ผมคิดว่าความฝันนึงของคนต่างจังหวัด ที่เข้ามาทำงานทำการในเมืองหลวง ก็คงคิดเหมือน ๆ กัน คือหาที่อยู่ที่เป็นหลักแหล่ง ปลอดภัย เดินทางสะดวก และยกระดับความเป็นอยู่ (?) ขึ้นจากห้องเช่าที่จ่ายตังค์ให้เจ้าของอพาร์ทเม้นท์ไปเรื่อย ๆ แบบเสียไปเปล่า ๆ แถมสภาพสังคมถ้าเลือกย่านไม่ดี ก็เสี่ยงต่อความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สินอะนะ
อันว่าด้วยตอนนั้น จขกท มีเงินเก็บไม่พอที่จะซื้อดาวน์ หรือซื้อที่สร้างเสร็จแล้ว ทางเลือกที่เหมาะสมก็คือ ก็ซื้อที่มันยังไม่สร้างนี่แหละ ผ่อนดาวน์ไปเรื่อย ๆ ถือโอกาสเก็บตังค์ไปด้วย ยอมเช่าอยู่อีก 1-2 ปีจะเป็นไรไป ก็เลยตัดสินใจหาทำเลเหมาะ ๆ ที่ต้องประเมินว่าต่อไปภายภาคหน้าทำเลที่เรามอง ๆ ไว้มันจะพัฒนาได้แค่ไหน
ดูไปดูมา ก็ไปจองมาที่นึงซึ่งเป็นทำเลโคตรอนาคตมีโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย แต่กว่าที่รถไฟฟ้าจะวิ่งก็นู่น ปี 2560 แต่ถึงกระนั้นก็ดี ที่ตรงนี้ก็ห่างจากที่ทำงานแค่ 2 กิโลเมตร ถึงตอนนั้นก็คงหาวิธีไปทำงานได้แล้วแหละ
วันแรกย้ายมา กทม. รอบสุดท้ายมีของเท่านี้เอง
วันย้ายออก สมบัติบ้าโผล่มาจากไหนมากมายไม่รู้ นี่ขนาดไม่สร้างสมบัติใหม่แล้วนะ
จุดสำคัญที่อยากแชร์ตอนกำจัดและจัดการสมบัติบ้าทั้งหลายแหล่ก็คือ 
จัดกรุ๊ปสิ่งของบ่อย ๆ เอาของประเภทเดียวกันมารวม ๆ กัน

กล่องพลาสติกเก็บของใบใหญ่ ๆ ซื้อมาไว้เก็บของก็ดีนะ
***แนะนำให้ใช้กล่องพลาสติกใสขุ่น ขนาดใบกลาง ๆ ใส่ของแล้ววางในห้องห้องจะดูสะอาดเรียบร้อยมากกว่ากล่องพลาสติกดำ ๆ แดง ๆ เหม็น ๆ ตามโลตัสนะ
***บางทีกล่องใส่ของในเซ็นทรัลก็ราคาถูกกว่าโลตัสนะครับ 
อะไรที่มันอยู่ในแพ็ค หรือไม่ได้หยิบมาใช้ในรอบ 6 เดือน ถ้าไม่เป็นอะไรที่เป็นความทรงจำสุด ๆ ก็ตัดใจทิ้งมันไปซะเถอะ

เสื้อผ้าที่ใส่ไม่ได้ ไม่ต้องเอามาคิดว่าต่อไปความอ้วนชั้นจะลด ต้องกลับมาใส่ได้แน่เลย อันนี้ยากมาก ๆ นะจ๊ะ ตัดใจทิ้งไปเสียก็ดี

สมบัติอะไรที่ขายได้ให้ขาย ขายไม่ได้วันสุดท้ายก็ยกให้คนข้างห้อง หรือแม่บ้านที่บริการเราดี ๆ ไป

อุปกรณ์ทำความสะอาดก็ทิ้ง ๆ ไปหาซื้อใหม่ จะถูกสุขลักษณะกว่าย้ายของเก่าไปใช้นะ
การขนย้าย ถ้าเป็นไปได้ก็ค่อย ๆ ทยอยย้าย จะสบายชีวิตกว่าย้ายตู้มเดียวนะครับ ค่าใช้จ่ายอาจจะมากกว่าย้ายทีเดียว แต่คิดว่าเราสามารถจัดการสิ่งของและสมบัติของเราได้หมดจดกว่านะครับ
ย้ายของลอตแรกแนะนำเป็นของใหญ่ที่เรากรุ๊ปเอาไว้หลัก ๆ ของที่เหลือในห้องก็น้อยลง (ส่วนมากจะเหลือแต่สมบัติบ้าแล้ว) ก็จัดการเก็บกวาดทิ้งสิ่งที่ไม่จำเป็นได้อีกรอบนึง
ย้ายของลอต 2 ของก็จะเหลือแค่ของยังชีพไว้นอน (อาจจะน่าเบื่อหน่อยสำหรับแฟนละครที่ไม่มีอะไรดู) รอบสุดท้ายก็ถือกระเป๋าชิล ๆ ไปสองใบ ตัวปลิว ๆ
หลังจากจอง ผ่อนลืมไป 3 ปี ในที่สุดห้องก็เสร็จให้เราเข้าไปตรวจจ้า ชวนที่ทำงานไปตรวจกันเองนี่แหละ
อุปกรณ์ถังน้ำพร้อมตรวจ
แก้ defect ไปตามเรื่องตามราว
