บุปผาราชินี พรรณไม้ทรงคุณค่าแห่งความงดงามและสิริมงคล ที่ได้รับพระราชทานนามจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สะท้อนพระเมตตาและพระปรีชาสามารถด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติของพระองค์
ชวนทุกท่านมาทำความรู้จักกับ “บุปผาราชินี” พรรณไม้ทรงคุณค่าแห่งความงดงามและสิริมงคล ที่ได้รับพระราชทานนามอันเปี่ยมความหมายจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จพระพันปีหลวง พืชชนิดนี้ไม่เพียงสะท้อนความงามตามธรรมชาติ หากยังเป็นสัญลักษณ์แห่งพระเมตตาและพระปรีชาสามารถด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติของพระองค์ ที่ทรงมุ่งมั่นสืบสานและปกปักรักษาความอุดมสมบูรณ์ของผืนแผ่นดินไทยให้คงอยู่อย่างยั่งยืน
บุปผาราชินี คืออะไร
บุปผาราชินี คือชื่อพรรณไม้ที่ได้รับพระราชทานนามอันเป็นสิริมงคลจาก สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อเฉลิมพระเกียรติและสื่อถึงพระอัจฉริยภาพด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของพระองค์
ชื่อ “บุปผาราชินี” จึงหมายถึง “ดอกไม้แห่งราชินี” สื่อถึงความอ่อนโยน งดงาม และทรงคุณค่า เปรียบเสมือนพระจริยวัตรและพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงอุทิศพระวรกายเพื่อปกปักรักษาธรรมชาติของแผ่นดินไทย
บุปผาราชินี มีกี่ประเภท
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอย่างใหญ่หลวง ต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ป่าไม้ รวมถึงการอนุรักษ์และฟื้นฟูพืชพรรณไม้ ดอกไม้ และกล้วยไม้ใกล้สูญพันธุ์ไว้เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ บุปผาราชินี แบ่งพรรณไม้ออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
ประเภทที่ 1 ดอกไม้พระนามาภิไธย
ดอกไม้ที่สถาบันหรือองค์กรในต่างประเทศขอพระราชทานพระราชานุญาตอัญเชิญพระนามาภิไธย “สิริกิติ์” ไปตั้งเป็นชื่อพรรณไม้ เพื่อเทิดพระเกียรติและสดุดีพระวิริยอุตสาหะในการอนุรักษ์ธรรมชาติ เช่น กล้วยไม้ “สิริกิติ์ ออร์คิด” ที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ได้แก่
กุหลาบควีนสิริกิติ์
ดอกกุหลาบสีเหลืองทองขนาดใหญ่ระเรื่อปลายกลีบด้วยสีส้มแดง ยามต้องแสงแดดยิ่งเปล่งประกายงดงาม มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ อันเป็นเอกลักษณ์ ถูกนำออกเผยแพร่ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2511 และได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวดกุหลาบที่กรุงเบลฟาสต์ ประเทศไอร์แลนด์ ต่อมาในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2514 นายอ็องเดร อ็องดริกซ์ (André Hendricx) ผู้ปรับปรุงพันธุ์กุหลาบ ได้ขอพระราชทานพระราชานุญาตเชิญพระนามาภิไธย “สิริกิติ์” เป็นชื่อของกุหลาบพันธุ์นี้ เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในคราวที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จประพาสประเทศเดนมาร์ก
กล้วยไม้แคทลียาควีนสิริกิติ์
กล้วยไม้ลูกผสมตระกูลคัทลียา ที่มีดอกสีขาวนวลแต่งแต้มด้วยสีเหลืองทองตรงกลางอย่างงดงาม โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์อ่อนช้อยและสง่างามจนได้รับรางวัลยอดเยี่ยมจาก The Royal Horticultural Society ประเทศอังกฤษ กล้วยไม้พันธุ์นี้ได้รับการตั้งชื่อว่า “แคทลียา ควีนสิริกิติ์” โดยบริษัทแบล็กแอนด์ฟลอรี (Black & Flory) บริษัทผู้เพาะพันธุ์กล้วยไม้เก่าแก่ของอังกฤษ ซึ่งได้ขอพระราชทานพระราชานุญาตเชิญพระนามาภิไธย “สิริกิติ์” เป็นชื่อกล้วยไม้ และจดทะเบียนเมื่อปี พ.ศ. 2501 ภายหลัง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้พระราชทาน “แคทลียา ควีนสิริกิติ์” ให้เป็นดอกไม้ประจำวันสตรีไทย เพื่อสื่อถึงความงดงาม อ่อนโยน และสง่างามของหญิงไทย
