รีโนเวททาวน์เฮ้าส์มือสอง 3 ชั้น เปลี่ยนอดีตโฮมออฟฟิศ เป็นบ้านในฝัน

          รีโนเวททาวน์เฮ้าส์มือสอง อดีตโฮมออฟฟิศสุดโทรม แปลงโฉมด้วยงบ 2 ล้านต้น ๆ บ้าน 3 ชั้น 22 ตารางวา 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ 

รีโนเวททาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น

          ไอเดียตกแต่งบ้านสำหรับคนที่เคยอยู่คอนโด แต่สุดท้ายตัดสินใจเปลี่ยนมาอยู่บ้าน เดิมเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์มือสอง 3 ชั้น ที่เคยเป็นบ้านเช่าทำโฮมออฟฟิศ แต่เนื่องจากขาดการดูแล เลยทำให้บ้านสภาพค่อนข้างทรุดโทรม แถมยังมีปลวกกิน งานนี้คุณ Femmemy สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เลยตัดสินใจรีโนเวทบ้านทาวน์เฮ้าส์มือสองหลังนี้ซะใหม่ พร้อมกับมาแชร์ประสบการณ์ตั้งแต่ก่อนและหลังรีโนเวท พร้อมกางงบรีโนเวทบ้านครั้งนี้ให้ชมกันเต็ม ๆ 

[CR] รีโนเวทตกแต่งบ้านมือสองให้เป็นบ้านของเรา Let\'s make a house a home 

          ขอเท้าความหลังก่อนนิดนึงนะคะ เริ่มแรกเดิมทีเลย ลังเลระหว่างห้องชุดในคอนโดแบบ 2-3 ห้องนอน กับบ้านมาก เพราะส่วนตัวชินกับการอยู่แบบอพาร์ตเมนต์มาตลอด ชอบอะไรที่ 3-4 ก้าวถึงห้องครัว ถึงห้องนอนเลย แต่พอดูราคาบ้านกับคอนโดในกรุงเทพฯ แล้ว ราคาไม่ต่างกันเท่าไรเลยตัดคอนโดออกไป (ที่บ้านไม่โอเคกับสิ่งที่ไม่ได้เป็นรูปธรรม) ก็มาถึงทางเลือกแค่ว่าจะเอาบ้านเดี่ยวหรือทาวน์เฮ้าส์ สำหรับเราส่วนตัวยังไงก็ได้เพราะค่อนข้างชินกับการมีสเปซเล็ก ๆ (ยัง) ไม่ได้อินกับการปลูกต้นไม้ปลูกหญ้า อยากได้แบบทาวน์โฮมมากกว่าด้วย เพราะส่วนใหญ่จะอยู่คนเดียว ถ้ามีพื้นที่หญ้าสีเขียวสุดท้ายอาจจะดูแลไม่ไหวอยู่ดี แค่อยากได้เป็นบ้านมือหนึ่ง นอกโครงการบ้านจัดสรร ไม่อยากได้บ้านในโครงการ เพราะไม่อยากจ่ายค่าส่วนกลางทุกปี ๆ ขับรถวน ๆ ดูหลาย ๆ ที่ แต่เมื่อเทียบดูราคากับโลเคชั่นแล้วก็ทำให้รู้ว่าราคาในโลเคชั่นที่เราต้องการมันไม่สามารถเอื้อมถึงได้ บ้านมือสองแบบทาวน์เฮ้าส์คงเป็นคำตอบที่เหมาะที่สมควรคู่กับเรามากที่สุด แล้วสรุป..เราก็ได้บ้านมือสอง และอยู่ในโครงการมาค่ะ 

