ในกรณีที่ซื้อบ้านมือสองมาแล้วได้กลิ่นบุหรี่ในบ้านเป็นของแถมมาด้วย หรือคนในบ้านใจเด็ดเลิกบุหรี่ได้อย่างถาวรแล้ว แต่กลิ่นบุหรี่ในบ้านยังอบอวลไม่เลิก อย่างนี้ต้องหาวิธีดับกลิ่นบุหรี่ในบ้านให้หมดจดไปสักทีแล้วล่ะเนอะ โดยเริ่มดับกลิ่นบุหรี่ในบ้านด้วยวิธีด้านล่างนี้ได้เลย รับรองทั้งกลิ่นบุหรี่และสารพิษจากบุหรี่ที่ตกค้างจะหายเกลี้ยง !
อากาศที่ถ่ายเทได้ดีจะช่วยบรรเทากลิ่นบุหรี่ลงไปได้เยอะพอสมควร ดังนั้นควรเปิดหน้าต่างและประตูทุกบานที่มีอยู่ในบ้าน ถ้ามีพัดลมดูดอากาศก็อย่าลืมเปิดด้วยนะคะ
2. ซักผ้าม่าน
ปลดผ้าม่านและผ้าทุกอย่างที่ประดับอยู่ในบ้านออกไปซัก ทั้งผ้าคลุมโต๊ะ ผ้าหุ้มเบาะโซฟา ปลอกหมอนอิง ที่สามารถถอดออกไปซักได้ แยกผ้าสีและผ้าขาวออกจากกัน ผ้าสีนำไปซักโดยเติมเบกกิ้งโซดาลงไปในน้ำยาซักผ้าประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ ส่วนผ้าขาวให้ผสมน้ำส้มสายชู 1 ถ้วยตวงลงไปในน้ำยาซักผ้าด้วย เมื่อซักเสร็จแล้วให้นำไปตากแดดจัดเพื่อให้รังสียูวีช่วยไล่กลิ่นบุหรี่ตกค้างอีกรอบ
3. ทำความสะอาดพรม
สำหรับบ้านที่ปูพรม ถ้าไม่โละพรมผืนเก่าทิ้งแล้วปูผืนใหม่ สามารถทำความสะอาดพรมด้วยการดูดฝุ่นปกติก่อน จากนั้นจึงใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพรมโดยเฉพาะซักแห้งพรม ต่อด้วยโรยเบกกิ้งโซดาลงบนพรมให้ทั่ว ทิ้งไว้ประมาณ 15-30 นาที แล้วใช้เครื่องดูดฝุ่นจัดการให้หมดจด ทั้งนี้ยังสามารถใช้เบกกิ้งโซดาดับกลิ่นบุหรี่ตามเบาะนั่งและโซฟาได้ด้วยนะคะ
4. เช็ดกลิ่นทิ้งให้เกลี้ยง
จัดการเหล่าผ้าไปเรียบร้อยแล้ว ต่อมาก็เริ่มทำความสะอาดพื้นผิวต่าง ๆ ในบ้านได้เลย (ยกเว้นเฟอร์นิเจอร์และพื้นไม้) เริ่มจากหน้าต่าง กระจก เพดาน เคาน์เตอร์ โต๊ะ ตู้เก็บของ และพื้นที่อื่น ๆ โดยผสมน้ำยาฟอกขาวกับน้ำสะอาด ชุบด้วยฟองน้ำหรือผ้า นำไปเช็ดทำความสะอาดให้ทั่ว ซึ่งขั้นตอนนี้ควรต้องเช็ดซ้ำหลายรอบ อีกทั้งอย่าลืมเช็ดด้านในลิ้นชักและตู้เก็บของด้วยนะคะ
5. น้ำส้มสายชูช่วยดับกลิ่น
สำหรับพื้นไม้ทุกชนิดให้เทน้ำส้มสายชูกลั่นบริสุทธิ์ลงไปในกระบอกสเปรย์ พกผ้าไมโครไฟเบอร์สะอาดไว้ 2 ผืน แล้วฉีดพรมน้ำส้มสายชูลงบนพื้นไม้จาง ๆ รีบเช็ดด้วยผ้าผืนแรก และเช็ดแห้งตามด้วยผ้าผืนที่สองทันที
