เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
หากพูดเกี่ยวกับการตกแต่งที่มีกลิ่นอายของธรรมชาติแฝงอยู่คนส่วนใหญ่มักจะคิดถึงบ้านสไตล์คันทรี โดยลืมไปว่ายังมีอีกหนึ่งดีไซน์ที่ให้อารมณ์เดียวกันนั่นก็คือ สไตล์คอทเทจ แตกต่างกันตรงที่บ้านสไตล์คอทเทจจะมีการผสมผสานเอาความเรียบง่าย สีสัน และความเป็นธรรมชาติที่ไม่สมบูรณ์พร้อมของวัสดุ อีกทั้งยังแฝงความหวานแบบวินเทจเข้าไปด้วย เพราะฉะนั้นเราเลยนำเทคนิคการตกแต่งในสไตล์คอทเทจมาฝากกัน เพื่อให้คุณมีแนวทางการตกแต่งบ้านแบบใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น
1. ตกแต่งด้วยไม้เนื้อแข็ง
ไม้ จัดได้ว่าเป็นวัสดุหลักที่จะขาดไปไม่ได้เลย สำหรับสไตล์คอทเทจ เพื่อให้เข้าใกล้กับคำว่าธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ซึ่งไม้ที่เลือกมานั้นไม่จำเป็นต้องผ่านการขัดเกลาอย่างดี หรือเรียบเนียนสนิทเหมือนการตกแต่งในแนวอื่น ๆ ทั่วไป อาจจะมีรอยแตกหรือสีของเนื้อไม้ที่ไม่สม่ำเสมอบ้างก็ไม่เป็นไร เพราะเสน่ห์อย่างหนึ่งของการตกแต่งบ้านสไตล์นี้คือความเป็นธรรมชาติของวัสดุตกแต่งนั่นเอง
เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ อย่างเช่น โต๊ะ หรือตู้ ที่จะนำเข้ามาประดับบ้าน ควรเลือกใช้แบบบิวท์อินจะเหมาะสมและตรงกับคอนเซ็ปต์มากกว่า นอกจากนี้ประโยชน์ที่ได้ก็คุ้มค่ามาก ๆ เพราะไม่ใช่แค่ทำให้บ้านนั้นดูสวยงามสะอาดตาเท่านั้น แต่ยังเป็นการประหยัดพื้นที่ใช้สอยไปในตัวด้วย และถ้าจะให้สวยลงตัวมากขึ้น อย่าลืมใช้ไม้เป็นวัสดุหลักในการบิวท์อินนะคะ
เนื่องจากการตกแต่งในสไตล์นี้มีความเป็นวินเทจแฝงอยู่ เพราะฉะนั้นควรจะนำเฟอร์นิเจอร์เก่า ๆ มาตกแต่งเข้าไปด้วย โดยสังเกตจากลักษณะการดีไซน์ภายนอกของแต่ละชิ้น เช่น เก้าอี้ไม้สาน โต๊ะแกะสลัก หรือหน้าต่างที่แต่งด้วยกระจกสีให้ความรู้สึกย้อนยุคไปอีกแบบ นอกจากจะช่วยรีไซเคิลของเก่ามาใช้ใหม่ได้แล้ว ยังมีเสน่ห์แบบคลาสสิกอีกด้วย
สีที่เลือกมาใช้ตกแต่งบ้านสไตล์คอทเทจนั้น ไม่ควรจะเป็นสีสันที่จัดจ้านจนเกินไป เพราะจะทำให้ความเรียบง่ายหายไปทันที สีที่เหมาะสมควรเป็นสีโทนอ่อน เฉดสว่าง อย่างเช่น สีขาว สีครีม เทาอ่อน หรือผสมผสานความสดใสนิด ๆ ได้แก่ สีฟ้า สีชมพู สีเขียว ในเฉดอ่อน ๆ โทนพาสเทลก็ได้ เพื่อเพิ่มความสบายตา และสร้างบรรยากาศที่น่าอยู่มากยิ่งขึ้น
สำหรับคนที่กลัวว่าบรรยากาศของบ้านนั้นจะราบเรียบเกินไปและทำให้รู้สึกไม่น่าอยู่ อาจจะเพิ่มลวดลายหรือสร้างสีสันด้วยของใช้หรือเครื่องประดับที่มีลายดอกเข้าไป ก็เป็นเรื่องที่ดีเหมือนกัน ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความสดใสของบ้านแล้ว ยังมีส่วนในการปรับเปลี่ยนอารมณ์ของผู้อยู่อาศัยให้รู้สึกสงบ สดชื่น แจ่มใสได้ด้วย
