รวมต้นไม้ตระกูลเฟิร์น ต้นไม้ใบสวย ปลูกแต่งบ้านเติมความสดชื่นใกล้ชิดธรรมชาติ อีกทั้งมีสรรพคุณทางยาด้วย
อยากหาเฟิร์นปลูกจัดสวนนอกจากเป็นไม้ประดับแล้วยังรักษาโรคได้ด้วย วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับต้นเฟิร์น ถ้าเข้าใจธรรมชาติจะปลูกง่ายมาก พร้อมเฟิร์นสายพันธุ์ต่าง ๆ รวมถึงวิธีปลูก การดูแล และประโยชน์ของต้นไม้จัดสวนชนิดนี้
เฟิร์น คืออะไร
เฟิร์น เป็นพืชชั้นต่ำที่มีหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบลำต้นตั้งตรง ทอดตัวไปกับพื้นดิน และแบบเหง้าใต้ดิน ทำหน้าที่เป็นท่อลำเลียงน้ำและอาหาร แต่จะไม่มีดอกหรือเมล็ด สามารถแพร่พันธุ์ได้ด้วยสปอร์ เฟิร์นมีหลายสายพันธุ์และมีประโยชน์ต่างกันไป เช่น เป็นไม้ประดับ ยา อาหาร หรือปุ๋ยชีวภาพ เป็นต้น
วิธีปลูกเฟิร์นในร่ม
-
ควรปลูกในที่ชื้น รดน้ำในชุ่มพอดี อย่าให้แฉะเกินไป โดยวางไว้บนถาดกรวดรองด้วยน้ำ หรือทำระบบพ่นละอองหมอก
-
ควรปลูกในดินร่วนระบายน้ำได้ดี ถ้าดินมีความชื้นสูงมากไปอาจทำให้เกิดเชื้อรา แต่ถ้าดินแห้งจะทำให้เฟิร์นเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลและแห้งกรอบ
-
ควรหลีกเลี่ยงปลูกในสถานที่ที่โดนแดดโดยตรง แค่โดนแดดรำไรก็เพียงพอ
-
ควรปลูกในสถานที่ที่มีความเย็นต่ำกว่า 21 องศาเซลเซียส เพื่อให้เจริญเติบโตได้ดี
สายพันธุ์เฟิร์นใบสวยน่าปลูก
1. เฟิร์นบอสตัน
เฟิร์นบอสตัน (Boston Fern) มีลักษณะเด่นตรงความโค้งและความเขียว มีรอยหยักลึกและเว้นระยะห่างเท่ากัน สามารถปลูกในกระถาง ชอบดินร่วนระบายน้ำได้ดี ชอบอากาศที่มีความชื้นสูง หากปลูกในบ้านยังช่วยฟอกอากาศได้อีกด้วย โดยวางไว้ในบริเวณที่มีแสงแดดรำไรหรือแสงแดดส่องถึง แต่ไม่ควรร้อนเกินไป รวมถึงควรรดน้ำให้เพียงพอ เพื่อป้องกันใบแห้งเหี่ยว
2. เฟิร์นข้าหลวง
เฟิร์นข้าหลวง (Bird's Nest Fern) ลักษณะมีใบยาว ขอบใบหยักคล้ายคลื่น ปลายรี ใบเรียงวนคล้ายดอกกุหลาบ ใบมีสีเขียวอ่อนถึงเข้ม เติบโตได้ดีในที่ที่มีแสงสว่างหรือมีแสงแดดรำไร ชอบดินร่วนปนทราย หมั่นรดน้ำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ไม่ควรฉีดน้ำใส่ใบโดยตรง เพราะอาจจะทำให้ใบเสียหายหรือฉีกขาดได้ หากจะฉีดพ่นควรใช้แบบพ่นไอน้ำแทน
3. เฟิร์นนาคราช
เฟิร์นนาคราช ลักษณะเป็นเหง้าเลื้อยได้ ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ใบรอบนอกเป็นรูปสามเหลี่ยม ก้านใบเล็กสีเขียวสด ชอบความชื้น น้ำปานกลาง แสงแดดรำไร ควรปลูกในดินร่วนระบายอากาศ รดน้ำวันละ 1-2 ครั้ง นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ ใช้บรรเทาพิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย
4. เฟิร์นชายผ้าสีดา
