มงานเลย
4. เริ่มรีโนเวทบ้าน
ตรงนี้จะขอเล่าไปด้วยภาพละกันนะครับ
- อันดับแรกเริ่มจากงานรื้อเลยครับผม
- มีต้นมะม่วงต้นใหญ่อยู่หน้าบ้าน เอาแบ็กโฮมาจัดการเลยครับ
- รื้อไปรื้อมาไปเจอว่าท่อน้ำที่ถ่ายน้ำเสียออกนอกบ้านแตก ทุกวันนี้น้ำไหลลงใต้บ้านตลอด เลยจำใจต้องวางท่อใหม่ด้วย
ขั้นตอนการรื้อไม่นานครับ 4-5 วันก็เสร็จ หลังจากรื้อแล้วถ้าจำไม่ผิดก็จะเป็นการทำงานโครงสร้าง หลัก ๆ บ้านผมไม่ได้เปลี่ยนเลย์เอาต์อะไรมาก เนื่องด้วยงบประมาณที่จำกัด จะมีก็คือการต่อเติมห้องครัวขนาด 4x3 เมตร ออกไปตรงหลังบ้าน และต่อห้องนอนชั้น 3 ออกไปตรงระเบียง เพราะพื้นที่ห้องนอนชั้น 3 เล็กมาก วางเตียง 6 ฟุตแทบจะไม่ได้
ขั้นตอนการรื้อไม่นานครับ 4-5 วันก็เสร็จ หลังจากรื้อแล้วถ้าจำไม่ผิดก็จะเป็นการทำงานโครงสร้าง หลัก ๆ บ้านผมไม่ได้เปลี่ยนเลย์เอาต์อะไรมาก เนื่องด้วยงบประมาณที่จำกัด จะมีก็คือการต่อเติมห้องครัวขนาด 4x3 เมตร ออกไปตรงหลังบ้าน และต่อห้องนอนชั้น 3 ออกไปตรงระเบียง เพราะพื้นที่ห้องนอนชั้น 3 เล็กมาก วางเตียง 6 ฟุตแทบจะไม่ได้
- เริ่มด้วยครัวเลย ลงเสา 6 เหลี่ยม ยาว 6 เมตร จำไม่ได้แล้วว่ากี่ต้น เท่าที่อ่านมาถ้าลงเป็นไมโครไพล์ 15-21 นิ้ว ให้ถึงชั้นดินแข็งเลยจะดีกว่า เสา 6 เมตรยังอยู่ในชั้นดินอ่อนอยู่ ในอนาคตมีโอกาสทรุด
- หลังจากลงเสาแล้วก็ก่อโครงเหล็ก หลังคาจะเป็นเมทัลชีทครับ
- เริ่มมีโครงละ ก่อครัวใช้อิฐมวลเบาหมดครับ เพราะเสาไม่ได้ลงลึก ไม่อยากให้หนักมาก เดี๋ยวระยะยาวจะทรุดเยอะ
- ห้องนอนชั้น 3 ที่ต่อออกไป
- หลังจากนั้นก็เริ่มเดินไฟ แล้วก็ใส่ฝ้า จริง ๆ ผมไม่ค่อยชอบฝ้าสักเท่าไหร่ เพราะมันลงมาถึงระดับคานเลย วัดจากพื้นถึงฝ้าประมาณ 2.5 เมตร ผมรู้สึกมันอึดอัดไป อาจจะเพราะผมเป็นคนตัวสูงด้วย สูง 186 เซนติเมตร แต่ถ้าไม่ทำฝ้าลงมาถึงระดับคาน สถาปนิกบอกว่ามันจะไม่ค่อยสวย ต้องทำใจครับ 2.5 เมตร ก็ไม่แย่มาก คอนโดก็ประมาณนี้
- พื้นผมเลือกเป็นกระเบื้องยางลายไม้ เพราะจากที่อ่านมาเบื้องต้น น่าจะดูแลรักษาง่ายกว่าลามิเนต และมีโอกาสบวมต่ำกว่า ก่อนจะปูกระเบื้องยางก็ทำการปรับพื้นผิวให้เรียบครับ
- มาถึงขั้นตอนท้าย ๆ แล้ว คือ การใส่วงกบหน้าต่างแล้วก็ทาสี
- บันไดเอาลูกตั้งมาปิดครับ ถ้าโล่ง ๆ แล้วดูแปลก ๆ สงสัยผมฝังใจกับหนังผีตอนเด็ก ๆ มากไป ที่เดินขึ้นบันไดแล้วมีผียื่นมือมาจับขา 555+ พื้นที่ใต้บันใดปิดทึบและทำเป็นที่เก็บของ ตรงผนังที่เก็บของทำเป็นที่แขวนทีวี
หลังจากทำรวม ๆ กันแล้วประมาณ 5-6 เดือนก็เสร็จครับ อาจจะช้าหน่อย เพราะว่าติดช่วงสงกรานต์ที่ช่างกลับบ้านไปครึ่งเดือนเลย เสร็จสักที !!!
