รวมประเภทเสื้อผ้าและของที่ห้ามนำไปใส่ในเครื่องอบผ้า ป้องกันไม่ให้เสื้อผ้าเสียหาย และไม่ให้เครื่องอบผ้าพัง

สำหรับใครที่เคยเจอปัญหาเสื้อผ้าหดหลังอบผ้า ถ้าไม่อยากเจอปัญหาเดิมฟังทางนี้ เพราะวันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับวิธีใช้เครื่องอบผ้าให้มากชึ้น ตั้งแต่การเช็กว่าเสื้อแบบไหนใช้กับเครื่องอบผ้าได้บ้าง มีวิธีใช้ยังไงให้ถูกต้อง และเสื้อผ้าแบบไหนที่ไม่ควรเอาไปอบด้วยเครื่องอบผ้า !
ผ้าแบบไหนใช้กับเครื่องอบผ้าได้
เบื้องต้นดูได้จากสัญลักษณ์ที่อยู่บนป้ายเสื้อก่อน นอกจากจะบอกว่าสามารถอบผ้าได้หรือไม่แล้ว ยังบอกการเลือกอุณภูมิให้เหมาะกับการอบเสื้อผ้าอีกด้วย
- สัญลักษณ์อบแห้งด้วยอุณหภูมิใดก็ได้

- สัญลักษณ์อบแห้งได้ในอุณหภูมิต่ำ หรือประมาณ 60 °C

- สัญลักษณ์อบแห้งได้ในอุณหภูมิปานกลาง หรือประมาณ 70 °C

- สัญลักษณ์อบแห้งได้ในอุณหภูมิสูง หรือประมาณ 80 °C

- สัญลักษณ์ห้ามอบแห้ง

วิธีใช้เครื่องอบผ้าให้ถูกต้อง

-
เลือกความจุของเครื่องอบผ้าให้เหมาะกับการใช้งาน
-
เลือกอุณภูมิหรือโปรแกรมให้เหมาะกับประเภทของเสื้อ
-
เสื้อผ้าที่นำมาอบควรปั่นหมาดมาแล้ว และสะบัดเสื้อผ้า กลับด้านในออกมาด้านนอก รวมถึงรูดซิปก่อนอบ
-
ตรวจสอบเสื้อผ้าว่าไม่มีสิ่งแปลกปลอมอื่น ๆ ใส่เข้าไปด้วย เช่น เหรียญ บัตร ฯลฯ
-
ใส่เสื้อผ้าให้เหมาะกับความจุของเครื่อง

นอกจากนี้อย่าลืมหมั่นทำความสะอาดแผ่นกรองหรือแผ่นดักจับใยผ้าในเครื่องด้วย โดยใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดหรือหยิบสิ่งสกปรกออกมาทุกครั้งหลังใช้งาน เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องทำงานหนัก ช่วยประหยัดประพลังงาน และยิดอายุการใช้งานของเครื่องอบผ้าไปพร้อมกันด้วย
ผ้าที่ห้ามนำเข้าเครื่องอบผ้า

