x close

9 ทริกแบ่งเวลาช่วง Work From Home ปรับนาฬิกาชีวิตให้บาลานซ์

หลายคนที่ต้อง Work from Home ในช่วงนี้อาจจะปรับตัวไม่ทัน จัดสรรเวลาไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะทำงานที่บ้านอย่างไรดีให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด มาดูวิธีเหล่านี้แล้วนำไปปรับใช้กันค่ะ

นาฬิกาชีวิต

ช่วงนี้สถานการณ์โควิด 19 กำลังระบาดรุนแรงอย่างมาก หลายบริษัทก็เซฟพนักงานโดยให้ทำงานจากบ้าน (Work from Home) เพื่อจำกัดการเดินทางผ่านขนส่งสาธารณะ ลดการสัมผัสใกล้ชิดกับคนหมู่มาก แต่ปัญหาก็เกิดขึ้น เพราะหลายคนที่ต้องทำงานที่บ้านอาจจะปรับตัวไม่ถนัด จัดการเวลาไม่ได้ว่าตอนไหนควรจะทำงาน ตอนไหนควรจะพักผ่อนหรือใช้เวลากับครอบครัว บางคนหนักเลยเพราะรู้สึกว่าจะต้องนั่งทำงานตลอดตั้งแต่เช้าจนถึงดึกดื่น ทำให้ตารางเวลาของร่างกายรวนไปหมด จนกลายเป็นเครียดกว่าต้องเดินทางไปทำงานที่บริษัทเสียอีก แต่ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ เราคงจะต้องอยู่กับการ Work from Home กันไปยาว ๆ แน่ ซึ่งกระปุกดอทคอมก็ไม่รอช้า รีบหาวิธีจัดการเวลาที่จะช่วยให้ทุกคนทำงานที่บ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่กระทบกับชีวิตส่วนตัวมาฝากกัน ดังนี้ค่ะ 

1. วางแผนตารางการทำงาน

ถ้ามีสมาชิกในบ้านต้องทำงานจากที่บ้าน หรือเป็นครอบครัวที่มีเด็กเล็กเรียนออนไลน์ ควรวางแผนตารางการทำงานในแต่ละวันหรือสัปดาห์ว่าใครจะทำงานที่ไหนและเมื่อไร เพื่อให้อีกฝ่ายได้จัดการเวลาถูกว่าจะรับผิดชอบงานบ้าน หรือดูแลเด็กในเวลาเรียนหน้าคอมพิวเตอร์อย่างไร เพื่อไม่ให้กระทบกับการทำงานของทุกคนในครอบครัว

2. กำหนดพื้นที่ห้องทำงาน

จัดสรรหรือกำหนดพื้นที่ทำเป็นห้องทำงานให้ชัดเจน เช่น มุมในห้องนั่งเล่นมีไว้เพื่อทำงาน โต๊ะในห้องครัวจะใช้สำหรับเวลากินข้าว และโซฟาจะมีไว้สำหรับนั่งพักผ่อนเท่านั้น วิธีนี้จะทำให้เราสามารถจัดสรรและใช้งานพื้นที่ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม เพื่อสร้างบรรยากาศที่เน้นย้ำว่ามุมไหนใช้ทำงาน และมุมไหนใช้สำหรับเวลาพักผ่อน ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้จดจ่อกับการทำงานมากด้วย

3. จัดสรรเวลาให้เหมือนทำงานปกติ

กำหนดเวลาในการทำงานให้ชัดเจน เสมือนทำงานอยู่ที่ออฟฟิศตามปกติ มีเวลาเข้า-เลิกงานที่ใกล้เคียงกับเวลางานจริง ๆ เช่น เข้า 9 โมง เลิกงาน 6 โมงเย็น ก็ต้องใช้ช่วงเวลาเหล่านั้นในการทำงานอย่างเต็มที่และเคร่งครัด ที่สำคัญอย่าลืมกำหนดเวลาพักเที่ยง และพักเบรกต่าง ๆ ระหว่างวันด้วย ทำให้เหมือนว่าเรากำลังทำงานอยู่ที่ออฟฟิศปกติเลย เพื่อไม่ให้ตึงเครียดเกินไป 

4. กำหนดขอบเขตระหว่างเวลางานและเวลาส่วนตัว

นาฬิกาชีวิต

หากเวลาเข้างานของคุณก็คือ การมานั่งที่โต๊ะทำงาน เปิดคอมพิวเตอร์ ติดต่อทำงานไปเรื่อย ๆ พอตกเย็นถึงเวลาเลิกงานก็ปิดคอมพ์ แล้วลุกออกจากมุมทำงาน แต่หลายคนทำไม่ได้แบบนี้ เพราะบางครั้งก็เผลอทำงานติดพันหรือมีประชุมจนถึงดึกดื่น ดังนั้นจึงควรทำความเข้าใจและปรับพฤติกรรมของตัวเองเพื่อรักษาสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานที่ดีให้ชัดเจน ว่าทำงานเวลาไหนก็ต้องตั้งใจทำงานอย่างสุดความสามารถ และเมื่อถึงเวลาเลิกงานก็ต้องหยุดและพักผ่อนให้เต็มที่เช่นเดียวกัน บางคนอาจจะใช้วิธีตั้งนาฬิกาปลุกให้ดังเตือนเมื่อถึงเวลาเลิกงาน แล้วปิดคอมพ์ รวมถึงปิดแจ้งเตือนแอปพลิเคชันที่เกี่ยวกับการทำงานทั้งหมดเมื่อหมดวัน และเปิดใหม่อีกครั้งในเช้าวันทำงานต่อไป เพื่อใช้เวลาหลังเลิกงานซึ่งเป็นเวลาส่วนตัวอย่างเต็มที่