รับโอนแบบมึน ๆ
ว่าด้วยการเลือก finance เพราะว่าราคาค่าห้องมันไม่สูงมาก แค่ 1.5 ล้าน (3 ปีที่แล้ว) ซึ่งคิดว่าผ่านแน่ ๆ แบบไม่ต้องกังวลมาก
*** เรื่องดอกเบี้ย แน่นอนว่าเราก็รู้ ๆ กันว่าเลือกที่ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกถูกสุดอะเนอะ
**** ขั้นตอนการรับโอน ณ จุดนี้ ต้องเตรียมเงินค่าบลาไว้ก้อนใหญ่ ๆ เลยทีเดียวนะ
ของ ผมยอด 1.5 ล้าน ค่าใช้จ่ายที่ต้องเป็นค่าโอน ค่าจดจำนอง ค่าส่วนกลาง ค่าบลา ๆ ตีไปกลม ๆ เลยก็ 80,000 บาท (ต้องมีก้อนนี้เป็นเงินเย็นสำรองไว้นะ) เมื่อเราโอนแล้วเรียบร้อย รับของแถมอะไรต่าง ๆ นานามาจากโครงการ และสิ่งนึงที่เราได้มาก็คือเงินดาวน์ในส่วนที่เราผ่อนไปจ้า (ในกรณีที่กู้เต็มนะ)
ห้องโล่ง ๆ มีแค่กล่องกุญแจ กับหนังสือสัญญาซื้อขาย เอกสาร บลา ๆ แต่ก็แอบภูมิใจอยู่นะ
คราวนี้มาถึงจุดที่มนุษย์ห้องเช่า อยากจะกระทำชำเรากับห้องตัวเองมากที่สุดก็คือการ "แต่งห้อง" แต่ก่อนอื่น เรามาดูค่าใช้จ่ายกันก่อนนะจ๊ะ แค่มโนเบา ๆ ก็แทบจะดับฝันแล้ว สรุป ก็ต้องมานั่งเลือก ๆ สิ่งของที่จำเป็น อะไรจะซื้อก่อน อันไหนรอได้ อันไหนซื้อถูก ๆ มาแก้ขัด อันไหนจะทำบิวท์อิน
เตียง นอน SB ส่วนที่นอน ใช้ของโลตัส เป็น pocket spring เด้งดึ๋งมาก ค่าเสียหายเลือดสาดไปหมื่นแปด แพงกว่าเตียงอีก เรียบร้อยพร้อมโดดนอน
ย้ายสมบัติบ้ามาห้องใหม่เรียบร้อย
เมื่อมีที่นอนก็ต้องมีที่เก็บเสบียงไว้ยังชีพ ก็ตู้เย็นนี่แหละ
ติดม่านสีฟ้า เอ๊ะ ทำไมมันโดนแดดแล้วเป็นสีเทา
ช่างทำม่าน คนน้องขาย คนพี่ติด คุณแม่เย็บ อุตสาหกรรมในครอบครัวจริง ๆ แต่แม่ค้าน่ารักนะ คุยดี๊ดี
กองขยะอิเล็กทรอนิกส์
ตู้เสื้อผ้ายังไม่ได้ทำ (รอบิวท์อินเฟส 2) ก็เดินหาราวเหล็กชุบแถวนั้นมาแขวนไปก่อน อันนี้เดินหาหน้าคอนโด ได้มา 450 บาท
ทีวี ก็ขายเครื่องเก่าที่อพาร์ทเม้นท์ไปถูก ๆ กับ LED TV ที่แถมมากับโครงการ ออกตัวใหม่ 42 นิ้ว มาเล่นเกมให้สะใจไป (อันนี้ไปได้ที่ homework expo 16,xxx)
ของแต่งห้อง ตอนนี้หาใกล้ ๆ จาก index ไปก่อนครับ เดี๋ยวค่อยเดินหาของเก๋ ๆ อีกรอบ
ปูผ้าปูที่นอน พร้อมโดดขึ้นเตียง
โต๊ะทำงาน
ไมโครเวฟเพื่อการยังชีพ แลกแต้มบัตรเครดิตมาใช้แต้มแทบเกลี้ยง แพ๊งแพง
พอดีมีครัวของ starmark ลงมาเปิดบูธข้างล่างโครงการ พินิจดูราคาเอ้อก็ไม่แพงนิ หน้าตาใช้ได้ ครบเลยด้วยไม่ต้องหาซื้อก๊อกน้ำมาเพิ่มแบบยี่ห้ออื่น ก็เลยปลงใจจองไป
และแล้วมันก็ค่อย ๆ เรียกพวกเข้ามาเรื่อย ๆ จนได้ลองหัดทำกับข้าว เฮ้ย มันก็สนุกดีนะ ไม่ต้องฝากท้องไว้กับร้านข้างทางตลอดเวลา
จัดการเปลี่ยนเรนชาวเวอร์ซะ ได้มาจาก Homeworks Expo แต่น้ำก็พอประมาณ ไม่ได้ไหลสะใจแบบในฟิตเนส
ซื้อแผ่น floor set มาจากงานบ้านและสวน วัสดุเป็นไฟเบอร์ซีเมนต์ มาวางทับไป เก๋ด้วย (คิดเอาเอง) ลดการสัมผัสฝ่าเท้ากับกระเบื้องที่ทำให้พื้นดำ ๆ ไป ฟินไปอีกดอก แต่ตอนรื้อมาขัดนี่ไม่ได้คิดสินะ !!!