หลังจากทำรวม ๆ กันแล้วประมาณ 5-6 เดือนก็เสร็จครับ อาจจะช้าหน่อย เพราะว่าติดช่วงสงกรานต์ที่ช่างกลับบ้านไปครึ่งเดือนเลย เสร็จสักที !!!
- โซนนั่งกินข้าว เนื่องจากผมอยู่คนเดียว เลยซื้อโต๊ะกินข้าวตัวเล็ก ๆ จาก Ikea ไม่อยากให้โต๊ะใหญ่จนกินพื้นที่บ้านมากครับ เพราะตัวบ้านก็ไม่ได้ใหญ่อะไรอยู่แล้ว แต่โต๊ะตัวนี้ถ้าเพื่อนหรือครอบครัวมา ก็ขยายออกได้ครับ
- สุขภัณฑ์ในห้องน้ำไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ เพราะหลัง ๆ งบเริ่มหมด
- โถงทางเดินชั้น 2
- ห้องนอนชั้น 2 ห้องนี้ ผมค่อนข้างชอบเป็นพิเศษ เพราะแสงเข้าดีมาก และเวลาเปิดหน้าต่างนี่เย็นสบายจนแทบไม่ต้องเปิดแอร์เลย สำหรับแขกมานอนครับ หรือเผื่อมีลูก เอาไว้ให้ลูกนอน
- ห้องนอนใหญ่ชั้น 3
- ห้องทำงานชั้น 2 ยังไม่ค่อยมีเฟอร์นิเจอร์อะไรมาก ยังคิดไม่ออกจะเอาอะไรมาใส่ครับ กำลังคิด ๆ ว่าจะเอาชั้นวางหนังสือหรือตู้โชว์มาใส่
- พ่อแม่มาเยี่ยมหา ถ่ายรูปกันไว้หน่อย Happy Family
จบละครับสำหรับการแชร์ประสบการณ์การซื้อทาวน์เฮ้าส์มือสองมารีโนเวท อาจจะยังดูไม่ค่อยสมบูรณ์บ้าง เพราะพึ่งเข้าอยู่ได้ไม่นาน ยังไม่ได้ซื้อเฟอร์นิเจอร์เต็มที่ บวกกับงบประมาณตอนหลังที่เริ่มจะจำกัดด้วย ถ้าสนใจข้อมูลสถาปนิกหรือผู้รับเหมาติดต่อผมมาได้ทาง Line ID: paaninw เบอร์โทร 091-069-1832 ได้นะครับ หวังว่ากระทู้ผมจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังจะรีโนเวทบ้านบ้างนะครับ ขอบคุณที่ติดตามครับ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 5125566 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
จบละครับสำหรับการแชร์ประสบการณ์การซื้อทาวน์เฮ้าส์มือสองมารีโนเวท อาจจะยังดูไม่ค่อยสมบูรณ์บ้าง เพราะพึ่งเข้าอยู่ได้ไม่นาน ยังไม่ได้ซื้อเฟอร์นิเจอร์เต็มที่ บวกกับงบประมาณตอนหลังที่เริ่มจะจำกัดด้วย ถ้าสนใจข้อมูลสถาปนิกหรือผู้รับเหมาติดต่อผมมาได้ทาง Line ID: paaninw เบอร์โทร 091-069-1832 ได้นะครับ หวังว่ากระทู้ผมจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังจะรีโนเวทบ้านบ้างนะครับ ขอบคุณที่ติดตามครับ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 5125566 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม