เทรนด์จัดสวน 2020 แนะนำไอเดียจัดสวนจากงานบ้านและสวนแฟร์ การปรับพื้นที่สีเขียวให้เหมาะกับการใช้งานมากขึ้น และการใช้ธรรมชาติช่วยบำบัดจิตใจ เปลี่ยนวันที่เหนื่อยล้าให้ร่างกายกลับมามีพลังอีกครั้ง
สำหรับคนเมืองที่โหยหาธรรมชาติ ที่พักอาศัยของเราไม่เอื้ออำนวยกับการจัดสวน วันนี้กระปุกดอทคอมขอรวบรวมเทรนด์จัดสวนสวย ๆ เก็บตกจากงานบ้านและสวนแฟร์ Select 2020 เมืองทองธานี มาให้ชมกัน โดยเทรนด์จัดสวนเน้นการปรับพื้นที่ให้ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์มากขึ้น แม้จะมีพื้นที่เล็ก ๆ ก็สามารถเปลี่ยนให้เป็นสวนหย่อมนั่งเล่นได้ รวมถึงการใช้ธรรมชาติบำบัดด้วยสัมผัส กลิ่น เสียง แสงและสี
1. ต้นไม้จัดสวนหลากสี
ก่อนหน้านี้เน้นการจัดสวนด้วยต้นไม้ใบเขียว ซึ่งจริง ๆ แล้วยังมีไม้ใบอีกหลากหลายชนิดที่ช่วยให้สวนดูสดใสมีสีสันมากขึ้น เช่น ไม้ใบด่าง ไม้ใบเงิน และไม้ใบแดง รวมถึงยังตกแต่งให้สวยงามด้วยความหลากหลายด้วยไม้ใบสวยหรือพรรณไม้ดอกหอม โดยพรรณไม้เหล่านี้เป็นไม้เมืองร้อน ที่สามารถหาซื้อได้จากร้านขายต้นไม้ ดูแลง่าย แถมยังเหมาะกับสภาพอากาศของเมืองไทย ได้แก่
- พันธุ์ไม้ใบด่าง เช่น พุดด่าง เตยด่าง ชาฮกเกี้ยนด่าง ยางอินเดียด่าง ไทรสามเหลี่ยมด่าง ซุ้มกระต่ายด่าง และบุษบาฮาวายด่าง เป็นพรรณไม้ที่ช่วยให้มุมสวนมืด ๆ ดูสว่างสดใสขึ้นมาได้ เนื่องจากเฉดสีของใบที่อ่อน ด่าง ต่างจากสีเขียวเข้ม ยิ่งถ้าปลูกหลายพันธุ์ผสมกัน หรือปลูกพันธุ์แปลก ๆ ร่วมด้วยละก็ ยิ่งจะเพิ่มความสวยงาม น่าสนใจมากขึ้นไปใหญ่เลยล่ะ
- พันธุ์ไม้ใบเงิน เช่น นีออน กระดุมไม้ใบเงิน เป็นพรรณไม้ที่เวลาโดนแสงแล้วจะส่องประกายสีเงินออกมา จึงดูสวยสะดุดตา มีเสน่ห์ชวนมอง ที่สำคัญตรงตามเทรนด์สีของปี 2020 อย่าง “นีโอมินต์” สุด ๆ โดยจะเป็นสีเขียวธรรมชาติผสมกับวิทยาศาสตร์ จนทำให้รู้สึกล้ำและอนาคตมาก ๆ นั่นเอง
- พันธุ์ไม้ใบแดง เช่น ชบาเมเปิล หมากผู้หมากเมีย หูกระจงแดง และตีนเป็ดแดง สามารถช่วยให้สวนเล็ก ๆ แคบ ๆ ดูน่าสนใจและมีสีสันขึ้นมาได้ แบบไม่ต้องปรุงแต่งอะไรมาก แถมยังทำให้ไม่รู้สึกเบื่อหน่ายหรือจำเจกับใบไม้สีเขียวอย่างเดียวด้วย
- พันธุ์ไม้ใบสวย เช่น ฟิโลเดนดรอน หูช้าง อีกหนึ่งพรรณไม้ที่เป็นที่นิยมในช่วงหลัง ๆ นี้ เนื่องจากมีชื่อเสียงเรื่องความสวยงาม โดดเด่น และแปลกตา โดยจะปลูกจัดสวนก็สวย จัดตัดใบไปปักแจกันก็แจ่ม เรียกได้ว่าประโยชน์การใช้งานเพียบเลยทีเดียว
- พันธุ์ไม้กลิ่นหอม เช่น พุด มะลิ ลาเวนเดอร์ นอกจากจะมีดอกสวยงาม ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับสวนแล้ว ยังมีกลิ่นหอม ช่วยให้นั่งเล่นอยู่ในสวนได้อย่างเพลิดเพลินอีกด้วย
2. ผสานพื้นที่สีเขียวกับไลฟ์สไตล์เข้าไว้ด้วยกัน
สวนจะไม่ใช่แค่พื้นที่สีเขียวสำหรับปลูกต้นไม้เท่านั้น แต่ยังมีการปรับพื้นที่ให้เหมาะกับการใช้ชีวิตและใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น โดยการนำเฟอร์นิเจอร์เอาต์ดอร์มาจัดวางเป็นมุมนั่งเล่นไว้พักผ่อนหย่อนใจ สำหรับพื้นที่เล็ก ๆ อาจจะปรับเปลี่ยนเป็นเคาน์เตอร์บาร์หรือใช้ม้านั่งเล่นมาตกแต่งแทน
3. ขยายพื้นที่สวนด้วยกระจก
