x close

5 ทริคดี ๆ จัดการอาหารและทำความสะอาดตู้เย็น

5 ทริคดี ๆ จัดการอาหารและทำความสะอาดตู้เย็น

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          เชื่อว่าต้องมีคุณแม่บ้าน คุณพ่อบ้านที่ชอบซื้อของมาเก็บไว้ในตู้เย็น แล้วลืมทิ้งเอาไว้ พอมาเจออีกทีอาหารก็เปลี่ยนสีซะแทบจำไม่ได้ว่าซื้ออะไรมาเก็บไว้บ้าง บางครั้งก็เผลอเอาของหมดอายุมากินซะอย่างนั้น ใครที่เจอปัญหาแบบนี้ต้องหาวิธีจัดการกับตัวคุณเองและตู้เย็นของคุณกันหน่อยแล้วล่ะ ซึ่งวิธีการจัดการอาหารและทำความสะอาดตู้เย็นนั้นก็ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย เพียงทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เท่านั้น    
 
1. วิธีทำความสะอาด

          หลังจากที่คุณไม่ได้เช็คของในตู้เย็นมานานร่วมสัปดาห์ จนลืมไปแล้วว่าซื้ออะไรเก็บไว้บ้าง ก็ถึงเวลาที่คุณจะต้องรื้อของในตู้เย็นทั้งหมดออกมาแล้วเช็คดูสิว่ามีของอะไรที่หมดอายุหรือเปล่า จากนั้นก็จัดการละลายนำแข็งในช่องแช่แข็งซะ เมื่อน้ำแข็งละลายหมดแล้วก็ใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำ ในอัตราส่วน 50 : 50 เช็ดคราบสกปรกต่าง ๆ ออกให้หมด ส่วนพวกคราบเหนียว ๆ ก็ขัดบริเวณนั้นด้วยเกลือหรือเบกกิ้งโซดาให้เรียบร้อย

2. วิธีจัดของเข้าตู้เย็น

          ทำง่าย ๆ แค่เพียงเลือกชนิดอาหารแล้วจัดแยกเอาไว้เป็นหมวดหมู่ จากนั้นก็ค่อย ๆ เก็บเข้าที่ประจำของมัน เช่น พวกเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ก็ควรใส่เอาไว้ในกล่องที่ปิดมิดชิดแล้วนำไปแช่ไว้ในช่องแช่แข็ง จะทำให้เก็บได้นานขึ้นถึง 2 - 3 สัปดาห์ ส่วนพวกผักสดต่าง ๆ ก็ควรใส่ไว้ในถุงและเจาะรูเพื่อระบายอากาศ  โดยให้เก็บไว้ชั้นล่างสุด เพราะหากเก็บไว้ในชั้นที่มีอุณหภูมิต่ำกว่านี้ ความเย็นจะทำลายแร่ธาตุและวิตามินต่าง ๆ ซึ่งสามารถเก็บไว้ได้ประมาณ 1 - 2 วัน เป็นระยะเวลาที่ดีที่สุดแล้วล่ะ หากคุณซื้อของเข้ามาเพิ่มก็นำของใหม่ใส่ไว้ด้านหลัง แล้วนำของเก่ามาไว้ด้านหน้าจะทำให้คุณเลือกหยิบได้สะดวกกว่า จะได้ไม่หมดอายุไปแบบไม่รู้ตัวอีก

3. อย่าลืมเขียนวันที่บนถุงหรือกล่อง

          ของที่ซื้อมาบางอย่างนั้นไม่ได้ระบุวันหมดอายุไว้ด้วย ฉะนั้นคุณควรเขียนวันที่ซื้อลงไปบนถุงหรือกล่องเก็บอาหารของคุณด้วย โดยเฉพาะพวกเนื้อสัตว์ ผักและผลไม้ เพราะบางครั้งลักษณะภายนอกนั้นอาจจะดูปกติ แต่หากรับประทานเข้าไปก็อาจจะทำให้เกิดอาการท้องไส้ปั่นป่วนได้ ทางที่ดีก็เขียนวันที่กันลืมเอาไว้ก่อนดีกว่า

4. ประหยัดพลังงาน

          อย่างที่คุณรู้ ๆ กันว่าควรจะเลือกตู้เย็นที่มีสัญลักษณ์เบอร์ 5 จะช่วยประหยัดไฟได้มากขึ้น ซึ่งคุณควรจะรู้ต่อไปอีกว่าไม่ควรเก็บของในตู้เย็นจนแน่นเกินไปเพราะ จะทำให้ตู้เย็นทำงานหนักขึ้น และเปลืองไฟมากกว่าเดิม และควรหมั่นสังเกตขอบยางที่ประตูตู้เย็นบ่อย ๆ หากเห็นว่ามีจุดชำรุดเสียหาย ก็ควรจะรีบเปลี่ยนขอบยางใหม่โดยด่วน เพราะหากขอบยางปิดไม่สนิทจะทำให้ความเย็นไหลออกและกินไฟมากขึ้น

5. เคล็ดลับจัดการของสด

          หากคุณอยากจะซื้อผัก ผลไม้ หรือเนื้อสดชิ้นใหญ่ ๆ ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีที่แช่นะคะ เพราะเรามีเคล็ดลับการเก็บของพวกนี้มาฝากกัน โดยที่คุณไม่ต้องจัดพื้นที่ใหม่เลย นั่นก็คือ นำผักและผลไม้ของคุณมาหั่นเป็นลูกเต๋าแล้วเก็บใส่ถุงหรือกล่อง แช่ไว้ในช่องแช่แข็ง เอาไว้จัดใส่จานสวย ๆ เป็นของทานเล่นหรือนำไปทำขนมหวานอย่างพวกผลไม้เชื่อมก็ได้ ส่วนเนื้อสัตว์ก็สไลด์เป็นชิ้นบาง ๆ เรียงเข้ากล่องให้สวยงาม ปิดฝาให้มิดชิดแล้วก็นำเข้าช่องแช่แข็งเช่นกัน แถมยังง่ายสำหรับการรับประทานอีกด้วย


          ทริคจัดของในตู้เย็นที่กระปุกดอทคอมนำมาฝากกันคราวนี้คงลดเวลาทำความสะอาดบ้านของคุณแม่บ้าน คุณพ่อบ้านทั้งหลายไปได้เยอะเลยใช่ไหมคะ เพราะไม่ว่าจะหยิบจะจับอะไรมาทำกับข้าว ก็สะดวกและรวดเร็ว ไม่ต้องเสี่ยงกับการนำของที่หมดอายุมาปรุงอาหารกันอีกแล้ว เพราะตอนนี้คุณมีตู้เย็นที่ทั้งสะอาด ถูกสุขลักษณะ ปลอดภัย และยังช่วยคุณประหยัดพลังงานไว้ในบ้านของคุณด้วยล่ะ



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
5 ทริคดี ๆ จัดการอาหารและทำความสะอาดตู้เย็น อัปเดตล่าสุด 27 กันยายน 2555 เวลา 17:56:38 1,047 อ่าน
TOP