เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาสินเชื่อเพื่อกู้ซื้อบ้านสักหลัง การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนขอสินเชื่อเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม สินเชื่อบ้านบัวหลวง ของธนาคารกรุงเทพ คืออีกหนึ่งสินเชื่อที่หลายคนให้ความสนใจ ดังนั้นวันนี้กระปุกดอทคอมจึงขอนำข้อมูลในการเตรียมตัวเพื่อขอสินเชื่อบ้านบัวหลวงจากเว็บไซต์จากธนาคารกรุงเทพมาฝากกัน อยากรู้ข้อมูลดี ๆ เพื่อเตรียมตัวขอสินเชื่อบ้าน ไปอ่านกันเลยจ้า ..
รู้ไว้ก่อนขอสินเชื่อ
1. สินเชื่อบ้านบัวหลวงคืออะไร
สินเชื่อบ้านบัวหลวงคือ สินเชื่อที่ธนาคารกรุงเทพให้ลูกค้ากู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย ได้แก่ บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ คอนโดมิเนียม รวมไปถึงที่ดินเปล่า หรือเพื่อปลูกสร้างที่อยู่อาศัย รวมทั้งเพื่อรีไฟแนนซ์สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยจากสถาบันการเงินอื่น
2. ธนาคารจะให้กู้จำนวนเท่าไรของราคาหลักทรัพย์ที่ประเมินได้
ถ้าเป็นการกู้เพื่อซื้อบ้านพร้อมที่ดิน ทาวน์เฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ คอนโดมิเนียม หรือเพื่อปลูกสร้างที่อยู่อาศัย โดยทั่วไปธนาคารจะพิจารณาวงเงินกู้ประมาณร้อยละ 80 ของราคาประเมิน
3. ธนาคารกรุงเทพมีทางเลือกวิธีการผ่อนชำระคืนสินเชื่อหรือไม่
ธนาคารกรุงเทพมีข้อเสนอการผ่อนชำระรายเดือน 2 ทางเลือก คือ
1. ผ่อนชำระรายเดือนแบบคงที่ คือ ผู้กู้จะผ่อนชำระคืนเป็นจำนวนเท่าๆกันในแต่ละเดือนตลอดเวลาของสัญญากู้
2. ผ่อนชำระรายเดือนแบบขั้นบันไดลอยตัว คือ ผู้กู้จะชำระยอดผ่อนสินเชื่อรายเดือนน้อย ตามอัตราดอกเบี้ยต่ำและคงที่ในช่วงแรกของสัญญากู้ และยอดผ่อนชำระจะสูงขึ้นเล็กน้อยในช่วงอัตราดอกเบี้ยลอยตัว ทางเลือกนี้สำหรับผู้ที่เลือกอัตราดอกเบี้ยทางเลือกที่ 1 และ 2 เท่านั้น
4. จะติดต่อขอกู้ได้ที่ไหน
ทุกสาขาของธนาคารกรุงเทพ ที่ท่านสะดวก (สาขาใกล้บ้าน)
5. ขอทราบขั้นตอนการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อของธนาคาร และระยะเวลาในการพิจารณา
เมื่อลูกค้ายื่นเรื่องขอสินเชื่อที่สาขาของธนาคาร พร้อมแนบเอกสารประกอบการขอสินเชื่ออย่างครบถ้วน สาขาจะพิจารณาส่งใบคำขอไปที่ศูนย์สินเชื่ออุปโภคบริโภค และส่งเอกสารทั้งหมดไปที่ส่วนหลักประกัน ส่วนหลักประกันจะนัดวันประเมิน และส่งผลกลับมาที่ศูนย์สินเชื่ออุปโภคบริโภค และทางศูนย์ฯ จะพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ หลังจากนั้นทางสาขาจะแจ้งผลการพิจารณาให้ทราบ
6. ธนาคารมีหลักเกณฑ์ในการประเมินราคาอย่างไร ใช้ราคาประเมินตามกรมที่ดินหรือไม่
หลักเกณฑ์ในการประเมินราคา ขึ้นอยู่กับราคาประเมินกรมที่ดิน ราคาตลาด ราคาซื้อง่ายขายคล่อง
7. หากเป็นการขอสินเชื่อเพื่อปลูกสร้างที่อยู่อาศัยบนที่ดินจัดสรร หรือที่ดินของตัวเอง ธนาคารจะพิจารณาการให้ สินเชื่ออย่างไร และผู้ขอกู้จะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง
