x close

9 ปัญหาในการจัดสวนที่พบบ่อย แก้ไขได้ไม่ยาก

9 ปัญหาในการจัดสวนที่พบบ่อย แก้ไขได้ไม่ยาก

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          เชื่อว่าสวนสวย เป็นระเบียบ และเต็มไปด้วยพืชผล กับดอกไม้สีสันสวย ๆ เป็นสวนในฝันของทุกคน แต่อาจจะต้องฝันสลายเอาได้ง่าย ๆ ถ้าพบเจอกับปัญหาที่เข้ามาก่อกวนทำให้สวนดูแย่ลง หรือปัญหาที่เกิดขึ้นจากตัวคุณเองเพราะยังขาดความเข้าใจในเรื่องของการทำสวน ถ้ารู้สึกเบื่อหน่ายกับปัญหาที่จำเป็นต้องพบเจอบ่อย ๆ และอยากให้สวนในฝันเกิดขึ้นจริงแล้วล่ะก็ บอกเลยว่าไม่ยากอย่างที่คิดค่ะ เพราะวันนี้กระปุกดอทคอมได้นำปัญหาในการจัดสวนที่เกิดขึ้นเป็นประจำ พร้อมวิธีแก้ไขเพื่อให้สวนออกมาสวยเป๊ะกว่าเดิม มาฝากแล้ว ลองไปทำตามกันดูนะคะ

ระบายน้ำในกระถางรางยาว

          เชื่อว่าหลายคนที่ชอบปลูกต้นไม้ และดอกไม้ ในกระถางรางยาว เมื่อออกดอกออกผลสวยงามแล้ว ก็อยากจะให้คงภาพอยู่แบบนั้นไปนาน ๆ แต่เมื่อปลูกไปไม่นาน กลับเกิดปัญหากวนใจ อย่างปุ๋ยที่เฉอะแฉะในกระถางต้นไม้ที่สวยงามเหล่านั้น ช่างเป็นภาพที่ไม่น่าดูเลยใช่ไหมคะ วิธีแก้ไขไม่ยาก เริ่มจากขุดดินและต้นไม้ในกระถางออกมาให้หมดอย่างระมัดระวัง จากนั้นปูผ้าใบลงไปในกระถางก่อนเป็นอันดับแรก หยิบก้อนหิน หรือก้อนกรวดละเอียด มาวางกองไว้ให้ห่างกัน 4 นิ้ว จนเต็ม เพื่อทำหน้าที่ช่วยระบายน้ำ สุดท้ายก็นำดิน และต้นไม้ที่สวยงามของคุณกลับมาใส่ในกระถางเหมือนเดิม เพียงเท่านี้ปัญหาปุ๋ยที่เฉอะแฉะก็จะไม่มากวนใจอีกแล้ว

กำจัดวัชพืชตัวจริง

          ปัญหาวัชพืชเป็นปัญหาเบสิกสุด ๆ ที่คนทำสวนต้องพบเจออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่การแก้ปัญหาที่ถูกจุดจะช่วยทำให้ทุกอย่างดีขึ้น หลายคนเมื่อเจอวัชพืชที่เขามารบกวนต้นไม้ ก็เลือกที่จะดึงวัชพืชให้ออกไปจากต้นไม้เป็นวิธีแรก แต่บางทีกลับกลายเป็นว่าไม่ได้ดึงแค่วัชพืชออกไปเท่านั้น แต่ดึงพืชที่ปลูกไว้ออกไปเสียมากกว่า หรือบางทีเมื่อถอนวัชพืชก็อาจไปโดนรากพืชที่ปลูกไว้จนเกิดผลกระทบ วิธีที่จะทำให้ดึงวัชพืชออกไปได้อย่างไม่ผิดพลาด นั่นคือการติดป้ายน่ารัก ๆ ไว้ตรงพืชของคุณ หรือนำไม้ไอศกรีมมาปักไว้ว่าพืชของคุณอยู่ตรงไหน เพียงเท่านี้ก็จะไม่พลาดที่จะกำจัดวัชพืชตัวจริงให้หมดไปแล้วล่ะจ้า