ระเบียงและเครื่องซักผ้า ปลูกต้นไม้โรยกรวดเพื่อความเก๋ แต่ต้องสั่งตัดแผ่นอะคริลิกมาแปะช่องระเบียงกันกรวดร่วงใส่ชาวบ้าน
กิจกรรมแมน ๆ วันหยุดปีใหม่ด้วยการประกอบเฟอร์ ใครจะรู้ว่าไอ้ตู้สีฟ้า ๆ นั่น ประกอบยากกว่าโชฟาอีกนะ !!!!!
เริ่มดูเป็นห้องละ
ติดวอลเปเปอร์ฝั่งโซฟาให้เป็นสีเทา และเน้นสีเทาเข้มที่เสาที่ยื่นออกมา
ติดกระจกสักหน่อย ห้องจะได้ดูดีขึ้น (มั้ง) จะได้ดูกว้างขึ้นด้วย
ส่วนของครัวก็ทำกระจกพ่นขาวติดไปด้วยกันเลยทีเดียว รู้สึกว่าชุดครัวสวยขึ้น 150% เชียว (นี่ก็มโน)
SB มาส่งตู้ อันนี้เป็นความผิดพลาดจากการทำแบบ คือวางตำแหน่งสูงไป จะเก็บของไงเนี่ยถ้าไม่มีบันไดปีน แต่เพื่อความสวย ยอม
ตัวฟ้า ๆ นี่เรียนให้ทราบว่า มันแพงไร้สาระมาก เป็นไฮกรอสแผ่นเอามาประกอบแท้ ๆ ไม่ใช่พ่นทั้งตัวซะหน่อย ราคากล่องละ 3,000 กว่า จิบ้าตาย
จัดวางตาม layout ที่คิดไว้ ก็เริ่มเก็บกวาดจัดของกันละจ้า
ภาพมุมกว้าง ใช้โต๊ะทำงานเป็นตัวแยกโซนของส่วนนั่งเล่นกับเตียง
ชั้นหนังสือกับตู้เสื้อผ้า
พัดลมหลุดธีมมาก (ห้ามทัก)
ชั้นไว้วางบูชาสิ่งศักดิ์สิทธ์ซาซาบี
ชั้นลอยซื้อของ IKEA ครับ
โต๊ะของ IKEA ชอบมาก ๆ นะ
กล่องไม้จากไดโซะ ยึดกับโต๊ะด้วยแคว่ก ๆ ขวดสี ๆ จาก IKEA ก้านกก เพื่อนเอามาให้
Entertainment Corner
อันนี้เป็นโชฟา IKEA หมอนเก่าที่ซื้อตั้งกะห้องเช่าพัดลมเพดาน ก็เอามาเป็นหมอนหนุนโชฟาซะ กำจัดของที่ไม่รู้จะเอาไปไว้ไหนได้อีกหนึ่ง พรมได้มาจากงานบ้านและสวน
อันนี้มองจากโต๊ะทำงาน เห็นแผงการ์ตูน ยังแหว่ง ๆ อยู่ อนาคตก็คงเต็มแหละ
ที่ว่างหน้าโชฟาก็ไว้ออกกำลังบ้างนิดหน่อย (ยังไม่เคยยกเลยเหอะ ตั้งแต่ซื้อมาเนี่ย)
อันนี้เป็นค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ รวมทั้งหมดจากห้องโล่ง ๆ ตัดเครื่องใช้ไฟฟ้าไปก็อยู่ประมาณ 160,000 แถมมีของที่ซื้อมาไม่ได้ใช้บางส่วนเหมือนกัน ก็ลองดูเป็นไอเดียสำหรับการเตรียมงบไว้ตกแต่งห้องกันครับ บางส่วนเป็นรายจ่ายที่คาดไม่ถึงว่า มันจะแพง (อย่างเช่น ม่าน) หรือที่อยากได้ของดี ๆ ก็เลยแพง (ที่นอน พวกตกแต่ง ๆ) ก็ลอง balance กันดูครับ ระหว่างของ function กับส่วนที่สนองนี้ด