กรณีปลูกสร้างที่อยู่อาศัยบนที่ดินของตนเองหรือบนที่ดินจัดสรร ธนาคารจะพิจารณาให้วงเงินสินเชื่อ ได้ไม่เกินร้อยละ 80 ของราคาประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ผู้กู้ต้องจัดเตรียมเอกสารประกอบการขอสินเชื่อ เช่น แบบแปลนบ้าน (พิมพ์เขียว) ใบอนุญาตปลูกสร้าง สัญญาว่าจ้างระบุงวดงาน
8. การดำเนินการตั้งแต่ยื่นคำขอกู้จนถึงอนุมัติสินเชื่อ ต้องใช้เวลานานเท่าใด
การดำเนินการตั้งแต่ยื่นคำขอกู้จนถึงอนุมัติสินเชื่อปกติจะใช้เวลาประมาณ 14 วันทำการ
เงื่อนไขการขอสินเชื่อ
1. ธนาคารมีหลักเกณฑ์อย่างไรในการพิจารณาวงเงินกู้
หลักเกณฑ์การพิจารณาวงเงินกู้ ธนาคารจะพิจารณาจากวัตถุประสงค์ในการกู้ตามลักษณะที่อยู่อาศัย และความสามารถในการผ่อนชำระคืน โดยพิจารณาจากอาชีพ รายได้ และจากมูลค่าหลักประกัน เช่น
ลักษณะที่อยู่อาศัย กู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย เช่น ที่ดินเปล่า ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างได้แก่บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ คอนโดมิเนียม หรือเพื่อปลูกสร้าง หรือ Refinance ที่อยู่อาศัย
คุณสมบัติผู้กู้ เป็นบุคคลธรรมดามีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป มีรายได้ประจำ หรือประกอบธุรกิจส่วนตัวต้องแสดงรายได้จากธุรกิจที่ชัดเจน
ไม่มีประวัติเสียหายด้านการเงิน
วงเงินกู้สูงสุดไม่เกินร้อยละ 80 ของราคาประเมินหลักทรัพย์
ระยะเวลาผ่อนชำระต่ำสุด 5 ปี สูงสุด 30 ปี ทั้งนี้อายุของผู้กู้รวมระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 65 ปี
2. หากมีรายได้ประจำที่ไม่เพียงพอในการผ่อนชำระสินเชื่อ จะขอกู้สินเชื่อเพื่อซื้อบ้านได้หรือไม่
ได้ หากท่านมีผู้กู้ร่วมที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์การพิจารณาอนุมัติสินเชื่อของธนาคาร
3. ต้องเสียค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการขอสินเชื่อหรือไม่ จำนวนเท่าใด
ค่าใช้จ่ายที่ท่านต้องเตรียมมีดังต่อไปนี้
ค่าประเมินราคาหลักทรัพย์ 2,500 บาท (ชำระ ณ วันที่ยื่นคำขอกู้)
ค่าปรับกรณีไถ่ถอนจำนองไปใช้บริการกับสถาบันการเงินอื่นก่อน 3 ปี คิดอัตราร้อยละ 3 ของวงเงินกู้
ค่ากรมธรรม์ประกันอัคคีภัย
ค่ากรมธรรม์คุ้มครองเครดิตโฮมเฟิสต์ (ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้กู้)
4. ต้องการซื้อบ้านแต่ไม่มีโฉนดที่ดินมีแต่เอกสารสิทธิประเภทอื่นๆ เช่น น.ส.3 สามารถขอกู้กับธนาคารได้หรือไม่
ได้ หากเอกสารสิทธินั้นแสดงถึงความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในหลักทรัพย์ที่ใช้ค้ำประกันสินเชื่อ และ น.ส. 3 ถือเป็นเอกสารสิทธิ์ประเภทหนึ่ง
การขอกู้ร่วม
1. มีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาการกู้ร่วมอย่างไร