          เชื่อแล้วว่าเจ้าของเลือกบ้านอย่างเดียวไม่ได้ บ้านต้องเลือกเจ้าของด้วย ^^ ได้มาเจอบ้านหลังนี้โดยบังเอิญ ตอบโจทย์เกือบทุกอย่างที่เราต้องการ (ยกเว้นราคา T_T) ตกลงเป็นโครงการนี้ได้เพราะชอบที่มีบ้านแค่จำนวนหลักสิบกว่าหลัง (ไม่เกินร้อย) เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ตอบโจทย์มากตรงทำเล โลเคชั่นที่เราดูไว้คือจตุจักร หลังการบินไทย ลาดพร้าวซอยต้น ๆ พหลโยธิน รัชโยธิน เซ็นทรัล ลาดพร้าว แถว ๆ นี้ เพราะคุ้นเคย อยู่ไม่ไกลจากบ้านญาติ ไม่ไกลจากสนามบินดอนเมือง อยู่ไม่ไกลจากที่ทำงาน และที่สำคัญอยากได้ที่รถไฟฟ้าถึง อันนี้ก็คือตอบโจทย์ทุกอย่าง ออกมาจากปากซอยคือสถานีรถไฟฟ้า BTS เลย

          เนื้อที่บ้าน 22 ตารางวา เป็นบ้าน 3 ชั้นค่ะ 4 ห้องน้ำ หน้ากว้าง 5.5 เมตร พอจอดรถเก๋งธรรมดา ๆ 2 คันและปลูกต้นไม้ได้รอบ ๆ นิดนึง พื้นที่ใช้สอยไปเจอในข้อมูลที่ไหนไม่รู้บอกว่า 200 กว่าตารางเมตร แต่คิดว่าน่าจะไม่ถึง อาจจะอยู่ที่ประมาณ 150 กว่าตารางเมตร ของเราสรุปแล้วแบ่งทำเป็น 3 ห้องนอน 1 ห้อง family/living area 1 ห้องรับแขก ห้องกินข้าว และ 1 ห้องครัวค่ะ 

รีโนเวททาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น

รีโนเวททาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น

รีโนเวททาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น

รีโนเวททาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น

รีโนเวททาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น

รีโนเวททาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น

          สุดท้ายแล้ว แบบก็ไม่ได้ตามนี้ 100% นะคะ น่าจะแค่ประมาณ 80% แต่คิดว่าการได้ลองทำแบบนี้ ทำให้เราเห็นภาพรวม หรือพอจะคิดถึงสิ่งที่เราต้องการ กับพอคำนวณงบประมาณการรีโนเวทต่อเติมได้ง่ายมากขึ้น และแน่นอน ถึงแม้ว่าจะวางงบไว้ประมาณนึงแล้วก็ตาม คำว่า "บ้าน" มันคือ "บ้า" และ "บาน" เลย สรุปแบบคร่าว ๆ เอารูปแปลนบ้านของทางโครงการให้มา Flip เพราะของบ้านเราเป็นบันไดอยู่ทางด้านขวามือ 

รีโนเวทภายนอก

          - ปรับพื้นและปูกระเบื้อง

          เดิมพื้นลานจอดรถที่ได้มาเป็นพื้นปูนธรรมดาที่โครงการให้มา เรายกความสูงพื้นที่จอดรถเพิ่มขึ้นนิดนึงเป็นประมาณ 10 เซนติเมตร ให้เท่า ๆ กับบ้านหลังอื่น แล้วก็ปูกระเบื้อง ส่วนรั้วใช้รั้วเดิม แค่ทาสีใหม่ แต่เปลี่ยนรางข้างล่างจากเดิมเหล็กให้เป็นสเตนเลส ***ข้อแนะนำ*** ใครอยากปูกระเบื้องลานจอดรถ แนะนำอย่าเลือกสีอ่อนค่ะ ทางเราเลือกสีอ่อนมา โดนอะไรนิดหน่อยก็ดำ ก็เปื้อน บางรอยก็ขัดไม่ออก เป็นรอยอีก เสียดาย

          - หลังคาใหม่

          เดิมเป็นหลังคาค่อนข้างทึบ แสงผ่านน้อย ตัวบ้านหันไปทางทิศเหนือ แทบไม่ค่อยโดนแดดอยู่แล้ว ตัวโครงสร้างหลังคายังดีอยู่ เลยเปลี่ยนเฉพาะตัววัสดุมุงหลังคา เปลี่ยนเป็นแผ่นดีไลท์ D-lite แบบลอนเรียบ เลือกแบบยังกัน UV แต่ให้แสงผ่านได้เพิ่มมากขึ้นเป็น 54% (จริง ๆ ถ้างบถึง อยากได้แผ่น Shinkolite แต่ประเมินราคาแล้วไม่ไหว เลยเอา D-lite นี้ละกัน)