1. ผ้าสแปนเด็กซ์
ผ้าสแปนเด็กซ์ หรือผ้ายืด จำพวกชุดว่ายน้ำ ชุดออกกำลังกาย ชุดชั้นใน ฯลฯ ไม่ควรนำเข้าไปอบในเครื่องอบผ้า เพราะความร้อนจะทำให้เนื้อผ้าเสียหายหรือเสียทรงได้ หากเป็นผ้าประเภทนี้แนะนำให้บีบน้ำออกแล้วนำไปผึ่งให้แห้งดีกว่า หรือหากต้องการใช้เครื่องอบผ้าควรเลือกอุณภูมิต่ำสุด ใช้เวลาสั้น ๆ ก็พอ
2. ผ้าไหมและผ้าคอตอน
ไม่ว่าจะเป็นผ้าไหมหรือผ้าที่มีความบอบบางอย่าง ผ้าฝ้ายหรือผ้าคอตอน ผ้าลูกไม้ ก็ไม่ควรอบแห้งด้วยเครื่องอบผ้า เพราะความร้อนจะทำให้เนื้อผ้าเกิดการหดตัว เสื่อมสภาพ หรือมีรูโหว่ อีกทั้งจะทำให้ผ้าไหมยับและรีดยากขึ้น นอกจากนี้หากเป็นผ้าคอตตอน 100% ไม่ควรนำไปอบ แต่หากเป็นผ้าคอตตอนผสมบางชนิดก็อาจจะสามารถนำไปอบได้ ให้สังเกตสัญลักษณ์บนป้ายเสื้อก่อนจะดีกว่า
3. ผ้าขนสัตว์และผ้าไหมพรม
หากเป็นผ้าขนสัตว์อาจทำให้ขนหลุดหรือขนเกิดรอยแตก นอกจากนี้หากเป็นขนสัตว์สังเคราะห์ ก็จะทำให้เส้นใยผ้าละลายและพันกันเป็นก้อน เข้าไปอุดตันตามซอกซอกในเครื่องซักผ้าได้ และหากนำผ้าไหมไปอบ ก็อาจทำให้เสื้อผ้าหดตัว เสียทรง เส้นใยหลุดออกมาจับตัวกันเป็นก่อน ฉะนั้นเสื้อผ้าทั้ง 2 ประเทภนี้เหมาะกับการตากในที่ร่มที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกจะดีกว่า
4. ผ้าที่ใช้กาวในการตกแต่ง
เพราะความร้อนจะทำให้กาวละลาย และทำให้มีคราบกาวเปื้อนเสื้อผ้าและอาจไปทำลายตัวเครื่อง นอกจากนี้ยังทำให้ของตกแต่งเสื้อผ้า เช่น ลูกปัดหลุดออกมารบกวนการทำงานของเครื่องอีกด้วย
5. เสื้อหนัง
ไม่ว่าจะเป็นเสื้อหนังแท้ หนังเทียม หรือหนังกลับ ก็ไม่ควรนไปอบแห้ง เพราะความร้อนจะทำให้ผ้าละลาย หนังแตกเสียหาย เสียรูปทรง จนยากจะซ่อมเซม
6. ผ้าที่มีรอยเปื้อนน้ำมัน
เพราะคราบน้ำมันหากโดนความร้อนจากเครื่องอบผ้า ก็จะทำให้เกิดควัน เสื้อไหม้ และเกิดเปลวไฟ นอกจากจะทำให้เกิดความเสียหายกับเสื้อผ้าชิ้นอื่นแล้ว ยังทำลายชิ้นส่วนของเครื่องอบผ้าอีกด้วย
7. ผ้าที่โฟมหรือยางเป็นส่วนประกอบ
ผ้าที่โฟมหรือยางเป็นส่วนประกอบ เช่น หมอนยางพารา หมอนรองคอที่เป็นไส้โฟมหรือเม็ดโฟม รวมถึงเสื้อผ้าที่มียางยืด เช่น ถุงเท้า ก็ไม่ควรนำเข้าเครื่องอบผ้าเช่นเดียวกัน เพราะอาจทำให้วัสดุเสื่อมสภาพ ละลาย หรือผิดรูปได้ แต่อย่างไรก็ตามของบางชิ้นอาจมีข้อยกเว้น ควรเช็กป้ายปละสัญลักษณ์ก่อนนำเข้าเครื่องอบผ้าก่อนเสมอ
ผ้าแบบไหนเข้าเครื่องอบผ้าได้บ้าง

ยีนส์
หากเป็นผ้ายีนส์หรือเดนิม 100% สามารถนำไปอบได้เลย เพราะผ้าชนิดนี้มีความทนทานอยู่แล้ว สามารถอบได้แม้จะใช้อุณหภูมิสูง แต่ทั้งนี้ควรเช็กป้ายเสื้อหรือกางเกงก่อน เพราะบางตัวก็อาจผสมกับผ้าชนิดอื่นมา เช่น หากเป็นผ้ายีนส์ผสมกับสแปนเด็กซ์ก็ไม่ควรนำไปอบหรืออบด้วยอุณหภูมิต่ำจะดีกว่า
ผ้าผสมโพลีเอสเตอร์
เนื่องจากผ้าชนิดนี้ทนต่อความร้อน ไม่ยืดหรือหดง่าย และแห้งไว สามารถนำเข้าเครื่องอบผ้าได้ แต่ต้องเลือกอุณหภูมิต่ำหรืออุณหภูมิให้เหมาะสม และใช้เวลาสั้น ๆ ก็พอ
เครื่องนอน
เครื่องนอนต่าง ๆ เช่น ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน รวมไปถึงผ้าห่มบางชนิด สามารถนำเข้าเครื่องอบได้ เพราะส่วนใหญ่แล้วจะทอด้วยเส้นใยที่หนาและละเอียด ทนความร้อนได้ดี และไม่หดตัวง่าย ๆ
การใช้เครื่องอบผ้าให้ถูกวิธี นอกจากจะช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่อง และไม่ทำลายเสื้อผ้าแล้ว ยังทำให้ผ้าที่ผ่านการอบแห้ง สะอาด มีกลิ่นหอมติดผ้า ไม่เหม็นอับ และป้องกันไม่ให้สีของเสื้อผ้าซีดจางอีกด้วย