5. ลดสื่อโซเชียลหรือสิ่งรบกวนการทำงานต่าง ๆ

เพื่อให้งานที่ทำอยู่เสร็จเรียบร้อยอย่างมีประสิทธิภาพ ควรกำจัดสิ่งรบกวนหรือสิ่งเร้าต่าง ๆ เช่น ปิดเสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต หรือโทรทัศน์ รวมถึงเลี่ยงการเข้าโซเชียลเน็ตเวิร์กต่าง ๆ ในขณะที่กำลังทำงานอยู่ด้วย เพื่อให้เกิดความเงียบและจะได้โฟกัสให้กับงานอย่างเต็มที่ หรือถ้าใครคิดว่าอยู่เงียบ ๆ แล้วพาลจะง่วงเอาเสีย ก็อาจเปลี่ยนไปเปิดเพลงคลอเบา ๆ ระหว่างทำงานแทนก็ได้

6. ทำความเข้าใจกับคนในครอบครัว

ปัญหาหนึ่งของคนที่ต้อง Work from Home คือ คนที่บ้านจะไม่เข้าใจว่าเราต้องทำงานที่บ้าน หรือสภาพแวดล้อมที่บ้านไม่เอื้ออำนวยในการทำงาน เช่น เสียงดัง คนเดินพลุกพล่าน หรือมีเด็กเล็กหรือสัตว์เลี้ยงต้องดูแล เป็นต้น ดังนั้น ควรบอกกล่าวและกำหนดตารางการทำงานของตัวเองให้กับสมาชิกในบ้านรู้เลยว่าเราต้องเข้างานช่วงเวลานี้ หรือจะมีประชุมงานวันนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการขัดจังหวะระหว่างวันหรือมีตติ้งสำคัญ ๆ 

7. วางแผนงานที่จะทำล่วงหน้า

นาฬิกาชีวิต

การวางแผนว่าจะทำงานอะไรก่อน-หลัง งานชิ้นไหนเร่งด่วน ต้องทำเสร็จเป็นอย่างแรก จะช่วยให้จัดการเวลาได้อย่างดีเยี่ยม โดยสามารถเลือกให้เข้ากับไลฟ์สไตล์การทำงานของตัวเอง เช่น ช่วงเช้าเป็นการเช็กอีเมล ตามงานจากวันก่อน ประชุมวางแผน หรือเริ่มต้นงานชิ้นใหม่ และช่วงบ่าย ก็เป็นช่วงทำงานชิ้นนั้น ๆ และเมื่อมีแผนงานที่จะต้องทำแล้ว ตัวเราเองก็ควรมีวินัย ซื่อตรง และซื่อสัตย์ต่อองค์กรและหัวหน้างานด้วย เช่น ควรจะรายงานงานที่ทำอยู่ กำลังจะทำต่อไป และผลของการทำงานให้หัวหน้างานรับรู้อยู่เสมอ โดยอาจจะใช้วิธีเขียนรายงานส่งทุกเช้า เพื่อกระตุ้นให้เกิดการทำงานมากขึ้นในทุก ๆ วัน 

8. หยุดทำงานหลายอย่างพร้อมกัน

อย่าคิดว่าการทำงานหลายอย่างจะช่วยประหยัดเวลาได้ เพราะสมองของเราต้องประมวลผลใหม่ทุกครั้งเมื่อเริ่มทำสิ่งใหม่ ๆ ใช้เวลาอย่างน้อย 15 นาที ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพของการทำงานได้ ดังนั้น ลองโฟกัสกับงานทีละอย่างแล้วตั้งใจทำงานชิ้นนั้นให้ดีที่สุดจนสำเร็จ เมื่อเสร็จแล้วก็ค่อยเริ่มงานชิ้นต่อใหม่ เมื่อลองทำแบบนี้แล้ว เชื่อเถอะว่าคุณจะมีสมาธิในการทำงานเพิ่มขึ้น และทำงานได้เสร็จไวกว่าที่คิดไว้เสียอีก 

9. อยู่ให้ห่างจากงานส่วนตัวหรืองานบ้าน

แม้ว่าอยู่ที่ออฟฟิศ คุณจะต้องเดินไปล้างจานล้างแก้วบ้างเล็กน้อยหลังจากมื้อเที่ยง แต่คุณก็คงไม่ถึงขนาดซักและตากผ้าในเวลางานเมื่อต้องทำงานที่บ้านหรอกนะ คุณควรปฏิบัติตัวในการ Work from Home เสมือนคุณนั่งทำงานที่ออฟฟิศ ดังนั้นเมื่อมีงานส่วนตัวหรืองานบ้านที่เกิดขึ้นในช่วงเวลางาน ก็จดโน้ตเอาไว้ก่อน แล้วค่อยทำเมื่อถึงเวลาเลิกงานนะ 

การ Work from Home สามารถเป็นประโยชน์กับพนักงานที่ทำงานบริษัทอย่างมาก เพราะเป็นโอกาสที่จะได้ทำงานโดยไม่มีความกดดันและไม่ต้องเหนื่อยกับการเดินทาง ขอแค่รู้หลักในการจัดการเวลา เพียงเท่านี้คุณก็จะสามารถทำงานที่บ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพแน่นอนค่ะ 

ขอบคุณข้อมูลจาก roberthalfforbes และ facilethings
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
9 ทริกแบ่งเวลาช่วง Work From Home ปรับนาฬิกาชีวิตให้บาลานซ์ อัปเดตล่าสุด 27 สิงหาคม 2564 เวลา 16:38:40 21,973 อ่าน
TOP