          - ประตูหน้าบ้าน

          เปลี่ยนจากประตูกระจกสไลด์เป็นประตูไม้สัก ยกกรอบประตูอะลูมิเนียมทั้งหมดออก เอากรอบไม้ติดตั้งแทน จริง ๆ อยากได้แบบเปิด-ปิด ผลักเข้า-ออก แต่คำนวณดูแล้วน่าจะกินพื้นที่ในส่วนจอดรถมากเกิน เลยยังคงไว้เป็นแบบบานเลื่อนเหมือนเดิม

          - ไฟตรงลานจอดรถ

          เพิ่มไฟ 2 ดวง แล้วก็ทำสวิตช์ไฟ 2 ทาง ให้เปิดทั้งจากหน้าบ้านและในบ้านได้เลย 

          Before

รีโนเวททาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น

รีโนเวททาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น

          After

รีโนเวททาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น

รีโนเวทภายใน 

          - ฉีดปลวก 

          เนื่องจากเจ้าของบ้านหรือผู้เช่าไม่ได้ดูแลเลย ไม่ได้ฉีดปลวกสม่ำเสมอ อีกทั้งก่อนหน้าที่เราจะซื้อบ้าน รู้สึกว่าจะไม่มีใครอยู่บ้านมาหลายเดือน น้องปลวกเลยมาบุก พักอาศัยกันอยู่เยอะเลย ก็ให้บริษัทฉีดปลวกมาชี้จุด และดำเนินการกำจัดปลวกต่อ ส่วนของบิลต์อินห้องครัวเดิมจะโดนปลวกมากที่สุด 

รีโนเวททาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น

          - ปูกระเบื้องใหม่

          เลาะกระเบื้องเก่าออก ปูเป็นกระเบื้องใหม่ ลายหินอ่อนแบบผืนใหญ่ (กว่าเดิม) ในส่วนนั่งเล่นและโต๊ะกินข้าวเป็นลายหินอ่อนสีขาวเงา ส่วนครัวเป็นลายหินอ่อนสีเทาแบบสาก

          - ต่อเติมปรับเปลี่ยนครัว

          เอาบิลต์อินห้องครัวเก่าออกทั้งหมด เพิ่มพื้นที่ครัวให้มากกว่าเดิม กั้นครัวใหม่ และวางแผนจะปรับครัวให้เป็นครัวปูนรูปตัว U เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาปลวกในภายภาคหน้า ท็อปเคาน์เตอร์ใช้หินเทียม Geoluxe ของ SCG

รีโนเวททาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น

รีโนเวททาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น

รีโนเวททาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น

รีโนเวททาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น

          - เปลี่ยนปั๊ม

          จากเดิมน้ำชั้น 3 ไหลเบามาก เลยตัดสินใจเปลี่ยนปั๊มจากเดิมที่โครงการให้ Mitsubishi เป็นของ Grundfos Scala 2 โดยรวมแรงน้ำดีขึ้น พอมีเสียงบ้าง แต่ไม่ดังเท่าตัวเดิม อาบน้ำใช้แบบ Rain Shower ชั้น 3 ได้โอเคเลยค่ะ

          - จัดการงานระบบเซอร์วิสของบ้านให้เป็นระเบียบมากขึ้น

          ปรับท่อน้ำทิ้ง บ่อบำบัด บ่อดักไขมัน ถังเก็บน้ำ ปั๊มน้ำอะไรให้เป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น ช่วงต่อเติมปรับปรุงนี้ใช้เวลานานมาก หลาย ๆ ครั้งที่ท้อ ช่างติดโน่นบ้างนี่บ้าง ตรงนี้ไม่เรียบร้อย ตรงนั้นขาด ฯลฯ จนข้าง ๆ บ้านที่ตัดสินใจต่อเติมหลังบ้านเหมือนกันในภายหลังเสร็จก่อนหน้าเราอีก ใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน -_- ช่วงแรกเครียดมาก ช่วงหลัง ๆ อะไรที่พอปล่อยผ่านได้ก็ยอม ​ไม่ใช่อะไร เหนื่อยแล้วจ้า 

