x close

8 ไอเดียแต่งห้องเด็ก รู้ไว้ก่อนจัดห้องเจ๋ง ๆ ให้เบบี๋ตัวน้อย

 ไอเดียแต่งห้องเด็ก

8 Ideas to Create Children Space รู้ไว้ก่อนแต่งห้องเจ้าตัวน้อย (DG)

          เพราะเด็กไม่ใช่ผู้ใหญ่ตัวเล็ก จึงมีเรื่องที่ต้องคำนึงถึงมากมายในการออกแบบและปรับปรุงพื้นที่ของบ้าน เพื่อรองรับความต้องการของพวกเขา ในช่วง 7 ปีแรกของชีวิตสมองของเด็กจะเรียนรู้ได้มากกว่าผู้ใหญ่ถึงพันเท่า การสร้างสเปซให้เด็ก ๆ อย่างเหมาะสมจะช่วยให้พวกเขาเติบโตขึ้นมาอย่างแข็งแรงและสร้างสรรค์

          เราได้ยินเรื่องการออกแบบสำหรับช่วงวัยที่แตกต่างอยู่บ่อย ๆ ทั้งการออกแบบเพื่อผู้สูงอายุและเด็กในแต่ละช่วงอายุ เพื่อให้ครอบครัวขนาดใหญ่ได้ใช้ชีวิตในบ้านร่วมกันอย่างมีความสุข

          เด็กมีพัฒนาการทางร่างกายตั้งแต่เกิดจนถึงช่วงอายุประมาณ 18 ปี ขณะที่มีพัฒนาการทางสมองสูงสุดที่อายุ 0-7 ปี เพราะฉะนั้นเราจึงไม่ควรปล่อยให้เวลาดังกล่าวผ่านไปอย่างไร้ความหมาย มาออกแบบบ้านที่จะช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ให้กับลูกน้อยกันดีกว่า เรามีไอเดียดี ๆ มาฝากถึง 8 ข้อ พร้อมทั้งคำแนะนำที่สามารถทำตามได้ไม่ยาก

1. Safety First

          ความปลอดภัยของเด็กต้องมาก่อนทุกสิ่ง การสำรวจรายละเอียดต่าง ๆ ภายในบ้านและแก้ไขในจุดที่คาดว่าอาจจะทำให้เกิดอันตราย จะช่วยให้การเรียนรู้ของเจ้าตัวเล็กเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย

Check It

          ตรวจตราให้ทั่วทั้งบ้านตั้งแต่พื้น ผนัง ไปจรด ฝ้าเพดาน เพื่อค้นหาและแก้ไขในส่วนต่าง ๆ ดังนี้

           พื้นและผนัง มีตะปูหรือนอตโผล่ออกมาหรือไม่ ควรซ่อมแซมให้เรียบร้อย
           จุดแขวนกระจกหรือกรอบรูป ตรวจสอบความแข็งแรงของอุปกรณ์แขวน
           ประตูบานสวิง ติดอุปกรณ์ป้องกันประตูหนีบมือ
           ประตูกระจกใส ใช้มาร์คเกอร์เขียนกำกับ หรือติดสติ๊กเกอร์ที่กระจกเพื่อไม่ให้เด็กเข้าใจผิดคิดว่าประตูเปิดอยู่
           ลูกบิดประตู เปลี่ยนลูกบิดภายในบ้านให้เป็นแบบที่สามารถใช้เหรียญเปิดได้ เพื่อแก้ไขปัญหาการขังตัวเองได้ทันท่วงที
           พัดลมตั้งพื้น ติดตาข่ายคลุมป้องกันการเอานิ้วแหย่
           ปลั๊กไฟ ใช้ที่อุดรูปลั๊กไฟ
           ตู้และเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ติดสกรูเพื่อยึดไว้กับผนังไม่ให้ล้มเมื่อมีการกระแทก
           โต๊ะ ติดอุปกรณ์ป้องกันเพื่อลบมุมแหลมคม
           เตียงหรือเปลเด็ก เลื่อนให้ห่างจากหน้าต่างที่เปิดได้
           ลิ้นชัก ตรวจสอบว่าดึงออกได้จนสุดหรือไม่ หรือเลือกใช้แบบมีระบบหยุด เพื่อป้องกันของตกลงมาใส่ลูกน้อย
           บันได ติดแผ่นกันลื่นที่ขอบบันได และถ้าช่องระหว่างราวบันไดกว้างควรแก้ไข เพื่อป้องกนเด็กลอดแล้วอาจตกลงมาจากที่สูง
           ตู้ยา ติดตั้งให้สูงพ้นมือเด็ก ล็อกตู้เมื่อไม่ได้ใช้