การกู้ร่วมนั้นผู้กู้ร่วมต้องมีความสัมพันธ์กับผู้ขอกู้เช่น เป็นสามีภรรยา พี่น้องท้องเดียวกัน หรือบิดามารดากู้ร่วมกับบุตร ธนาคารไม่จำกัดจำนวนผู้กู้ร่วม และควรให้ผู้กู้ร่วมถือกรรมสิทธิ์ในหลักทรัพย์ร่วมกันทุกคน
2. กรณีที่ดินที่ถือครองมีผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมกัน 3 คน แต่มีเพียงบุคคลเดียวที่ต้องการขอกู้เงินกับธนาคาร เพื่อสร้างบ้านบนที่ดินแปลงดังกล่าว และต้องการที่จะขอกู้และมีกรรมสิทธิ์เพียงผู้เดียวทำได้หรือไม่ ถ้าได้จะต้องทำอย่างไรบ้าง
ทำได้โดยโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างให้เป็นของผู้กู้คนเดียวก่อน แล้วจึงขอกู้ภายหลัง
3. กู้ร่วมกับแฟนที่ยังไม่ได้แต่งงานหรือแต่งงานแล้วแต่ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสได้หรือไม่
กรณีเป็นแฟนยังไม่แต่งงานกันไม่สามารถกู้ร่วมได้ ส่วนในกรณีที่แต่งงานแล้วแต่ยังไม่ได้จดทะเบียนสามารถกู้ได้โดยแสดงหลักฐานอื่นๆ เช่นถ้ามีบุตรให้แสดงใบเกิดที่ระบุชื่อพ่อแม่ หรือทะเบียนบ้านที่แสดงว่าปัจจุบันอยู่ด้วยกัน
อัตราดอกเบี้ย
1. อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยมีกี่ประเภท
ปัจจุบันธนาคารส่วนใหญ่มีข้อเสนออัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแบ่งออกเป็น 2 ช่วงเวลา คือ
1. อัตราดอกเบี้ยช่วง Teaser หมายถึง อัตราดอกเบี้ยพิเศษที่เสนอให้ในช่วงระยะเวลาหนึ่งประมาณ 1-3 ปี ซึ่งอาจจะเสนอในรูปของอัตราดอกเบี้ยคงที่ หรืออัตราดอกเบี้ยที่อิงอัตราลอยตัว
2. อัตราดอกเบี้ยหลังจากช่วง Teaser โดยปกติธนาคารส่วนใหญ่จะกำหนดตามอัตราดอกเบี้ยลอยตัวเท่ากับอัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้าชั้นดีหรือ MLR (Minimum Loan Rate) ซึ่งแต่ละธนาคารอาจจะกำหนดไว้แตกต่างกัน อัตราดอกเบี้ยลอยตัวนี้จะเปลี่ยนแปลงไปตามสภาวะเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมทางการเงิน เช่น สภาพคล่องในระบบการเงิน ต้นทุนทางการเงินของแต่ละธนาคาร และภาวะการแข่งขันในตลาด
ปัจจุบันทางเลือกอัตราดอกเบี้ยของธนาคาร แบ่งตามระดับวงเงินกู้อนุมัติเป็น 4 ระดับคือ
สำหรับลูกค้าที่สมัครทำประกันคุ้มครองเครดิตโฮมเฟิสต์เต็มวงเงินและระยะเวลาอย่างน้อย 10 ปีหรือเท่ากับระยะเวลาในสัญญากู้ จะได้รับสิทธิพิเศษ อัตราดอกเบี้ยปีแรกลดลงอีก 0.25% ต่อปี จากอัตราดอกเบี้ยปกติ
อัตราดอกเบี้ยนี้สำหรับผู้ที่ยื่นคำขอสินเชื่อพร้อมเอกสารครบถ้วนภายในวันที่ 1 กรกฎาคม 2555 จนถึง
(ก) วันที่ 30 กันยายน 2555 หรือ (ข) วันที่ธนาคารประกาศเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ธนาคารประกาศใช้ แล้วแต่เหตุการณ์ใดจะเกิดขึ้นก่อน ทั้งนี้ ผู้กู้จะต้องลงนามในสัญญากู้เงินกับธนาคารภายใน 1 เดือน นับแต่วันที่มีการอนุมัติสินเชื่อ และจดทะเบียนจำนองพร้อมเบิกเงินกู้งวดแรก หรือทั้งหมด ภายใน 2 เดือนนับแต่วันที่ลงนามในสัญญา
2. การเลือกอัตราดอกเบี้ย ควรพิจารณาเลือกอย่างไร
อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำที่สุดอาจจะไม่ใช่ทางเลือกดีที่สุดเสมอไป เพราะหลังสิ้นสุดช่วงอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ อัตราดอกเบี้ยจะปรับเป็นอิงตามอัตราดอกเบี้ยลอยตัว MLR ซึ่งเมื่ออัตราดอกเบี้ย MLR ปรับขึ้นลงตามสภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง ท่านจะสามารถเปรียบเทียบได้ชัดระหว่างอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันกับหลังสิ้นสุดช่วงอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่
หากอัตราดอกเบี้ยคงที่ตลอดระยะเวลาการกู้ ก็จะไม่มีความแตกต่างอะไร แต่หากท่านเชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มที่จะปรับสูงขึ้น ท่านควรเลือกทางเลือกที่เสนอช่วงอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ที่ยาวนานกว่า ซึ่งถึงแม้อัตราดอกเบี้ยอาจจะปรับสูงขึ้นเพียงเล็กน้อย ทางเลือกนี้ก็อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ในทางตรงกันข้าม หากท่านเชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มที่จะปรับลดลงในระยะเวลาอันใกล้ ท่านควรเลือกทางเลือกที่เสนอช่วงอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ที่สั้นกว่า
การชำระเงินกู้
1. อยากทราบว่าจะสามารถชำระเงินค่างวดรายเดือนสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยกับธนาคารได้กี่วิธี
ลูกค้าสามารถชำระเงินกู้ได้หลายวิธี โดยวิธีที่สะดวกที่สุดคือการชำระสินเชื่อโดยการหักจากบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ Auto Debit โดยที่ลูกค้าสามารถกำหนดวันชำระเงินได้เอง นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถชำระ สินเชื่อรายเดือนได้ที่ธนาคารกรุงเทพทุกสาขารวมทั้งสาขาไมโคร
2. ในกรณีทำข้อตกลงให้หักบัญชีจากธนาคาร Auto Debit เมื่อถึงวันครบกำหนดชำระ หากลืมนำเงินเข้าบัญชีก่อนครบกำหนด จะแก้ไขอย่างไรได้บ้างเพื่อไม่ให้เป็นการชำระผิดนัด
ควรนำเงินเข้าบัญชีในวันถัดไป และควรโทรแจ้งสาขาที่ท่านใช้บริการสินเชื่ออยู่
3. หากจะขอเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขต่างๆในสัญญาเงินกู้ เช่นการขอขยายเวลาการผ่อนชำระสินเชื่อหรือการเปลี่ยนแปลงผู้ขอกู้ จะต้องดำเนินการอย่างไร
กรณีขอขยายเวลาการผ่อนชำระขึ้นอยู่กับการพิจารณาของธนาคารตามสถานะของลูกหนี้แต่ละรายในกรณีที่ได้ทำนิติกรรมสัญญากู้ยืมและจำนองเป็นการค้ำประกันสินเชื่อแล้ว ผู้กู้สามารถขยายระยะเวลาการผ่อนชำระได้ โดยติดต่อสาขาเพื่อยื่นคำร้องในกรณีที่ต้องการเปลี่ยนแปลงผู้กู้ จะต้องดำเนินการดังนี้
กรอกคำขอสินเชื่อใหม่ พร้อมยื่นเอกสารประกอบการขอกู้
ต้องเสียค่าใช้จ่ายเช่น ค่าประเมินราคาหลักทรัพย์ (กรณีหลักทรัพย์เดิมประเมินไว้เกิน 1 ปี) เนื่องจากต้องเซ็นสัญญาและจดจำนองใหม่
รีไฟแนนซ์
1. จะขอกู้เพื่อรีไฟแนนซ์เพื่อไถ่ถอนจำนองจากสถาบันการเงินอื่นได้หรือไม่