          - ต่อเติมพื้นที่หลังบ้าน 

          หลังจากผูกมิตรกับเพื่อนบ้าน ซ้าย ขวา และหลัง ก็ขอต่อเติมพื้นที่ซักล้างหลังบ้าน ตรงนี้ปัญหาค่อนข้างเยอะมากที่สุด เพราะเป็นการต่อเติมจากโครงสร้างเดิม กังวลเรื่องการทรุด แล้วจะดึงบ้านทรุดไปด้วย ปัญหาร้อยแปดพันเก้า ถึงคราวทำบ้านตัวเอง จากที่ลองหาข้อมูลมา เลยตกลงเลือกใช้แบบเสาเข็มไมโครไพล์ ที่เหมาะสำหรับการต่อเติม ปั้นจั่นเข้าได้ในพื้นที่น้อยแบบนี้ และที่สำคัญคือ แรงสั่นสะเทือนน้อยไม่รบกวนเพื่อนบ้าน ตอนแรกช่างเสนอว่าจะวางแค่ 2 ต้น (พี่ที่เป็นวิศวกรคำนวณน้ำหนักให้แต่ละต้นประมาณ 20 ตัน) คิดไปคิดมาเอา 4 ต้นไปเลยดีกว่า แล้วก็แยกโครงสร้างระหว่างบ้านเดิมและส่วนต่อเติม รวมถึงผนัง ก็ก่อขึ้นมาใหม่ ไม่ฝากไว้ที่กำแพงหรือรั้วบ้าน เพื่อความชัวร์ โครงสร้างเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น พยายามเอาที่แข็งแรง ปลอดภัยไว้ก่อน

          ข้ามดู After รีโนเวทกันเลย 

          ชั้น 1

รีโนเวททาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น

          - ในห้องครัว หลังจากติดตั้งเคาน์เตอร์ครัว ติดเตา ฮู้ดดูดควัน อ่างล้างจาน และทำบิลต์อินแบบกันปลวกอะไรแล้วก็จะได้แบบนี้ สภาพใช้งานจริง ช่วงแรก ๆ ยังพอมีพื้นที่ว่างบ้าง ​ตอนนี้อุปกรณ์เครื่องครัวต่าง ๆ เพิ่มขึ้นมามากมาย เป็นสายอุปกรณ์ ขอเครื่องครัวครบไว้ก่อน ฝีมือมีไม่มีค่อยว่ากัน 

รีโนเวททาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น

รีโนเวททาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น

          - ส่วนบิลต์อินของตรงนี้เน้นอย่างเดียว คือเราต้องการให้ซ่อนประตูห้องเก็บของ ไม่ให้เห็น ช่างเลยออกแบบให้เป็นประตูซ่อนกด และด้านหลังตรงบันไดก็ทำพื้นที่เล็ก ๆ พร้อมใส่ไฟ ไว้ตั้งของเล็ก ๆ น้อย ๆ โชว์ได้

รีโนเวททาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น

รีโนเวททาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น

รีโนเวททาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น

          - พื้นที่ห้องรับแขกและโต๊ะกินข้าว หลังจากบิลต์อินแล้ว เมื่ออยู่ไปอยู่มาของก็จะเพิ่มมากขึ้นเป็นธรรมดา

          ชั้น 2

รีโนเวททาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น

รีโนเวททาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น

รีโนเวททาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น

          - ทุบห้อง กั้นห้อง และปูพื้นใหม่ เลาะลามิเนตพื้นเดิมสีเข้มทั้งชั้น 2-3 ออก เปลี่ยนป็นไวนิลสีอ่อนลง เห็นคนขายเคลมว่าอันนี้จะทนน้ำมากกว่า พวกเฟอร์นิเจอร์ไม่ค่อยได้ใช้บิลต์อินอะไรมากเท่าไร เพราะจะเป็นพื้นที่ Living Area และห้องนอนสำหรับเวลาที่บ้านมานอน ที่ใช้บิลต์อินจะมีแค่ชั้นวางทีวีและตู้เก็บหนังสือ แล้วก็ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง ส่วนอื่น ๆ ก็จะเป็นเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว 

รีโนเวททาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น

รีโนเวททาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น

          - แต่ข้างหลังโซฟา โต๊ะทำงานอันนี้ยังรอบิลต์อินตู้โชว์วางกันดั้มของคนข้างตัวอยู่ค่ะ -_-\' รอคิวนานมากกก โชคดีจะได้คิวเร็ว ๆ นี้ หวังว่าจะเสร็จภายในเดือนหน้า