ก่อนทาสีผนังบ้านใหม่ให้ทำความสะอาดกำแพงบ้านก่อน เพื่อบรรเทากลิ่นบุหรี่ที่ฝังลึกลงไปในพื้นปูน ขั้นตอนนี้อาจผสมน้ำส้มสายชูลงไปในน้ำที่ทำความสะอาดกำแพงด้วยก็ได้ จากนั้นค่อยทาสีใหม่ทับลงไป ปิดตายกลิ่นบุหรี่ที่เคยมีให้หมด ส่วนเฟอร์นิเจอร์บางชิ้นที่สามารถแต่งสีใหม่ได้จะทาสีใหม่ไปด้วยเลยก็ดี
7. เปลี่ยนฟิลเตอร์แอร์และเครื่องดูดอากาศ
ฟิลเตอร์หรือตัวกรองอากาศของเครื่องใช้ไฟฟ้าบางอย่างอาจดูดซับกลิ่นบุหรี่ไปด้วย ดังนั้นจัดการเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศเหล่านี้ใหม่ด่วนเลยจ้า
8. ถูบ้านหลาย ๆ รอบ
พื้นบ้านก็เป็นอีกส่วนที่มีกลิ่นบุหรี่ติดอยู่ ซึ่งสามารถกำจัดบุหรี่ได้ง่าย ๆ แต่อาจต้องขยันหน่อย เพราะเราต้องถูบ้านซ้ำหลาย ๆ ครั้ง แล้วเลยไปทำความสะอาดบานประตูและลูกบิดประตูด้วย ทั้งนี้อย่าลืมผสมเบกกิ้งโซดาลงไปในน้ำยาที่ใช้ถูบ้านด้วยนะคะ
9. เติมความหอมให้บ้าน
หลังจากทำความสะอาดบ้านชุดใหญ่ไปแล้ว จะรู้สึกได้ว่ากลิ่นบุหรี่เริ่มจางหายไปจนแทบไม่เหลือ แต่เพื่อความมั่นใจ ลองหาสเปรย์ปรับอากาศหรือเจลปรับอากาศมาวางให้ทั่วบ้านไปเลยดีกว่า บ้านจะได้หอมสดชื่นกลบกลิ่นเหม็นจากบุหรี่เนอะ
10. ทำความสะอาดบ้านเสมอ
แม้จะลงแรงทำความสะอาดบ้านหลายส่วนไปแล้ว แต่กลิ่นบุหรี่อาจยังคงหลงเหลืออยู่ตามเสื้อผ้าและของใช้เล็ก ๆ น้อย ๆ ในบ้านได้ ดังนั้นทางที่ดีก็ควรทำความสะอาดบ้านเป็นประจำ ทยอยดับกลิ่นบุหรี่ไปเรื่อย ๆ ส่วนเสื้อผ้าก็เติมน้ำส้มสายชู 1 ถ้วยตวง ลงไปผสมกับน้ำยาซักผ้าทุกครั้งที่ซักผ้า ดูดฝุ่นโซฟาและพรมอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง และฉีดสเปรย์ดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ให้บ้าน พร้อมทั้งทำทุกวิถีทางให้บ้านมีอากาศถ่ายเทดีอยู่ตลอดด้วยนะคะ
เรียกได้ว่าเกือบจะทำความสะอาดบ้านทุกซอกทุกมุมกันเลยทีเดียว แต่ถ้าการทำความสะอาดบ้านชุดใหญ่ครั้งนี้จะช่วยดับกลิ่นบุหรี่ที่เปี่ยมไปด้วยสารนิโคตินและสารพิษต่อสุขภาพได้หมดจดก็ถือว่าคุ้มไม่เบาเลยล่ะ