
ภาพจาก One Playground
รายการ เคหสถานบานปลาย ทางช่องยูทูบ One Playground โดยมี ฟรอยด์ ณัฏฐพงษ์ และ บอย พิษณุ พาไปบุกบ้านนางเอกสาวสวยไซซ์มินิ ออม สุชาร์ แต่บอกเลยว่าบ้านไม่มินิตามเจ้าของ เพราะบ้านสวยหรูหราใหญ่โตมาก แถมฟรอยด์ยังเมาท์อีกว่า พวกธนาคาร เงินกู้ หรือบัตรเครดิตต่าง ๆ ไม่ได้กินเงินเจ้าของบ้านหลังนี้แน่นอน เพราะเธอจ่ายเงินสดทั้งหมด ราคาบ้านเปล่า ๆ 46 ล้านบาท เป็นหลังที่ใหญ่ที่สุดในโครงการ สาวออมต่อราคาลดลง 8 ล้านบาท และเสียค่าตกแต่งภายในบ้านไปอีก รวมราคาแล้ว 60 กว่าล้านบาท
โดยนางเอกสาว ออม สุชาร์ ยอมรับว่าซื้อเงินสดเพราะอยากได้ถูก มาเลือกซื้อตอนเย็น ๆ ต่อราคาแล้วซื้อเลย หลังนี้เป็นหลังสุดท้าย กลัวใครจะเอาไป เพราะรู้สึกชอบมาก ดูเลขบ้านดูทุกอย่างถูกโฉลกกับเราทั้งหมด จึงตัดสินใจซื้อ กระทั่งปัจจุบันอยู่มา 2 ปีแล้ว
บานปลายที่ 1

ภาพจาก One Playground
บานปลายที่ 2

ภาพจาก One Playground
บานปลายที่ 3

ภาพจาก One Playground
ประตูบ้าน ความจริงประตูเข้าบ้านไม่ได้สูงขนาดนี้ แต่เธอทุบแล้วทำประตูใหม่ เอาให้สูงที่สุดเท่าที่ทำได้ ซึ่งก็ได้ความสูงมาที่ 2.8 เมตร ราคาค่าทำแล้ว 1.5 ล้านบาท ซึ่งประตูทำจากไม้โอ๊ก และห้องทำงานคุณพ่อก็ทำเป็นลักษณะเดียวกัน
เมื่อพาเข้าไปดูที่ห้องนั่งเล่น 2 พิธีกรร้องว้าวไม่หยุด เพราะชุดโซฟายี่ห้อหรู Fendi ราคาเป็นล้านบาท ผ้าห่มที่วางบนโซฟาไว้คลุมตอนนั่งเล่นดูทีวี เป็นผ้าห่มของ Hermes อีกด้วย ฟรอยด์ถึงกับเรียกสาวออมว่า คุณออม ขึ้นมาทันที
ทั้งนี้ นางเอกสาวบอกว่าสิ่งที่แพงของบ้านหลังนี้คงเป็นในส่วนของโครงสร้าง เพราะตอนแรกภายในบ้านมีผนังแค่ชั้นเดียว เธอก็ให้ช่างทำผนังซ้อนขึ้นมาอีก 1 ชั้น โดยทำเป็นโค้ง ๆ ทำให้บ้านสวยมีมิติมากขึ้น เมื่อบอกให้ตีราคาคร่าว ๆ แค่ห้องนั่งเล่นกับห้องทำงานคุณพ่อ สาวออมบอกว่าประมาณแน่นอนไม่ได้เพราะมันถูกตีรวมเป็นหลัง แต่ถ้าให้คิดคร่าว ๆ 2 ห้องนี้ก็ประมาณ 3 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีจุดให้อึ้งอีกเพียบ ไม่เว้นแม้แต่ด้ามไม้จับประตู ที่ฟรอยด์กับบอยถึงกับล้มไม่เป็นท่า เมื่อรู้ราคาด้ามจับประตูราคาคู่ละ 5 หมื่นบาท ซึ่งใช้ติดกับประตูจำนวน 2 คู่ รวมแล้ว 1 แสนบาท ออมบอกว่าเป็นสิ่งสุดท้ายที่ซื้อเข้าบ้าน เพราะคิดว่าทำไมเราต้องลงทุนกับด้ามจับแพงขนาดนี้ เราพยายามไปหาที่อื่นแล้ว แต่สุดท้ายก็ไม่เจอที่ชอบเลยเพราะเหมือนเราชอบอันนี้ไปแล้ว มันลงตัวที่สุด
บานปลายที่ 4