          ชั้น 3 (สุดท้าย)

          ห้องนอนของเราเองค่ะ ทุกวันนี้ การอยู่ชั้น 3 คือแค่เดินขึ้น-ลง ก็เหมือนคาร์ดิโอในตัว แรก ๆ ไม่ค่อยชิน ตอนนี้เริ่มจะชินแล้ว พยายามคิดให้รอบคอบก่อนขึ้น-ลงแต่ละครั้ง ไม่งั้นต้องเสียพลังงานมาก จะเป็นห้องที่อยู่มากที่สุดในบ้าน คิดเยอะว่าจะทำออกมายังไงดีให้ได้ฟังก์ชันครบ สุดท้ายทำออกมาได้ตามแบบที่คิดไว้เกือบ 95% ขาด 5% คือแบบที่ต้องปรับหน่อยกับสีที่เปลี่ยนไป ตอนแรกอยากให้ห้องเป็นอีกสีนึง ช่างดันเลือกสีมาให้ผิด แต่ก็​ไม่ได้แย่มาก ถ้าแก้ต้องแก้เยอะ เพราะช่างทำไปเกินครึ่งแล้ว เลยเลยตามเลยละกัน ^^

รีโนเวททาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น

รีโนเวททาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น

          - เปลี่ยนพื้นใหม่ คราวนี้เลือกเป็นไวนิลเหมือนกัน แต่ปูแบบฟันปลา Herringbone Pattern เพราะทำให้นึกถึงบรรยากาศตอนอยู่ปารีส จริง ๆ อยากได้ (ชั้น 2 ก็พื้นลายเดียวกันค่ะ)

รีโนเวททาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น

รีโนเวททาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น

รีโนเวททาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น

รีโนเวททาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น

          - แล้วก็จะมีเรื่องห้องน้ำค่ะ ปรับปรุงปูพื้นกระเบื้องใหม่ กับปรับห้องน้ำชั้น 3 ในห้องนอนเรา เพราะจะเป็นห้องน้ำที่ใช้ทุกวัน เปลี่ยนชักโครก เปลี่ยนอ่างล้างหน้า ให้มีที่เก็บของมากขึ้น

          ส่วนห้องน้ำอื่น ๆ ในบ้านยังพออยู่ในสภาพใช้งานได้ ไม่ได้ทำอะไร นอกจากก่อธรณีประตู แล้วก็ใส่กระจกกั้นอาบน้ำค่ะ บ้านหลังนี้มี 4 ห้องน้ำ 3 ห้องอาบน้ำ ก่อนหน้านั้นโครงการไม่ได้กั้นกระจกอาบน้ำมาให้ ให้ท่อน้ำทิ้งในห้องน้ำมีแค่ที่เดียว โครงการแอบมักง่าย อุดท่อน้ำทิ้งอีกอัน เลยลำบากช่าง พอเรามาก่อธรณีประตู แล้วกั้นกระจกอาบน้ำ กั้นส่วนเปียก-ส่วนแห้ง เลยต้องให้ช่างนั่งคลำหาท่อน้ำทิ้งอีกอันอีกฝั่ง และเล็งให้ตรงจุด เพื่อไม่ให้ต้องเปลี่ยนกระเบื้องทั้งพื้น อันนี้ก็ต้องขอบคุณช่างด้วยที่ทำให้ได้จนสำเร็จ

รีโนเวททาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น

รีโนเวททาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น

รีโนเวททาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น

รีโนเวททาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น

          และระหว่างสถานการณ์วิกฤต Covid-19 ช่วงนี้ เรายังโชคดียังไม่โดนผลกระทบ (ทางตรง) แต่ในอนาคตต้องมีโดนทางอ้อมแน่ ๆ ได้รับผลกระทบทุกภาคส่วน ต้องปรับตัวกันไป ทำให้ต้อง Work from home ข้อดีคือได้อยู่บ้านมากขึ้น ก็รู้สึกดีมาก ๆ ที่ทำบ้านเสร็จทันอยู่ช่วงการระบาดแบบนี้พอดี คิดว่าถ้าเช่าอยู่คอนโดเหมือนแต่ก่อนน่าจะค่อนข้างหดหู่หน่อย ๆ เพราะห้องคอนโดที่เคยอยู่ไม่ใหญ่มาก ประมาณ 40 ตารางเมตร แต่ของเยอะมาก ส่วนกลางอะไรก็ปิดอีก มาช่วงโควิดนี้ได้ค้นพบกิจกรรมใหม่ ๆ ที่เราเอนจอยและไม่คิดว่าตัวเองทำได้คือการปลูกต้นไม้ เมื่อก่อนปลูกอะไรก็ตาย กระบองเพชรก็ตาย ทยอยซื้อต้นไม้มาเรื่อย ๆ จนตอนนี้อยู่ด้วยกันมาประมาณเกือบ 3 เดือน มีตายไปบ้าง อนุบาลได้บ้าง ที่ทำตายไปคือไทรใบสักและพุดศุภโชค เข้าใจว่ารากเน่า เพราะเป็นต้นแรก ๆ ที่ได้มา รดน้ำมากเกินจนรากเน่า ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าถ้าเราให้เวลาและทำความเข้าใจกับน้องต้นไม้ ดูดินดูอะไร ศึกษาธรรมชาติความต้องการของต้นนั้น ๆ น่าจะพอเลี้ยงน้องรอด เลยฮึกเหิมหันมาปลูกต้นไม้ในกระถางและทำสวนแนวตั้ง เพื่อเพิ่มสีเขียวในบ้าน โดยไม่รบกวนพื้นที่ในการจอดรถ ลานจอดรถต้องใช้จอดรถในบ้านต้องจอดได้ 2 คัน

          กรอบงบประมาณหลัก ๆ

          - รีโนเวทต่อเติมโครงสร้างครัว + ที่ตากผ้า + ห้องน้ำ เฉพาะค่าแรงช่างและวัสดุ เช่น ปูน อิฐ ประมาณ 220,000 บาท 
          - วัสดุอื่น ๆ เช่น กระเบื้องปูพื้น ไวนิล ชักโครก ฝักบัว อื่น ๆ อีกประมาณ​ 250,000 บาท
          - บิลต์อินครัว ประมาณ 175,000 บาท
          - บิลต์อินเฟอร์นิเจอร์ทั้งบ้าน และเปลี่ยนประตูไม้สัก ประมาณ 660,000 บาท
          - ระบบไฟ 90,000 บาท
          - หลังคาดีไลท์ 18,200 บาท (เฉพาะแผ่น ไม่รวมค่าแรง)
          - ทาสีภายในทั้งหมดและภายนอกบางส่วน 90,000 บาท (ไม่รวมสี)
          - ค่าแรงช่างงานจิปาถะ เช่น พื้นหน้าบ้าน ฯลฯ ที่เพิ่มมาเป็นระยะ ๆ ส่วนนี้น่าจะประมาณ 100,000 บาท
          - แอร์ 6 ตัว Mitsubishi (Electric & Heavy Duty) 161,500 บาท
          - มุ้งลวด 6 จุด ในบ้านเป็นแบบมุ้งจีบ 22,500 บาท
          - ม่าน 7 จุด + ม่านโปร่งทุกจุด 32,000 บาท
          - ฟิล์มกรองความร้อน 8,900 บาท
          - เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ (ทีวี 3 ตัว ตู้เย็น 2 เครื่องซักผ้า 1 ฮู้ด เตา ฯลฯ) 150,000 บาท
          - เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวอื่น ๆ (เตียง 2 ฟูก 4 โซฟา 1 โซฟาเบด 1 โต๊ะกินข้าว โต๊ะทำงาน เก้าอี้ ฯลฯ) 200,000 บาท
          - กล้อง CCTV 5 ตัว 29,900 บาท

          เบ็ดเสร็จประมาณ 2 ล้านต้น ๆ ค่ะ 

          ข้อดีของการซื้อบ้านมือสองหลังนี้

          - โครงการที่ซื้อ ตัวบ้านสร้างเสร็จมาครบ 5 ปีพอดี เลยพอทำให้เรารู้ปัญหาที่เกิดขึ้นของบ้านได้เลย 
          - มีเพื่อนบ้านแล้ว ได้เห็นหน้าค่าตา ซ้าย ขวา หน้า หลังบ้านเราเป็นใคร ไม่ต้องลุ้น
          - ไม่ต้องมโน ความเป็นอยู่หรือสภาพแวดล้อม ได้เห็นตามสภาพความเป็นจริงเลย