2. Little Human Scale

          สำหรับวงการออกแบบแล้ว Human Scale เปรียบเสมือนคัมภีร์ที่ทุกคนต้องมีเพื่อใช้ในการออกแบบ สิ่งนี้คือ ตารางความสูง ความกว้าง และความลึก ของร่างกายมนุษย์โดยเฉลี่ย ค่าที่ได้จะถูกนำไปใช้ในการออกแบบตั้งแต่เครื่องประดับ ของใช้ ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์และพื้นที่ทางสถาปัตยกรรม ค่าเฉลี่ยนี้ได้เหมารวมว่าทุกคนจะต้องใช้เฟอร์นิเจอร์ขนาดเท่ากัน คนที่สูงและเตี้ยกว่าค่าเฉลี่ยก็อาจจะอยากให้มีเฟอร์นิเจอร์ในระดับที่ใช้ได้อย่างสะดวก เมื่อนำแนวคิดแบบเดียวกันไปใช้กับเด็กตัวเล็ก ๆ จะได้ออกมาเป็น Little Human Scale

Note

          อย่าเพิ่งจัดเต็มซื้อเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นที่ชอบมายัดเข้าไปในห้อง แม้จะเป็นชิ้นเล็ก ๆ แต่สำหรับห้องที่มีพื้นที่ไม่มากการสะสมของจุกจิกก็จะทำให้ห้องดูรกและอึดอัดได้ คุณพ่อคุณแม่ควรเริ่มจากการวางแผนก่อนเพื่อจะได้ใช้ทุกตารางนิ้วให้คุ้มค่า และอย่าลืมตรวจสอบคุณภาพความแข็งแรงของเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นก่อนซื้อด้วย

          โต๊ะเขียนหนังสือของพวกเขาควรมีความสูงที่พอเหมาะ เพื่อใช้ในการทำการบ้าน อ่านหนังสือและสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ ส่วนชั้นวางหนังสือ สีและของเล่นก็ควรจะติดตั้งในระดับที่เด็ก ๆ หยิบใช้เองได้สะดวก และเก็บเข้าที่ได้ด้วยตัวเอง จะช่วยให้พวกเขามีอิสระในการเล่นและสามารถรับผิดชอบเก็บรักษาของใช้ส่วนตัวได้
         
          ในขณะเดียวกันเราก็ควรคำนึงถึงอนาคตก่อนที่จะซื้อเฟอร์นิเจอร์บางชิ้น เพื่อความไม่สิ้นเปลือง เช่น เตียงนอน แม้ว่าเตียงเด็กจะมีขนาดเล็กดูน่ารัก แต่อย่าลืมว่าพวกเขาโตไว จึงควรเลือกซื้อเตียงที่เด็ก ๆ สามารถใช้ได้ไปจนถึงช่วงวัยรุ่น เลือกตู้เสื้อผ้าแบบเรียบง่ายสไตล์ร่วมสมัย เพราะสามารถนำไปมิกซ์และแมตช์ได้ง่าย ๆ กับหลายสไตล์ หรืออาจเคลื่อนย้ายสับเปลี่ยนไปใช้กับห้องอื่น ๆ ได้ในอนาคต


3. Material

          ไม่เพียงแต่ดีไซน์ที่สวยงามเท่านั้น การเลือกเฟอร์นิเจอร์ของตกแต่งบ้านและของใช้สำหรับวัยเยาว์ยังควรต้องคำนึงถึงวัสดุที่นำมาผลิต ด้วยเหตุผลหลัก 2 ข้อ ได้แก่ ความสะอาด ปลอดภัย และความหลากหลายเพื่อเพิ่มพัฒนาการ