9 ปัญหาในการจัดสวนที่พบบ่อย แก้ไขได้ไม่ยาก

ทดสอบดินล่วงหน้าก่อนปลูก

          หลายคนละเลยที่จะเตรียมดินก่อนนำพืชมาปลูก รู้ไหมว่านั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดผลเสียกับพืชอย่างมหันต์ อาจจะทำให้พืชไม่ออกดอกออกผลตามต้องการ หรือพืชเฉาตายไปเองเชียวนะ เพราะดินมีหลายประเภทแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ปลูก ฉะนั้นจึงต้องทำการทดสอบดินก่อนว่าดินที่มีอยู่นั้นเป็นดินประเภทไหน (สามารถหาซื้อชุดทดสอบดินได้ตามร้านขายอุปกรณ์ทำสวน) ถ้าหากเป็นดินที่ไม่ตรงกับความต้องการของคุณ จะได้ทำการเปลี่ยนให้ถูกต้องเหมาะสมให้ทันท่วงที รับรองว่าจะไม่เกิดปัญหาร้าย ๆ กับพืชในสวนอีกอย่างแน่นอนค่ะ

รดน้ำต้นไม้เกินความจำเป็น

          มั่นใจว่าเวลารดน้ำต้นไม้ หลายคนมักจะใช้น้ำปริมาณมากต่อต้นไม้หนึ่งต้น หรือรดน้ำบ่อยครั้งเกินไป ด้วยความกังวลว่าจะไม่ชุ่มชื้นพอ นอกจากนี้ต้นไม้หลายชนิดก็ไม่ต้องการการรดน้ำบ่อยครั้ง ซึ่งการรดน้ำมากเกินความจำเป็นการทำลายรากพืช เพราะรากดูดซึมน้ำไม่ทัน ทำให้เน่าเปื่อยจมอยู่ใต้ความชื้นแฉะ แต่จะทำอย่างไรจึงจะรู้ว่าเมื่อไรควรจะรดน้ำหรือไม่ วิธีการไม่ยากค่ะ แค่สังเกตดิน ถ้าหากดินเริ่มแข็งตัวเป็นก้อนแล้ว นั่นหมายความว่ามันต้องการการรดน้ำ เพื่อให้ดินเริ่มอ่อนตัวลงกลับสู่สภาพเดิม หรือพืชที่เหี่ยวเฉาง่าย เช่น ผักกาดหอม สามารถสังเกตดูได้ในวันที่อากาศร้อนจัด ถ้าหากดูเหี่ยวแห้งแสดงว่าต้องการน้ำแล้วล่ะ

ติดรั้วป้องกันสัตว์อื่น

          อีกหนึ่งปัญหาที่หลีกเลี่ยงได้ยาก นั่นคือการที่จะต้องเจอสัตว์เข้ามารบกวนพืชในสวนของคุณ วิธีที่ง่ายมาก ๆ ในการที่จะป้องกันไม่ให้สัตว์เหล่านี้เข้ามาย่างกรายในพื้นที่สวนได้ นั่นคือการติดรั้วให้มิดชิด หรือหากจะป้องกันไม่ให้น้องหมาเข้าไปแล้วล่ะก็ แนะนำให้วางของเล่นสีสันสวย ๆ ไว้ข้างนอกรั้ว จะได้ดึงดูดความสนใจของน้องหมาให้ไปทางอื่นยังไงล่ะ

ให้พืชได้รับแสงแดดพอดี ๆ

          การปลูกพืชที่ออกดอกออกผล นอกจากต้องการน้ำอย่างเหมาะสมแล้ว ก็ยังต้องการแสงแดดอย่างพอดี ๆ ด้วย อย่างถ้าหากบ้านไหนปลูกมะเขือเทศ แต่ทำรั้วที่แสงแดดสามารถลอดเข้าไปสู่ต้นไม้ในเพียงนิดเดียวนั้น เป็นวิธีที่ผิดมาก ๆ เลยล่ะ เพราะมะเขือเทศเป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ด้วยแสงแดดโดยตรง และต้องโดนแดดไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน โดยเฉพาะแสงแดดในตอนเช้า รวมทั้งพืชตระกูลมะเขือต่าง ๆ และพืชสมุนไพรด้วย ฉะนั้นควรเลือกพื้นที่ปลูกให้โดนแสงแดดเต็ม ๆ จะดีกว่า ส่วนในที่ร่ม ๆ ก็นำพืชที่ไม่ต้องการแสงแดดมากมาปลูก เช่น ผักกาดหอม และถั่ว เป็นต้น