          ส่วนข้อเสียก็มี 

          - ตัวสภาพบ้านเดิม เจ้าของอยู่เองแค่ตอนต้น ๆ แล้วปล่อยให้เช่า ทำเป็นโฮมออฟฟิศ ผู้เช่าไม่ค่อยได้ดูแลบ้านเท่าไร เราซื้อมาเลยต้องปรับปรุงรีโนเวทเพิ่มเติม

          - อันนี้เป็นข้อเสียที่รู้สึกเสียดายที่สุด คือเรื่องราคา จากการลองหาข้อมูลดู บ้านมือสองควรที่จะได้ราคาที่ดีกว่านี้ แต่เราต่อรองไม่ค่อยเป็น (ซื้อบ้านครั้งแรก) ราคาเลยบวกจากราคาตั้งต้นของโครงการไปประมาณเกือบ 30% ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก็แนะนำทุกคนให้ตรวจสอบ เจรจาต่อรองราคากันดี ๆ

          ช่วงวิกฤตนี้ถ้าใครมีเงินสำรองซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัยช่วงนี้น่าจะได้ดีลราคาดี อสังหาฯ ต่าง ๆ ราคาลดลงจนน่าตกใจ นี่ก็เสียดาย ถ้ารอซื้อช่วงนี้ได้ก็น่าจะได้ดีลที่ราคาดีมาก ๆ แต่คิดไปคิดมา ถ้ารอจนถึงตอนนี้ก็อาจจะไม่ได้บ้านหลังนี้แล้วแหละ ลืมบอกไปว่าบ้านหลังนี้เราได้มาเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2561 ค่ะ ซึ่งปัจจุบันย้ายมาอยู่บ้านหลังนี้แล้วประมาณ 4 เดือน ก็รู้สึกแฮปปี้เอนจอยกับการอยู่บ้าน แต่งบ้านมาก ๆ และตอนในช่วงวิกฤตนี้ก็ได้กิจกรรมใหม่คือ การปลูกต้นไม้ ก็เลยคิดว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันคงมีเหตุผลของมันแล้วแหละ อย่างน้อยก็ยังดีได้บ้าน ได้รีโนเวทบ้านเสร็จพร้อมอยู่ ช่วงวิกฤตแบบนี้ มารีวิวบ้านกันเลยค่ะ

          หลังจากได้โอนบ้านก็ยังไม่ได้จังหวะเริ่มรีโนเวทอะไรเลย ทิ้งไว้ประมาณ 6 เดือน เข้าไปดูบ้าน 3-4 ครั้ง ในเวลาต่าง ๆ ลองร่าง ๆ แบบที่เราอยากได้ แต่กว่าจะเริ่มหาแบบและหาช่างจริงจังได้ เริ่มงานรีโนเวทก็ช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2562 ใช้เวลาในการทำบ้านทั้งหมดตั้งแต่พฤษภาคม-ธันวาคม 2562 ประมาณ 8 เดือนค่ะ ช่วงว่าง ๆ ยังไม่ได้เริ่มหาช่าง เราก็ลองหาโปรแกรม หา Inspiration ใน Pinterest คิดออกแบบพื้นที่บ้านเองตามวัตถุประสงค์การใช้สอยที่เราต้องการใช้ แล้วก็ออกแบบเพื่อดูว่าจะต้องบิลต์อินส่วนไหนบ้างอะไรบ้าง  

