รู้หรือไม่ ! กลิ่นอับบนเสื้อผ้าอาจไม่ได้เป็นเพราะซักไม่สะอาด แต่บางครั้งก็เกิดจากเครื่องซักผ้าสกปรกนี่แหละ มีจุดไหนที่ต้องระวังเป็นพิเศษบ้างไปดูกัน

อยากซักเสื้อผ้าให้มีกลิ่นหอมติดทนนาน อย่ามองข้ามความสะอาดของเครื่องซักผ้า เพราะบางครั้งกลิ่นอับบนเสื้อผ้าของเราก็ติดมาจากเครื่องซักผ้าที่มีสิ่งสกปรกสะสมนี่แหละ โดยเฉาพะจุดต่าง ๆ เหล่านี้ที่เรานำมาฝาก รวมถึงควรหมั่นทำความสะอาดเพื่อให้มั่นใจว่าสะอาดทั้งตัวเครื่องและเสื้อผ้าที่เราเอาไปซัก !
กลิ่นอับในเครื่องซักผ้ามาจากไหน
กลิ่นอับในเครื่องซักผ้านอกจากจะเกิดจากคราบน้ำยาซักผ้า ผงซักฟอก หรือน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ตกค้างอยู่ในตัวเครื่องแล้ว ยังเกิดจากคราบสิ่งสกปรกจากเสื้อผ้า เส้นผม หรืออื่น ๆ ที่เข้าไปสะสมอยู่ด้านใน โดยเฉพาะเครื่องซักผ้าฝาหน้าควรระวังเป็นพิเศษ เพราะบริเวณยางปะเก็น หรือยางกันน้ำรั่วตรงประตู หากไม่หมั่นทำความสะอาดหรือมีความชื้นสะสมบ่อย ๆ ก็จะทำให้มีเชื้อราตามมาด้วย อีกหนึ่งสาเหตุก็คือโดยปกติแล้วเครื่องซักผ้าฝาหน้าจะถูกออกแบบมาให้ใช้น้ำน้อยกว่าเครื่องซักผ้าฝาบน ทำให้ปริมาณน้ำในการซักไม่เพียงพอที่จะล้างผงซักฟอกหรือน้ำยาต่าง ๆ ที่อาจจะติดค้างอยู่ในเครื่องออกได้หมด จนทำให้เกิดคราบเหนียวและมีกลิ่นเหม็นตามมา
จุดสะสมสิ่งสกปรกต้นเหตุของกลิ่นอับ

1. กลิ่นเครื่องซักผ้าใหม่
หลังจากร้านส่งเครื่องซักผ้ามาถึงบ้าน ถ้ามีกลิ่นแปลก ๆ หลังจากใช้ครั้งแรกก็ไม่ต้องตกใจ เพราะเป็นกลิ่นจากตัวเครื่องที่เพิ่งซื้อใหม่ ซึ่งกลิ่นนี้จะจางหายไปเองใน 1-2 เดือน หรือจะลองใช้โปรแกรมล้างถังซักเพื่อช่วยกำจัดกลิ่นก็ได้
2. ขอบยางประตูสกปรก
จุดที่หลายคนอาจจะมองข้าม แต่บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งจุดที่มักมีสิ่งสกปรกเข้าไปติดค้างสะสม ฉะนั้นหลังจากซักผ้าเสร็จทุกครั้งควรนำผ้ามาเช็ดบริเวณขอบยางด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้มีคราบสกปรกมาสะสม
3. ปิดฝาเครื่องทันทีหลังซักเสร็จ
เพราะหลังจากซักผ้าเสร็จ ภายในเครื่องยังคงมีความชื้นอยู่ หากปิดฝาเครื่องทันทีก็จะทำให้เกิดกลิ่นอับสะสม ฉะนั้นหลังจากซักผ้าเสร็จทุกครั้งควรเปิดฝาเครื่องทิ้งไว้ก่อนประมาณ 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้ถังซักแห้ง และป้องกันการเกิดกลิ่นอับ
4. มีคราบน้ำยาตกค้าง
โดยเฉพาะตรงช่องใส่น้ำยาซักผ้าหรือผงซักฟอก และช่องใส่น้ำยาปรับผ้านุ่ม ต่อให้น้ำยาเหล่านี้จะมีกลิ่นหอมแค่ไหน แต่หากเกิดเป็นคราบเหนียวเกาะหนึบอยู่ในเครื่องซักผ้านาน ๆ ก็สร้างกลิ่นอับได้ หลังซักผ้าเสร็จอย่าลืมถอดถาดหรือช่องสำหรับใส่น้ำยาออกมาทำความสะอาดคราบสกปรกด้วย
5. ไม่เคยทำความสะอาดฟิลเตอร์ปั๊ม
ฟิลเตอร์ปั๊มหรือไส้กรองเครื่องซักผ้า เป็นอีกหนึ่งจุดที่ควรถอดมาทำความสะอาดอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ไม่อย่างนั้นจะทำให้เครื่องซักผ้าเกิดกลิ่นอับ และระบบระบายน้ำเกิดการติดขัดมีปัญหาได้
วิธีล้างถังซักผ้า กำจัดกลิ่นอับ