ขอกู้เพื่อรีไฟแนนซ์สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยจากสถาบันการเงินอื่นได้ ตามปกติธนาคารจะให้กู้เท่ากับยอดเงินกู้คงเหลือตามสัญญากู้เดิมของลูกค้ากับสถาบันการเงินอื่น ทั้งนี้ไม่เกินร้อยละ 80 ของราคาประเมินหลักทรัพย์
2. กรณีการไถ่ถอนจำนองมาจากสถาบันการเงินอื่น (Refinance) ต้องเสียค่าใช้จ่ายหรือไม่ จำนวนเท่าใด
ลูกค้าไถ่ถอนจำนองมาจากสถาบันการเงินอื่นมายื่นกู้กับธนาคารกรุงเทพ จะเสียค่าธรรมเนียมตามปกติของธนาคาร เช่น ค่าประเมินราคาหลักทรัพย์
3. ในกรณีไถ่ถอนจำนองมาจากสถาบันการเงินอื่น จะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง
ลูกค้าต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติม คือ สัญญาเงินกู้ของสถาบันการเงินเดิม ใบเสร็จรับเงินย้อนหลัง 6 เดือนและสัญญาจำนอง
กรณีซื้อทรัพย์สินธนาคาร
1. ถ้าต้องการซื้อทรัพย์สินธนาคารและขอสินเชื่อด้วย ธนาคารมีโปรโมชั่นพิเศษหรือไม่
กรณีซื้อทรัพย์สินธนาคารเพื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารจะให้วงเงินสินเชื่อร้อยละ 90 ของราคาซื้อขาย
อัตราดอกเบี้ยสำหรับการซื้อทรัพย์สินรอการขายของธนาคารเพื่อการอยู่อาศัย มี 3 ทางเลือกดังนี้
นอกจากนั้น ธนาคารยังยกเว้นค่าประเมินราคาหลักทรัพย์ (ปกติคิด 2,500 บาท) และค่าธรรมเนียมการจัดการสินเชื่อให้อีกด้วย
สำหรับลูกค้าที่สมัครทำประกันคุ้มครองเครดิตโฮมเฟิสต์เต็มวงเงินและระยะเวลาอย่างน้อย 10 ปีหรือเท่ากับระยะเวลาในสัญญากู้ จะได้รับสิทธิพิเศษ อัตราดอกเบี้ยปีแรกลดลงอีก 0.25% ต่อปี จากอัตราดอกเบี้ยปกติ
อัตราดอกเบี้ยนี้สำหรับผู้ที่ยื่นคำขอสินเชื่อพร้อมเอกสารครบถ้วนภายในวันที่ 1 กรกฎาคม 2555 จนถึง
(ก) วันที่ 30 กันยายน 2555 หรือ (ข) วันที่ธนาคารประกาศเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ธนาคารประกาศใช้ แล้วแต่เหตุการณ์ใดจะเกิดขึ้นก่อน ทั้งนี้ ผู้กู้จะต้องลงนามในสัญญากู้เงินกับธนาคารภายใน 1 เดือน นับแต่วันที่มีการอนุมัติสินเชื่อ และจดทะเบียนจำนองพร้อมเบิกเงินกู้งวดแรก หรือทั้งหมด ภายใน 2 เดือนนับแต่วันที่ลงนามในสัญญา
คำถามอื่น ๆ
1. ขอรับหนังสือรับรองดอกเบี้ยได้ที่ไหน
ท่านสามารถติดต่อขอรับหนังสือรับรองดอกเบี้ยได้ที่สาขาธนาคารที่ท่านยื่นขอสินเชื่อ
2. ค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนจำนองที่สำนักกรมที่ดินเป็นจำนวนเท่าได ใครเป็นฝ่ายรับผิดชอบค่าใช้จ่าย ธนาคารหรือผู้ขอกู้
ผู้ขอกู้จะต้องรับผิดชอบชำระค่าธรรมเนียมในการจดจำนองที่กรมที่ดิน ในอัตราร้อยละ 1 ของมูลจำนอง
3. หลักฐานอะไรบ้างที่จะต้องเตรียมเพื่อใช้ประกอบการจดทะเบียนจำนอง
การจดทะเบียนลูกค้าต้องเตรียม
บัตรประชาขน
ทะเบียนบ้าน
ทะเบียนสมรส ใบหย่า มรณบัตร
ใบยินยอมคู่สมรสให้ทำนิติกรรม
โฉนดที่ดินตัวจริง
กรณีเปลี่ยนชื่อนามสกุลให้นำหลักฐานการเปลี่ยนแปลงไปด้วย