เฟิร์นชายผ้าสีดา (Holttums Staghorn Fern) ลักษณะเด่นคือ มีใบห้อยย้อยลงมาราวกับชายผ้านุ่งหรือผ้าสไบของผู้หญิง เป็นเฟิร์นที่เกาะอาศัยอยู่ตามต้นไม้ใหญ่หรือตามหน้าผาหินที่มีความชุ่มชื้นในบรรยากาศสูง ส่วนมากมีแหล่งกำเนิดอยู่ในป่า แต่บางชนิดอาจพบได้ในพื้นที่แห้งแล้ง ต้องการแสงแดดปานกลางถึงมาก และอากาศถ่ายเทสะดวก
5. เฟิร์นเงิน
เฟิร์นเงิน (Victoria Fern) ลักษณะเป็นกอแทงขึ้นมาจากใต้ดิน ใบเป็นใบประกอบแบบขนนกสองชั้น พื้นใบสีเขียว กลางใบด่างสีขาวเป็นลายคล้ายก้างปลา ชอบดินร่วนปนทราย ระบายน้ำและอากาศได้ดี ต้องการน้ำปานกลาง แสงแดดปานกลางหรือรำไร ปลูกในกระถางหรือตะกร้าแขวนต้นไม้
6. เฟิร์นก้านดำ
เฟิร์นก้านดำ (Maidenhair Fern) ลักษณะมีเหง้าสั้น ก้านสีดำ ใบเป็นใบประกอบขนนกชั้นเดียว ใบย่อยมีขอบหยัก ปลายก้านใบยาว งอกงามได้ดีในสภาพอากาศไม่ร้อน มีความชื้นสูง ดินเป็นกรดอ่อนและระบายน้ำดี ชอบแสงรำไร มีสรรพคุณทางยา รักษาอาการไอ ขับปัสสาวะ ลดกรดในกระเพาะ
7. เฟิร์นเท้ากระต่าย
เฟิร์นเท้ากระต่าย (Rabbit's Foot Fern) ลักษณะเป็นเหง้า มีขนยาวงอกขึ้นมาคล้ายเท้าของกระต่าย ใบเป็นใบประกอบขนนกสีเขียว ปลายใบแคบ ชอบแสงปานกลางหรือแสงรำไร ควรปลูกในดินร่วนระบายน้ำได้ดี รดน้ำได้ทุก 2-3 วัน หรือแค่พอให้ชุ่มชื้นแต่ไม่แฉะ เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง
8. เฟิร์นเขากวาง
เฟิร์นเขากวาง (Staghorn Fern) ลักษณะใบมีปลายแผ่กว้างและหยักเว้า ส่วนโคนใบห่อแน่น ปลายแยกแตกเป็นกิ่งหลายชั้นคล้ายเขากวาง ชอบแสงรำไรถึงแสงมาก ชอบน้ำปานกลางถึงน้ำมาก ชอบดินระบายน้ำได้ดี นิยมปลูกเกาะกับต้นไม้หรือใช้จัดสวนแนวตั้ง รดน้ำสัปดาห์ละครั้งก็เพียงพอ ยกเว้นช่วงที่มีอากาศชื้นสามารถเปลี่ยนเป็น 2-3 สัปดาห์ก็ได้ หรือสังเกตจากสีใบ หากเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลก็หมายความว่ารดน้ำน้อยเกินไปนั่นเอง
9. เฟิร์นหางนางเงือก
เฟิร์นหางนางเงือก ลักษณะเป็นเหง้าทอดไปตามพื้น ใบเป็นรูปหอก ปลายแตกออกเป็นแฉกหลายแฉก แผ่นใบห้อยลง ขอบใบเรียบ ชอบดินร่วนระบายน้ำได้ดี ชอบความชื้นปานกลางถึงมาก แดดร่มรำไร ใช้ปลูกเป็นไม้กระถางประดับหรือจัดสวน
10. เฟิร์นผักชี
เฟิร์นผักชี ลักษณะลำต้นเป็นเหง้าทอดยาว ใบประกอบแบบขนนก 3 ชั้น ก้านใบยาว 3-5 เซนติเมตร แผ่ออกเป็นครีบตลอดก้านใบ เส้นใบแตกปลายเปิด ด้านบนเป็นร่อง หน้าตาคล้ายผักชี ชอบความชื้นปานกลางถึงชื้นมาก และชอบแสงแดดรำไร
สำหรับใครที่อยากปลูกเฟิร์น ต้นไม้ปลูกประดับบ้าน ช่วยฟอกอากาศ รวมทั้งรักษาโรคได้ ลองมาเลือกสายพันธุ์ที่ชอบแล้วลงมือปลูกกันเลย ทั้งนี้ ควรปลูกในบริเวณที่ร่ม มีแดดรำไร เพื่อให้อยู่กับเราไปนาน ๆ ด้วยนะคะ