ดอนญ่าควีนสิริกิติ์
ไม้พุ่มประดับดอกเล็กทรงรูปดาวสีเหลืองสด ออกเป็นช่อสวยที่ปลายกิ่ง โดดเด่นด้วยกลีบรองสีชมพูอ่อนตัดขอบชมพูเข้มเกือบแดง เป็นพันธุ์ลูกผสมที่มหาวิทยาลัยฟิลิปปินส์พัฒนาขึ้นในปี พ.ศ. 2506 เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จเยือนประเทศฟิลิปปินส์อย่างเป็นทางการ ทางมหาวิทยาลัยได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเชิญพระนามาภิไธย “สิริกิติ์” ตั้งเป็นชื่อของดอกดอนญ่าลูกผสมพันธุ์ใหม่นี้ เพื่อเป็นเกียรติสูงสุดและเฉลิมพระเกียรติแด่สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง
บัวควีนสิริกิติ์
บัวลูกผสมพันธุ์นี้ เกิดจากการผสมระหว่างบัวสายเขตอบอุ่นจากสหรัฐอเมริกาและบัวสายเขตร้อนของไทย มีลักษณะโดดเด่นด้วยกลีบดอกสองสี ปลายกลีบสีม่วง ไล่เฉดสู่โคนกลีบสีขาว ส่วนกลีบเลี้ยงมีสีขาวอมเขียว สีม่วงของบัวพันธุ์ใหม่นี้นับเป็น “สีใหม่” ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในบัวเขตอบอุ่น ด้วยความงามแปลกตาและลักษณะเฉพาะ สมาคมพฤกษศาสตร์ในพระบรมราชินูปถัมภ์จึงกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระราชานุญาตเชิญพระนามาภิไธย “สิริกิติ์” ตั้งเป็นชื่อบัวลูกผสมพันธุ์นี้ เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2555 เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา
มหาพรหมราชินี
ดอกไม้หอมชนิดนี้ถูกค้นพบโดย ดร.ปิยะ เฉลิมกลิ่น มีลักษณะเป็นดอกเดี่ยว มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ กลีบชั้นนอกสีขาว ส่วนกลีบชั้นในมีสีม่วงแดงสวยสะดุดตา พบขึ้นตามบริเวณยอดเขาสูงในเขตอำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ด้วยความงดงามและความหายากของพันธุ์ไม้ชนิดนี้ จึงได้รับพระราชทานพระราชานุญาตให้เชิญพระนามาภิไธยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ไปตั้งเป็นชื่อดอกไม้ เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2547
โมกราชินี (โมกสิริกิติ์)
พรรณไม้ชนิดใหม่นี้อยู่ในสกุลโมกมัน มีดอกสีขาวหรือขาวปนเขียวอ่อน ออกเป็นช่อเล็ก ๆ มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ น่ารื่นรมย์ ถือเป็นพรรณไม้ชนิดใหม่ของโลกที่ถูกค้นพบโดย ศาสตราจารย์ ดร.ธวัชชัย สันติสุข บริเวณภูเขาหินปูนในจังหวัดสระบุรี ด้วยความงดงามและคุณค่าทางธรรมชาติ จึงได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานพระราชานุญาตเชิญพระนามาภิไธย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตั้งเป็นชื่อพรรณไม้ เพื่อเทิดพระเกียรติในปี 2544
ประเภทที่ 2 ดอกไม้นามพระราชทาน
ดอกไม้ที่สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงทรงพระราชทานชื่อด้วยพระองค์เอง จากการทอดพระเนตรเห็นความงดงามของพืชพรรณในแต่ละท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์ไม้ป่าขนาดเล็กหรือไม้หายาก พระองค์ทรงโปรดให้ตั้งชื่อใหม่เพื่อเพิ่มคุณค่าและความสำคัญของพรรณไม้เหล่านั้นให้เป็นสมบัติอันล้ำค่าของแผ่นดินไทย ได้แก่
ดุสิตา
พืชล้มลุกขนาดเล็กชนิดนี้ มีชื่อเรียกแตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น เช่น หญ้าข้าวก่ำน้อย หญ้าเข็ม หรือดอกขมิ้น มักพบขึ้นตามพื้นที่โล่งที่มีความชุ่มชื้น โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ลักษณะเด่นคือดอกช่อสีม่วงเข้มสวยงาม และมีใบที่พัฒนาเป็นถุงเล็ก ๆ สำหรับดักจับแมลงขนาดจิ๋ว เป็นพืชที่มักออกดอกในช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคม เพิ่มสีสันให้ผืนดินในฤดูหนาวอย่างงดงามตามธรรมชาติ
มณีเทวา