          เลือกวัสดุที่มีสัญลักษณ์ Eco-friendly, Organic หรือ Non-toxic ซึ่งในปัจจุบันมีใบรับรองกว่า 400 แบบ นอกจากจะเป็นการยืนยันว่าวัสดุชิ้นนั้น ๆ ได้มาโดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังใช้สารเคมีน้อยกว่าผลิตภัณฑ์ทั่วไปด้วย

          สัญลักษณ์สำหรับไม้ที่พบเห็นได้บ่อย ได้แก่ FSC, SCS Cal Compliant, Rainforest Alliance และ Processed Chlorine Free & Totally Chlorine Free ส่วนสิ่งทอก็ควรมีสัญลักษณ์ประเภท Fairtrade, Veriflora Certified Sustainably Grown, Animal Welfare Approved หรือมีคำว่า Organic

4. Color Spyohology

          หมดยุคเด็กผู้ชายสีฟ้า เด็กผู้หญิงสีชมพูกันแล้ว จากการวิจัยทางด้านจิตวิทยาพบว่าแต่ละสีมีความสามารถแตกต่างกัน การเลือกใช้สีอย่างไรประสิทธิภาพจะส่งผลไปถึงพัฒนาการทางด้านร่างกายและสมอง ความคิดสร้างสรรค์ สมาธิ หรือแม้แต่กระตุ้นความอยากอาหารได้ เรามาทำความเข้าใจจิตวิทยาสีที่มีต่อเด็กกัน

          เมื่อได้รู้จักความหมายและเอฟเฟ็กต์จากการใช้สีต่าง ๆ แล้ว คงเลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียวว่าอยากจะตกแต่งห้องลูกด้วยสีไหน แต่ไม่ว่าสุดท้ายแล้วคุณจะเลือกสีอะไรก็ควรใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ การใช้สีร้อนโทนสดใส เช่น สีแดง สีส้ม สีเหลือง ในพื้นที่กว้างกินไปอาจทำให้เด็ก ๆ รู้สึกอึดอัด ขณะที่การเลือกใช้สีโทนเข้ม เช่น สีน้ำเงินเข้ม สีเทาเข้ม เป็นบริเวณกว้างก็จะทำให้ห้องมีบรรยากาศมืด ทึบทึม ดูเศร้าไม่สมวัย จึงควรใช้สีเหล่านี้ร่วมกับสีอื่นที่อ่อนกว่าด้วย


 ไอเดียแต่งห้องเด็ก


60-30-10

          60-30-10 คืออัตราส่วนการใช้สีที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในวงการตกแต่งภายใน เพราะช่วยเพิ่มมิติทำให้ห้องดูน่าสนใจมากขึ้น เมื่อบวกทั้งสามจำนวนเข้าด้วยกันจะได้ 100% ของสีที่ใช้ทั้งห้อง วิธีการเลือกสีทั้งสามแบบ "สวยแน่นอน" มีด้วยกัน 2 วิธี คือการเลือกสีเดียวกัน 3 ระดับ (อ่อน-กลาง-เข้ม) หรือใช้หลักการสามเหลี่ยมเลือกออกมาจากวงล้อสี

          หลังจากได้สีทั้งสามแล้วมาเลือกว่าจะให้น้ำหนักสีไหนเป็น 60, 30 และ 10 โดยมากแล้วจะใช้สีอ่อน 60% สีกลาง 30% และสีเข้ม 10% อัตราส่วนนี้รวมไปถึงสีของเฟอร์นิเจอร์ด้วย

Green = Soothing


          สีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของธรรมชาติ แสดงถึงความสงบและสุขภาพที่ดี ช่วยให้ผ่อนคายทั้งร่างกายและจิตใจ ลดความกังวลและช่วยให้มีสมาธิ มีการวิจัยพบว่าสีเขียวช่วยให้เด็ก ๆ อ่านหนังสือได้นานขึ้น