1. ใช้น้ำยาซักผ้าหรือผงซักฟอก
หากไม่มีน้ำยาล้างเครื่องซักผ้าหรือหาอุปกรณ์ไม่ได้ สามารถใช้น้ำยาซักผ้าหรือผงซักฟอกล้างเครื่องซักผ้าแทนได้ โดยเติมลงไปในช่องใส่น้ำยาซักผ้า แล้วเลือกโปรแกรมล้างถังซัก หรือใช้โปรแกรมซักผ้าตามปกติ ก็ช่วยกำจัดคราบสกปรกตกค้างในเครื่องได้แล้ว
2. น้ำส้มสายชู
เทน้ำส้มสายชูลงไปในถังซักประมาณ 2 ฝา เลือกระดับน้ำสูงสุด แล้วกดโปรแกรมซักผ้าตามปกติ เมื่อระบบเติมน้ำเข้ามาในถังซักจนอยู่ในระดับสูงสูดให้กดหยุด แล้วแช่ทิ้งไว้ประมาณ 1 ขั่วโมง หลังจากนั้นค่อยปล่อยน้ำทิ้งแล้วล้างถังซักหรือซักแบบถังเปล่า ๆ ด้วยโปรแกรมซักตามปกติ
3. เบกกิ้งโซดา
เติมเบกกิ้งโซดาลงไปในถังซักประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ หรือผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำส้มสายชู เทลงไปในถังซักโดยตรง เลือกระดับน้ำสูงสุดหรือระดับน้ำเต็มถัง จากนั้นก็แช่ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วค่อยล้างถังซักให้สะอาด
4. น้ำยาล้างถังซัก
เทน้ำยาล้างเครื่องซักผ้าลงในถังซักโดยตรง จะเป็นแบบผงหรือแบบน้ำยาก็ได้ จากนั้นเลือกระดับน้ำสูงสุดแล้วแช่ทิ้งไว้ตามที่เขียนระบุไว้ในฉลากสินค้า หรือใช้โปรแกรมล้างถังซักก็ได้
หลังจากใช้งานเครื่องซักผ้าแล้วก็อย่าลืมทำความสะอาดตามจุดต่าง ๆ ด้วยนะคะ โดยเฉพาะบริเวณช่องใส่น้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม ยางปะเก็นหรือยางกันน้ำซึมตรงฝาเปิด-ปิดตัวถัง รวมถึงฟิลเตอร์ปั๊ม เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกตกค้างและทำให้เครื่องซักผ้าสะอาดไม่มีกลิ่นอับในถังซักจนไปติดเสื้อผ้า