พืชล้มลุกชนิดนี้มีชื่อเรียกหลากหลายตามแต่ละท้องถิ่น เช่น กระดุมเงิน หญ้าตุ้มหู หรือหญ้าผมหงอก ลักษณะเด่นคือดอกทรงกลมสีขาวเล็ก ๆ ออกเป็นช่อ ดูคล้ายกระดุมเล็ก ๆ มักพบขึ้นทั่วไปในพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย โดยจะออกดอกสวยงามในช่วงเดือนตุลาคมถึงกุมภาพันธ์ เติมความสดใสให้ธรรมชาติยามปลายปี
สร้อยสุวรรณา
พืชล้มลุกขนาดเล็กชนิดนี้ มีชื่อเรียกทั่วไปว่า เหลืองพิศมร หญ้าสีทอง หรือสาหร่ายดอกเหลือง เป็นพืชกินแมลงที่มีดอกสีเหลืองสดใส ออกเป็นช่อเล็ก ๆ งดงามสะพรั่งในช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคม มักพบตามพื้นที่โล่งที่มีความชุ่มชื้น โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทย ถือเป็นอีกหนึ่งพรรณไม้ป่าที่เพิ่มสีสันให้ธรรมชาติยามปลายปีอย่างน่าชม
ทิพเกสร
พืชล้มลุกขนาดเล็กที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อ “หญ้าฝอยเล็ก” มีดอกสีม่วงอ่อนปนชมพู ดูบอบบางแต่งดงาม ออกดอกติดต่อกันยาวนานตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงธันวาคม มักพบขึ้นตามพื้นที่โล่งหรือทุ่งหญ้าที่มีความชุ่มชื้น โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทย เป็นอีกหนึ่งพรรณไม้ป่าที่แต่งแต้มสีสันให้ธรรมชาติในฤดูปลายฝนต้นหนาว
สรัสจันทร
พืชล้มลุกขนาดเล็กชนิดนี้ มีชื่อเรียกแตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น เช่น หญ้าแลไข่กา จำปีบะ ดอกดิน กล้วยเล็บมือนาง หรือหญ้านกเขา ลักษณะเด่นคือดอกสีชมพูถึงม่วงอ่อนอมฟ้า ปลายกลีบแต่งแต้มด้วยสีเหลืองหรือครีมอย่างอ่อนโยน มักพบขึ้นตามทุ่งหญ้าเปิด ริมหนองน้ำ หรือพื้นที่ชุ่มน้ำทั่วไป โดยจะออกดอกในช่วงเดือนกันยายนถึงธันวาคม เติมความงามให้ธรรมชาติในฤดูปลายฝนต้นหนาวอย่างน่าชื่นชม
นิมมานรดี
กล้วยไม้อิงอาศัยชนิดนี้มีดอกขนาดเล็กสีขาว งดงามด้วยเส้นลายตามยาวสีแดงเข้มบนกลีบดอก ส่วนกลีบปากมีพื้นสีเหลืองสดและแต้มสีแดงเข้มที่โคนกลีบอย่างโดดเด่น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้พระราชทานนามว่า “นิมมานนรดี” เมื่อครั้งเสด็จทอดพระเนตรพรรณไม้ ณ บริเวณโคกนกกะบา เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง จังหวัดเลย ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2534 เพื่อเป็นเกียรติแก่พรรณไม้ป่าที่มีความงามอ่อนช้อยและหายากชนิดนี้
ประเภทที่ 3 ดอกไม้ทรงโปรด
พรรณไม้และดอกไม้ที่ทรงโปรดเป็นพิเศษ มักมีความงดงามอ่อนช้อย หรือมีคุณประโยชน์ต่อระบบนิเวศ เช่น กล้วยไม้ไทยหรือพันธุ์ไม้พื้นถิ่นที่ทรงโปรดปลูกไว้ในสวนต่าง ๆ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ ได้แก่
สัตตบงกช
ดอกไม้ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงโปรด คือ บัวหลวงพันธุ์ดอกสีชมพูซ้อน ซึ่งมีลักษณะดอกตูมรูปทรงป้อมกว่าบัวหลวงทั่วไป งดงามอ่อนช้อยและเปี่ยมด้วยความหมายมงคล บัวหลวงเป็นพันธุ์ไม้ที่คนไทยคุ้นเคยกันดี นิยมใช้ในพิธีกรรมทางศาสนา อีกทั้งทุกส่วนของต้นบัวยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ ไม่ว่าจะเป็นราก ใบ กลีบดอก เมล็ด หรือเกสร โดยบัวหลวงทั้งสองสีที่ทรงโปรดนั้น ถือเป็นพันธุ์พื้นถิ่นที่พบได้เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น
บุปผาราชินี คือพรรณไม้ทรงคุณค่าที่เปี่ยมด้วยความงดงามและความหมายลึกซึ้ง สะท้อนพระอัจฉริยภาพและพระเมตตาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงปกปักรักษาและส่งต่อความงามแห่งธรรมชาติให้คงอยู่คู่ผืนแผ่นดินไทย
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
บทความ ดอกไม้สวย ไม้ดอก อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : เฟซบุ๊ก สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 (พิษณุโลก), เฟซบุ๊ก สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์