Purple = Wisdom

          สีม่วงเป็นการผสมผสานระหว่างความเสถียรของสีน้ำเงินและพลังงานของสีแดง เป็นสัญลักษณ์ของความซื่อสัตย์และความรู้ สีม่วงช่วยกระตุ้นเรื่องอารมณ์ความรู้สึกในเด็ก พวกเขาจึงมักแสดงออกด้วยศิลปะและงานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์

Yellow = Motivation


          สีเหลืองสว่างสดใสมีส่วนช่วยในเรื่องความกระตือรือร้น ความแจ่มใส ความสุขและสมาธิ นอกจากนี้สีเหลืองอ่อนยังช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญอาหารได้ดีอีกด้วย

Pink = Warm


          สีชมพูถูกใช้จนมีค่านิยมว่าเป็นสัญลักษณ์สำหรับเด็กผู้หญิง แต่ความจิงแล้วก็สามารถใช้ได้กับทุกเพศ สีชมพูจะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่ทำให้เจ้าตัวเล็กรู้สึกอบอุ่นและสงบ

Red = Energy

          สีแดงจะมีผลตรงข้ามกับสีน้ำเงิน โดยจะไปกระตุ้นความรู้สึกตื่นเต้นมีพลัง เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิต มีความเชื่อว่าสีแดงจะช่วยเพิ่มความสามารถด้านกีฬา แต่ไม่เหมาะกับเด็กที่มีความตื่นตัวตลอดเวลาอยู่แล้ว


 ไอเดียแต่งห้องเด็ก


Blue = Calm

          สีน้ำเงินและสีฟ้าช่วยให้สงบทั้งจิตใจและร่างกายลดความกังวลและพฤติกรรมก้าวร้าว ทั้งยังช่วยให้เด็กที่มีปัญหาเกี่ยวกับการนอนรู้สึกสงบและหลับง่ายขึ้น สำหรับในประเทศเขตร้อนอย่างบ้านเราการใช้สีน้ำเงินยังช่วยให้รู้สึกเย็นสดชื่นได้อีกด้วย

Neutral = Cozy

          สีกลาง ๆ เช่น สีขาว สีครีม สีน้ำตาล สีเทา ให้ความรู้สึกอบอุ่น สบายและปลอดภัย ช่วยให้เด็ก ๆ รู้สึกสงบ ผ่อนคลาย และการใช้สีสว่าง เช่น สีขาว สีครีม ยังช่วยให้ห้องดูมีพื้นที่กว้างขึ้นอีกด้วย

Orange = Friendly

          สีส้มแสดงความเป็นมิตร ช่วยในเรื่องการเข้าสังคม และการสื่อสาร เพิ่มความมั่นใจและให้ความรู้สึกมีอิสระกับเด็ก ๆ นอกจากนี้สีส้มยังมีส่วนช่วยในเรื่องการเจริญอาหารอีกด้วย

5. Own Space

          เด็ก ๆ มีสัญชาตญาณการเป็นเจ้าของพื้นที่มาตั้งแต่เกิด พวกเขาต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเติบโตเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น การสร้างสเปซส่วนตัวไม่ว่าจะเป็นห้องนอนหรือมุมหนึ่งในห้องนั่งเล่น ก็ทำให้พวกเขารู้สึกปลอดภัย มีความเป็นส่วนตัวและสบายใจที่จะอยู่ในบ้าน

          ห้องนอนเด็กอาจรวมมุมอ่านหนังสือทำการบ้านเข้าไปด้วย การที่จะใช้ห้องที่มีพื้นที่ขนาดเล็กให้ได้ประโยชน์สูงสุดควรใช้พื้นที่ในแนวตั้ง และเฟอร์นิเจอร์ที่มีการใช้งานหลายรูปแบบ เช่น โซฟาที่เปิดที่นั่งออกมาเก็บของได้ หรือเตียงสองชั้นที่ปรับชั้นล่างให้กลายเป็นมุมทำการบ้านอย่าลืมให้พวกเขามีส่วนร่วมในการเลือกสีและตกแต่งห้องด้วยสิ่งที่สนใจ เพื่อให้มีความรู้สึกเป็นเจ้าของและแสดงออกถึงความเป็นตัวของตัวเอง