ภาพจาก One Playground
ผนังบ้านหน้าห้องกินข้าว ช่างออกแบบว่าอยากให้แถบนี้เป็นรูปกวาง แต่พอส่งบิลมา เราบอกให้ตัดกวางออกไปเลย เพราะมีกวางแล้วบิลรวม 3-4 แสนบาท เลยเปลี่ยนเป็นติดวอลเปเปอร์แบบเรียบ ๆ แต่ส่วนตัวเป็นคนที่ชอบอะไร สุดท้ายก็กลับไปซื้อ สุดท้ายก็เลยไปสั่งให้มีกวางกลับมาอีก แต่เราก็เสียดายวอลเปเปอร์ที่เพิ่งติดไป เพราะมันยังใหม่เอี่ยม เลยสั่งทำกรอบทำรอบผนังรูปกวาง ทำให้ผนังเหมือนกรอบรูป เลยบานปลายไปกันใหญ่ แค่กรอบก็เกือบแสนแล้ว
ห้องอาหาร เป็นอย่างเดียวที่คุ้มค่าและไม่แพงเลย เพราะเป็นโต๊ะอาหารขนาด 8 ที่นั่ง เป็นหินอ่อนแท้ ฟรอยด์เดาว่าราคาประมาณล้านบาท แต่สุดท้ายผิดคาด เพราะโต๊ะอาหารหินอ่อนแท้ รวมแล้วประมาณ 9 หมื่นบาท เนื่องจากออมไปหาซื้อหินอ่อนเองจากโรงงาน หาช่างทำไม้ใส่ขาโต๊ะ ทำให้งบไม่บานปลายอย่างที่คิด ส่วนผ้าม่านเป็นม่านบังแสง และมีม่านซ้อนอีกชั้นเป็นรูปดอกไม้ ราคา 5 แสนบาท
จากนั้นพาไปดูห้องครัว เป็นลักษณะครัวเตรียมอาหารจากแบรนด์ Poliform รวมแล้วประมาณ 2 ล้านบาท แพงเพราะเป็นครัวจากอิตาลี แล้วมาติดตั้งให้ที่บ้านเรา แพงเพราะแบรนด์และดีไซน์ด้วย โดยเมื่อรวมราคาห้องกินข้าวและห้องครัว เบ็ดเสร็จประมาณ 5 ล้านบาท
บานปลายที่ 5

ภาพจาก One Playground
ห้องนั่งเล่นชั้น 2 โซฟาสีขาวสะอาดตาจนพิธีกรแทบไม่กล้านั่ง เป็นโซฟาจากแบรนด์ Minotti ราคาล้านกว่าบาท
ห้องนอน ไฮไลต์อยู่ที่เตียงนอนจากแบรนด์ Minotti ราคาล้านกว่าบาท ซึ่งเฉพาะเตียงเท่านั้น ส่วนฟูกที่นอนใช้ของ Dunlop และผ้าปูที่นอนของ Ralph Lauren โซฟาที่นั่งปลายเตียงจากแบรนด์ Fendi ราคาประมาณ 3 แสนบาท รวมราคาแค่โซนที่นอนประมาณ 1.7 ล้านบาท และหากรวมเบ็ดเสร็จราคาห้องนอน ประมาณ 10 ล้านบาท กรี๊ดดดดดดดดด !!!
อย่างไรก็ตาม ช่วงท้ายรายการ ออม สุชาร์ บอกว่าบ้านเป็นทุกอย่างที่บอกไลฟ์สไตล์ของเรา เป็นพื้นที่ที่เราจะอยู่ไปจากนี้ตลอดชีวิต จะถูกหรือแพงยังไง ทุกอย่างไม่มีถูกไม่มีผิด เพราะมันเกิดจากความชอบและความพึงพอใจของเรา

ภาพจาก One Playground

ภาพจาก One Playground

ภาพจาก One Playground