9 ปัญหาในการจัดสวนที่พบบ่อย แก้ไขได้ไม่ยาก

หว่านเมล็ดพันธุ์แต่พอเหมาะ

          พืชไม้เลื้อย อย่างฟักทอง แคนตาลูป หรือแตงโมนั้น สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว และเถาของมันจะเลื้อยไปทั่ว ก็จะทำให้ดูรกรุงรังบนแปลงที่ปลูก ฉะนั้นก่อนจะปลูก จึงควรคำนวณพื้นที่บนแปลงปลูกให้ดี และหว่านเมล็ดพันธุ์ลงไปในปริมาณที่เหมาะสม เพราะถ้าหากหว่านเมล็ดลงไปบนแปลงอย่างไม่ระมัดระวัง เมื่อพืชเติบโตขึ้น โดยเฉพาะพืชไม้เลื้อยนั้น จะทำให้เถาเลื้อยพันกันมั่วไปหมด ทำให้รกและจะทำให้ภาพของสวนดูแย่ลงไปเลยล่ะ

ทำยาฆ่าแมลงปลอดภัยใช้เอง

          วัชพืชและแมลงต่าง ๆ ที่มารบกวนพืชผักในสวนนั้น ทำให้พืชผักมีรอยที่ถูกกัดกิน จนต้องหายาฆ่าแมลงมาใช้ แต่การใช้ยาฆ่าแมลงมาก ๆ มีแต่เกิดผลเสียกับสุขภาพ ทั้งของคุณเองและต้นไม้ในสวน เพราะสารเคมีในยาฆ่าแมลงเป็นพิษในดินและสามารถคงอยู่ได้นานหลายปี ฉะนั้นควรใช้ยากำจัดแมลงที่ปลอดภัย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือทำได้เองก็ยิ่งดี แค่ใช้น้ำร้อนและน้ำส้มสายชูผสมกัน รดไปที่พืชผัก 1 ครั้งต่อวัน เพราะน้ำส้มสายชูจะทำหน้าที่กำจัดศัตรูพืช และทำให้กำจัดวัชพืช และหญ้าที่ไม่จำเป็นออกได้ง่ายด้วย

อย่าปลูกพืชใกล้กันเกินไป

          เวลาปลูกต้นไม้ในกระถางแต่กระถางถูกวางติดกัน หรือปลูกในแปลงดินแต่หว่านเมล็ดใกล้กันเกินไป นั่นเป็นสิ่งที่ผิดนะคะ เพราะเมื่อพืชเจริญเติบโตขึ้นจนออกดอกออกผลมา จะทำให้กิ่งก้านที่ยาวขึ้นออกไปพันกับต้นอื่น ๆ อาจจะทำให้ดอกและผลเสียหาย หรือรูปทรงแปลกไปจากที่ควรจะเป็น ฉะนั้นควรอ่านคำแนะนำด้านหลังของซองบรรจุเมล็ดพันธุ์ และปฏิบัติตามให้ถูกต้อง ว่าควรใส่เมล็ดห่างกันเท่าไร เวลาพืชเจริญเติบโตขึ้น แปลงปลูก หรือกระถางจะดูสวยงามลงตัวเป๊ะเลยจ้า


          เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับปัญหาในการจัดสวน และวิธีแก้ไขที่นำมาฝากกันในวันนี้ เชื่อว่าคนที่มีสวนในบ้านและรักการแต่งสวนทุกคนต้องเคยพบเจอปัญหาเหล่านี้แน่นอน ฉะนั้นถ้าอยากให้สวนคงความสวยงามไปได้นาน ๆ ก็ลองนำวิธีแก้ไขเหล่านี้ไปใช้ ให้สวนออกมาสวยเป๊ะตลอดไปเลยนะจ๊ะ






เรื่องที่คุณอาจสนใจ
9 ปัญหาในการจัดสวนที่พบบ่อย แก้ไขได้ไม่ยาก อัปเดตล่าสุด 17 มกราคม 2557 เวลา 11:14:12 18,380 อ่าน
TOP