Note

          ภาพวาดที่น่าภาคภูมิใจของลูก ๆ เมื่อนำมาใส่กรอบให้เรียบร้อยแล้วแขวนรวมกันไว้หลาย ๆ ภาพ ก็กลายเป็นของตกแต่งบ้านที่สวยแปลกมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครรับรองว่าแขกที่มาเยี่ยมต้องอมยิ้มในความน่ารักของผลงานแต่ละชิ้นแน่นอน

More Idea

          สร้างป้อมปราการส่วนตัวเพื่อเพิ่มบรรยากาศผจญภัยให้เด็ก ๆ อาจจะเป็นบ้านต้นไม้ เต็นท์ขนาดเล็ก กระโจมอินเดียนแดง หรือกระโจมแขวนภายในท้องนั่งเล่นก็สนุกได้ไม่แพ้กัน


 ไอเดียแต่งห้องเด็ก


6. Creativity

          เด็ก ๆ มีพัฒนาการทั้งทางร่างกายและสมองจากการทำงานศิลปะ มาช่วยให้พวกเขาได้แสดงออกด้านความคิดสร้างสรรค์ และความเป็นตัวของตัวเองด้วยสตูดิโอวาดภาพขนาดย่อม โดยการจัดให้มีโต๊ะเก้าอี้สำหรับวาดภาพและงานปั้นอยู่ในมุมสงบของบ้าน ติดราวสำหรับม้วนกระดาษวาดเขียนลงบนโต๊ะเขียนหนังสือ หรือจัดหากกระดาษแผ่นใหญ่ไว้ให้พร้อม เตรียมกล่องอุปกรณ์ขนาดใหญ่พอที่จะเก็บอุปกรณ์ และอาจมีกล่องที่เคลื่อนย้ายสะดวกสำหรับศิลปินตัวน้อยนำออกไปวาดรูปในสวนด้วย


 ไอเดียแต่งห้องเด็ก

7. Big Storage Big Relief

          การมีลูกนั้นมาพร้อมกับการซื้อของจำนวนมหาศาล ยังไม่รวมของขวัญที่ได้รับมาจากญาติสนิทมิตรสบาย ทั้งของเล่น เสื้อผ้า หนังสือ หรือของใช้ในแต่ละช่วงวัย จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าที่เก็บของนั้นจำเป็นมาก

ผนังและประตูก็เก็บของได้

          ติดชั้นวางหนังสือบนผนังในระดับความสูงที่เด็ก ๆ หยิบเองได้ นำตะขอมาติดบนประตูใช้แวนถุงผ้าและกระเป๋า เมื่อโตขึ้นสามารถปรับเปลี่ยนความสูงหรือติดชั้นเพิ่มเติมบนผนังได้ เป็นการใช้พื้นที่แนวตั้งให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ชั้นเก็บของเล่น

          ฝึกให้เด็ก ๆ รู้จักการเก็บรักษาสิ่งของส่วนตัวโดยการจัดที่เก็บของเล่นให้มีความสูงพอเหมาะ ถ้าใช้กล่องหรือทึบที่มีฝาปิดควรระมัดระวังเรื่องน้ำหนักของฝาที่อาจจะตกลงมาหนีบมือได้

ตู้เสื้อผ้า

          ไม่ควรเลือกซื้อตู้เสื้อผ้าขนาดเล็กหรือมีดีไซน์เฉพาะสำหรับเด็ก เพราะพวกเขาเติบโตอย่างรวดเร็ว และถ้าจะให้ดีควรมีบางชั้นที่ไม่สูงมาก เพื่อให้เด็ก ๆ สามารถเปิดแล้วหยิบเสื้อผ้าออกมาหัดแต่งตัวเองได้