กระจก เป็นไอเทมที่ช่วยสร้างเอฟเฟกต์ให้กับสวนได้อย่างน่าสนใจ ไม่ว่าจะทำให้เกิดภาพซ้อน จนได้มิติและมุมมองที่แปลกใหม่ หรือจะช่วยสะท้อนเงา จนทำให้พื้นที่ดูกว้างขวางมากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากนี้กระจกยังสามารถเพิ่มลูกเล่นให้กับสวนได้ดีอีกด้วย ตัวอย่างเช่น การตั้งกระจกเป็นซุ้มทางเข้า พร้อมหันมุมให้เยื้องไปด้านใน ก็จะช่วยเชิญชวนให้ใครต่อใครอยากเข้าไปชม เข้าไปสัมผัส หรือการนำกระจกหลายบานตั้งตามซอก ตามมุมต่าง ๆ เพื่อทำเป็นเขาวงกต ก็จะช่วยเพิ่มความลึกลับ ทำให้สวนมีความแฟนตาซีและแอดเวนเจอร์เพิ่มขึ้นมาได้
4. Garden Therapy สวนบำบัด
เพราะไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีเวลาว่างตอนกลางวัน จึงทำให้การจัดสวนกลางคืนเป็นสิ่งที่น่าจับตามองเป็นอย่างมากในปีนี้ ซึ่งถ้าหากใครคิดไม่ออกว่าแนวคิดหลักเป็นอย่างไร ภายในงานบ้านและสวนแฟร์ select 2020 ก็ได้นำเสนอมุมมองการจัดสวนกลางคืนผ่านรูปแบบสวนบำบัด (Garden Therapy) โดยหยิบเอาประเด็นประสาทสัมผัสต่าง ๆ ทั้งสัมผัส กลิ่น เสียง แสงและสี มาผสมผสานอย่างลงตัว เริ่มตั้งแต่ทางเข้าที่เป็นสวนหิน ทำให้ได้โมเมนต์เสียงและสัมผัสจากการเดิน ที่สำคัญถ้าหากใครเดินเท้าเปล่า ก็จะรู้สึกเหมือนกับนวดเท้าไปในตัว นอกจากนี้ยังมีการพรางตาด้วยผ้าเพื่อปิดกั้นการมองเห็น ทำให้ต้องใช้มือปัดจนเกิดเป็นอีกหนึ่งการสัมผัส อีกทั้งยังได้จินตนาการถึงสิ่งที่อยู่ข้างหน้าไปพร้อม ๆ กันด้วย
ต่อมาจะเป็นส่วนของกลิ่น คือ เมื่อเดินเข้ามาถึงจุดหนึ่งก็จะได้กลิ่นของอโรมาจากต้นไม้ ที่ช่วยให้รู้สึกสบายและผ่อนคลาย ตามมาด้วยเสียงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเสียงน้ำไหล เสียงสัตว์ร้อง เสียงนก เสียงดนตรีที่จัดเตรียมไว้ หรือแม้กระทั่งเสียงทั้งหมดผสมผสานกัน ก่อนจะถึงคิวของการมองเห็นบรรดาต้นไม้ต่าง ๆ เช่น เฟิร์น เคราฤาษี และซิลเวอร์โอ๊ค ที่มาพร้อมกับแสงและสีชวนมอง ซึ่งช่วยเพิ่มเสน่ห์และความน่าสนใจให้กับสวนกลางคืนหรือสวนบำบัดได้เป็นอย่างดี ทำให้ผู้คนสามารถใช้ชีวิตอยู่ในสวนได้นานขึ้น จะนั่งดูไฟ นั่งฟังเพลง หรือนั่งสูดกลิ่นหอมก็ยังได้
ยิ่งไปกว่านั้น การนำโปรเจกเตอร์มาฉายหนังก็ถือเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ช่วยให้สวนไม่น่าเบื่อและสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนปัจจุบันมากขึ้นไปด้วย เรียกได้ว่าเป็นรูปแบบการจัดสวนที่ช่วยให้สวนไม่จำเจ แถมยังสดชื่น ดีงาม สดใส น่าสนใจไม่แพ้ตอนกลางวันเลยทีเดียว
5. การใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย
ทุกวันนี้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตของเราเกือบทุกเรื่อง ไม่ว่าจะรถ บ้าน แก็ดเจ็ต หรือแม้กระทั่งของใช้ในบ้าน ที่สำคัญล่าสุดดูเหมือนว่าจะเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดสวนอีกด้วย เนื่องจากปัจจุบันสวนของหลาย ๆ บ้านมีลูกเล่นที่ทันสมัยและน่าสนใจ ทั้งจากน้ำ แสง สี และเสียง ดังนั้นการนำเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วม จึงช่วยให้ควบคุมง่ายและประหยัดเวลามากกว่า เพราะการสั่งการแค่เพียงคลิกเดียว ก็สามารถคอนโทรลทุกอย่างได้อยู่หมัด ไม่ว่าจะเปิด-ปิดน้ำ เปิด-ปิดเพลง เปิด-ปิดไฟ หรือเพิ่ม-ลดแสง ก็ทำได้หมด รับรองคุ้มค่า ประหยัดเวลา ไม่ต้องเดินไปจัดการ ไม่อยู่บ้านก็แก้ปัญหาได้ เหมาะกับยุคสมัยที่ทุกอย่างเร่งรีบไปหมดจริง ๆ ค่ะ
เรียกได้ว่าเป็นไอเดียการจัดสวนที่ดีงาม น่าสนใจไม่น้อย เพราะนอกจากจะสวยงามแล้ว ยังสนับสนุนให้คนใช้ประโยชน์และคุณค่าจากสวนด้วย เอาเป็นว่าคนรักสวนคนไหนที่อยากจัดสวนใหม่ให้เข้ากับยุคสมัย ก็ลองนำไปปรับใช้กันได้ตามความเหมาะสมเลยนะคะ