ทะเบียนบ้าน
ทะเบียนสมรส ใบหย่า มรณบัตร
ใบยินยอมคู่สมรสให้ทำนิติกรรม
โฉนดที่ดินตัวจริง
กรณีเปลี่ยนชื่อนามสกุลให้นำหลักฐานการเปลี่ยนแปลงไปด้วย
4. เอกสารที่ต้องเตรียมมาเวลามาไถ่ถอนมีอะไรบ้าง
บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงพร้อมสำเนา
ทะเบียนบ้าน และใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี)
เลขที่บัญชีเงินกู้ หรือใบเสร็จงวดสุดท้ายถ้าจะไปทำเรื่องที่กรมที่ดินในวันเดียวกับที่มาปิดบัญชี ต้องนำทะเบียนบ้านตัวจริง พร้อมสำเนามาด้วย
ทะเบียนบ้าน และใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี)
เลขที่บัญชีเงินกู้ หรือใบเสร็จงวดสุดท้ายถ้าจะไปทำเรื่องที่กรมที่ดินในวันเดียวกับที่มาปิดบัญชี ต้องนำทะเบียนบ้านตัวจริง พร้อมสำเนามาด้วย
5. การแจ้งการเปลี่ยนที่อยู่ติดต่อจะต้องทำอย่างไรบ้าง
ลูกค้าสามารถยื่นคำร้องแก้ไขเปลี่ยนแปลงที่อยู่ได้ที่ธนาคารกรุงเทพสาขาที่ใช้บริการสินเชื่อ
6. นิติบุคคลสามารถขอกู้เป็นสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือ สินเชื่อบุคคลได้หรือไม่
เนื่องจากสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย “บ้านบัวหลวง” เป็นสินเชื่อเพื่อสนับสนุนการมีบ้านเพื่อการอยู่อาศัยของลูกค้ารายย่อย ดังนั้น นิติบุคคลจึงไม่สามารถขอกู้สินเชื่อบ้านบัวหลวง รวมถึงสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อบุคคลใดๆ แต่จะสามารถขอกู้เป็นสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่อเพื่อ SMEs ซึ่งมีหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการกู้ยืมที่แตกต่างไปจากการขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย
7. กรณีต้องการกู้เงินเพื่อซื้อที่ดินเปล่า มีข้อกำหนดอย่างไร
การขอสินเชื่อเพื่อซื้อที่ดินเปล่า จะต้องเป็นที่ดินที่ซื้อเพื่อปลูกบ้านเท่านั้น และควรอยู่ในทำเลที่เหมาะสม ขนาดของที่ดินต้องไม่เกิน 1 ไร่ และไม่สามารถขอกู้เพื่อซื้อที่ดินซึ่งอยู่ห่างไกลและทิ้งไว้เฉยๆ
8. ต้องการซื้อบ้านจากบุคคลอื่นซึ่งติดจำนองอยู่กับธนาคารอื่น จะขอกู้กับธนาคารกรุงเทพจะต้องทำอย่างไร
ต้องจัดเอกสารประกอบการพิจารณาคือ สัญญาจะซื้อจะขาย สำเนาโฉนดด้านหน้าและหลังที่ระบุชื่อเจ้าของเดิมเพื่อตรวจสอบว่ามีประวัติถูกฟ้องร้องหรือไม่ ส่วนการไถ่ถอนจากธนาคารอื่นเป็นหน้าที่ของผู้ขายที่จะติดต่อกับธนาคารนั้นๆ เอง
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับข้อมูลดี ๆ ที่คุณควรรู้ก่อนขอสินเชื่อบ้านบัวหลวง อีกทั้งยังสามารถนำไปเป็นหลักพื้นฐานในการเตรียมตัวเพื่อขอสินเชื่อบ้านอื่น ๆ ได้อีกด้วย อ่านจบแล้วอย่าลืมเตรียมตัวให้พร้อมก่อนขอสินเชื่อบ้านบัวหลวงกันด้วยนะจ๊ะ จะได้ช่วยลดความกังวลใจของคุณไปได้อีกหน่อย
แบบบ้านสวย ตกแต่งบ้าน สินเชื่อบ้าน ฮวงจุ้ยบ้าน สวนสวยๆ คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่
ขอขอบคุณข้อมูลจาก