ที่เก็บของใต้เตียง

          ใต้เตียงเป็นพื้นที่ที่หลายคนลืมไปเลยว่าสามารถใช้ประโยชน์ได้ เตียงบางหลังมีที่เก็บของติดมาด้วยอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่มีก็เพียงหากล่องพลาสติกมีฝาปิดมิดชิดและมีล้อเอาไว้เก็บเครื่องนอน และของใช้ที่นาน ๆ จะนำเออกมาใช้ที

Storage for Adult

          ไม่เพียงแต่ที่เก็บของสำหรับลูก ๆ เท่านั้น แต่ตู้ของคุณเองก็ควรได้รับการตรวจตราว่ามีการยึดติดผนังอย่างแข็งแรง ปลอดภัยต่อเด็ก ๆ หรือไม่ด้วย ในตู้หรือชั้นที่มีการเก็บยา เครื่องสำอาง น้ำยาทำความสะอาดต่าง ๆ ควรมีประตูปิดมิดชิดและล็อกให้เรียบร้อย


 ไอเดียแต่งห้องเด็ก

8. The Outdoor


          เด็ก ๆ ควรได้รับประสบการณ์การเล่นนอกบ้านด้วยเช่นกัน มีการศึกษาที่พบว่าการเล่นดิน ทราย น้ำ ได้สัมผัสต้นไม้ใบหญ้าอย่างสม่ำเสมอจะทำให้เด็กมีจินตนาการและภูมิต้านทานสูงขึ้น ช่วยให้ผ่อนคลายและมีสุขภาพดี

Note

          อย่าลืมเรื่องความปลอดภัย เลือกปลูกต้นไม้ที่ไม่เป็นพิษเผื่อกรณีที่เด็ก ๆ เผลอกินเข้าไปโดยบังเอิญ และอย่าลืมเลือกใช้วัสดุที่ปลอดภัย เช่น กะเบื้องปูพื้นภายนอกที่ไม่ลื่นเมื่อเปียกน้ำ

More Idea

          สวนเป็นแหล่งทรัพยากรแห่งความสร้างสรรค์ของศิลปินตัวน้อยทุกคน ในวันที่อากาศดีการสร้างงานศิลปะหรืออ่านหนังสือ นอกบ้านก็เป็นไอเดียที่ไม่เลว ลองจัดลานบ้านให้มีบรรยากาศสบาย ๆ แล้วพาเด็ก ๆ ออกมาวาดรูป แล้วดูสิว่าดอกไม้ใบหญ้าโดยรอบจะสร้างแรงบันดาลใจได้มากแค่ไหน

          ถ้าคุณมีพื้นที่มากการสร้างสนามเด็กเล่นขนาดย่อม เช่น สร้างบ้านต้นไม้ ชิงช้า และเครื่องเล่นให้ปีนป่าย เป็นไอเดียน่าสนใจ ที่จะทำให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ได้เพลิดเพลินไปกับการออกกำลังกาย แต่ถ้ามีพื้นที่นอกบ้านเพียงเล็กน้อยคุณก็ยังสามารถสอนให้ลูก ๆ สนุกไปกับการเล่นในสวนได้ โดยการแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งเพื่อให้เล่นได้อย่างเต็มที่ แล้วปูพื้นด้วยวัสดุที่ทำความสะอาดง่าย เพื่อใช้ในการเล่นโคลน ทรายและน้ำได้อย่างอิสระแบบไม่ต้องกลัวเปื้อน

          การเลือกพืชมาปลูกในสวนก็สำคัญ ไม่เพียงแต่ให้ความสดชื่นและออกซิเจนเท่านั้น แต่การเลือกปลูกดอกไม้ ผักและผลไม้โดยให้เด็ก ๆ ได้มีส่วนร่วม จะช่วยให้พวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติ กลิ่น สี วิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
 



ขอขอบคุณข้อมูลจาก

DG DECORATION GUIDE
Vol.13 No.141 มิถุนายน 2557



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
8 ไอเดียแต่งห้องเด็ก รู้ไว้ก่อนจัดห้องเจ๋ง ๆ ให้เบบี๋ตัวน้อย อัปเดตล่าสุด 23 มิถุนายน 2557 เวลา 09:47:14 3,488 อ่าน
TOP