          สิ่งที่ได้จากการทำบ้านหลังนี้ 2 ข้อใหญ่ ๆ คือ

          1. ขอบคุณครอบครัวและที่บ้าน ที่ให้การสนับสนุนทุก ๆ อย่าง เชื่อใจและก็ไว้ใจให้เด็ก (ถึงแม้อายุเราจะเลยวัยเบญจเพสมาหลายปีแล้ว แต่เราเด็กเสมอในสายตาผู้ใหญ่ ฮ่า ๆ) อย่างเราได้ดูแล ออกแบบทำบ้านหลังแรกนี้ได้ตามที่เราต้องการ ได้รู้ขั้นตอนการรีโนเวทตกแต่งบ้าน เมื่อเราไม่มีผู้รับเหมาคนกลางคอยช่วยคุมช่าง เราก็ต้องเรียนรู้ หาข้อมูลทุกอย่าง และรับมือกับปัญหารูปแบบต่าง ๆ จากช่างรับเหมาเอง ต้องดูเรื่องเอกสาร สัญญา ทำบัญชี ดูงบ เข้าดูหน้างานบ้านเอง เลือกวัสดุเอง ก็ดราม่าคนเดียวอยู่พักนึง อยากให้ทุกอย่างเนี้ยบเรียบร้อยกริบ ทุกปัญหาในพันทิปหรือในอินเทอร์เน็ตที่เคยอ่านเจอ ก็เจอแทบทุกอย่างในชีวิตจริง คุยอีกอย่างได้อีกอย่าง เอาวัสดุที่ไม่ดี บลา บลา ฯลฯ ยกเว้นปัญหาเดียวที่ยังโชคดีไม่ได้เจอ คือช่างไม่ทิ้งงาน ภูมิใจในตัวเองที่ผ่านพ้นทุกอย่างมาได้ ทุกปัญหาย่อมมีทางออก แม้บางครั้งอาจจะไม่ใช่ทางออกที่เราคิดไว้ แต่ยังไงมันก็มีทางแก้เสมอ สิ่งที่รู้สึกว่าโชคดีมากที่สุดเลย คือด้วยที่บ้านไม่สนับสนุนการผ่อนใด ๆ ทั้งสิ้น รวมการผ่อนบ้าน (ยกเว้นพวกบัตรเครดิตที่มีโปร 0%) ทำให้ไม่มีหนี้หรือภาระใด ๆ กับสถาบันการเงินทุกประเภท (นอกจากใช้คืนที่บ้าน) เรียนรู้พอใจในสิ่งที่ตัวเองมีค่ะ

          2. ระหว่างการทำบ้านหลังนี้ ในชีวิตก็เกิดเรื่องมากมาย 1 ปีกว่า ๆ เรื่องที่เสียใจก็มา ชีวิตได้พบกับความสูญเสียครั้งใหญ่อีกครั้งนึง เหตุผลที่ตกลงซื้อบ้านหลังนี้เพราะคำว่าครอบครัว อยากให้ที่บ้านมีที่พัก อยู่สะดวกเวลาครอบครัวจากต่างจังหวัดมาที่กรุงเทพฯ มีพื้นที่ให้นอนพักผ่อน ที่บ้านเลยสนับสนุนตรงนี้ เสียดายที่เริ่มการรีโนเวทบ้านช้าไป บ้านเลยเสร็จไม่ทัน คุณป้าใหญ่ (แม่คนที่ 2 ของเรา) ต้องจากไปก่อนด้วยโรคร้าย เสียใจมาก ๆ เคว้งอยู่พักใหญ่ ตอนนี้ก็เริ่มทำใจได้มากขึ้น พยายามคิดถึงสัจธรรมของชีวิต พยายามปล่อยวาง คิดซะว่าเค้าไม่ได้ไปไหนไกล ร่างกายตัวอาจจับต้องกันไม่ได้แล้ว เพราะกายสังขารไม่เที่ยง แต่ความทรงจำ ความดีต่าง ๆ ของเค้ายังอยู่ เราแค่ย้ายให้เข้ามาอยู่ในใจเราเท่านั้น ปลอบรักคุณรักคุณ ต่อไปก็พยายามใช้แนวคิด นำสิ่งที่มีอยู่มาต่อยอดให้ชีวิตได้เดินทางต่อไปได้สะดวก เก็บออมเพื่อครอบครัวอนาคตของเราเอง

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก คุณ Femmemy สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
รีโนเวททาวน์เฮ้าส์มือสอง 3 ชั้น เปลี่ยนอดีตโฮมออฟฟิศ เป็นบ้านในฝัน อัปเดตล่าสุด 11 ตุลาคม 2565 เวลา 15:46:54 68,101 อ่าน
TOP
x close