สำหรับบ้านเล็กหรือมีพื้นที่น้อยและต้องการจะขยายให้ดูสูงโปร่งมากขึ้น พร้อมกับรักษาคอนเซ็ปต์ไปในเวลาเดียวกัน อาจจะตกแต่งด้วยการเซาะร่องที่ผนัง เพื่อพรางตาให้ดูยาวขึ้น หรืออาจใช้ไม้สีอ่อนมาตกแต่งผนังในแนวตั้ง โดยใช้พื้นที่แค่เพียงครึ่งล่าง ส่วนด้านบนเว้นเอาไว้เป็นพื้นที่ปูนเปลือยเปล่า ๆ หรือทาทับด้วยสีขาว หรือสีอ่อนโทนพาสเทล ก็จะได้ผนังสวย ๆ ที่ช่วยให้ห้องดูโปร่งขึ้นแล้ว
ของหวานที่กำลังพูดถึงนี้ไม่ได้หมายถึงการนำกระปุกหรือขวดโหลใส่ของหวานสีสวย ๆ มาประดับเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงของใช้ต่าง ๆ ภายในบ้านด้วย อย่างเช่น ถ้วยชาม เครื่องใช้ ตะกร้า กล่องเก็บของ หรือแม้แต่กระทั่งราวแขวนต่าง ๆ หากเป็นไปได้ควรจะใช้ของสีสันสดใสและเป็นแนวเดียวกัน ได้แก่ ของเก่าแบบที่มีลวดลายในตัว หรือเพ้นท์รูปแบบย้อนยุคก็ได้ รับรองว่าบ้านแนวคอทเทจของคุณ จะดูหวานโรแมนติกสุด ๆ เลยล่ะ
8. ชั้นวางแบบลอยตัว
ชั้นวางของในห้องครัว ห้องนอน หรือส่วนที่เอาไว้สำหรับตั้งของประดับบ้านในห้องนั่งเล่นนั้นควรเลือกตู้หรือชั้นแบบลอยตัว ดีไซน์ภายนอกอาจจะเพิ่มความหวานเข้าไปหน่อยด้วยไม้แกะสลัก และกรอบตู้ที่มีความโค้งงอสวยงาม ส่วนบริเวณหลังควรเป็นลายทางตรงแบบเดียวกับผนัง และหากเป็นไปได้สีที่ใช้ควรจะเข้มกว่าสีหลักสักหน่อย เพื่อให้ดูโดดเด่นและสะดุดมากยิ่งขึ้น
ภาพจาก Indetail
ในส่วนของหน้าต่างไม่ว่าจะอยู่มุมใดของบ้านก็ตามควรจะเลือกแบบที่ใช้หน้าต่างไม้แบบที่มีบานเกล็ดเปิดรับลม โดยจะเป็นในลักษณะการเปิดแบบเลื่อนซ้ายขวา หรือพับเข้าออกเหมือนหน้าต่างทั่วไปก็ได้ แต่ถ้าหากกลัวว่าในระยะยาวจะผุพังไปเสียก่อน อาจจะใช้กันสาดติดไว้ด้านบนของหน้าต่าง หรือติดตั้งบานเลื่อนแบบกระจก ป้องกันแสงและน้ำฝนจากภายนอกด้วย
10. เติมลุคทันสมัยด้วยโลหะ
เพื่อให้เข้ากับยุคสมัย โดยไม่ต้องการเปลี่ยนสไตล์การตกแต่งบ่อย ๆ อาจจะเลือกของใช้ที่เป็นโลหะอย่างเช่น ทองเหลือง ทองแดง เป็นวัสดุหรือมีส่วนประกอบของโลหะเล็ก ๆ น้อย ๆ เติมเข้าไปในบางส่วน อย่างเช่น อ่างล้างหน้า ก๊อกน้ำ โต๊ะ หรือเก้าอี้ ซึ่งส่วนต่าง ๆ ที่กล่าวมานี้ไม่เพียงแต่จะทำให้บ้านสวยงามเท่านั้น แต่ยังสร้างเอกลักษณ์และแอบแฝงความหรูหราไปพร้อมกันด้วย
นอกจากจะได้บ้านตรงตามคอนเซ็ปต์ในสไตล์ที่ต้องการแบบคอทเทจแล้ว การตกแต่งบ้านแนวนี้จะช่วยทำให้บ้านเป็นบ้านที่อบอุ่น อยู่สบาย และเหมาะสมสำหรับวันพักผ่อนมากเลยทีเดียว ใครชื่นชอบลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้ดูนะคะ