รวมต้นไม้ปลูกในกระถางหน้าบ้าน ปลูกง่าย ไม่ยุ่งยาก วางประดับหน้าบ้านก็สวย หรือจะวางตามมุมต่าง ๆ ในบ้านก็เก๋ มีอะไรบ้าง ไปดูกัน
สำหรับคนที่ชอบปลูกต้นไม้ ก็คงอยากจะให้บ้านที่อยู่อาศัยเต็มไปด้วยต้นไม้ มุมไหนยังมีพื้นที่อยู่ก็อยากจะปลูก ซึ่งบริเวณหน้าทางเข้าบ้านจะให้ปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่ก็คงไม่เหมาะ บ้านจะกลายเป็นป่าไปเสียก่อน ลองดูไม้ประดับที่ปลูกในกระถาง ขนาดกำลังน่ารัก มีให้เลือกทั้งแบบไม้ดอกและไม้ใบ ถ้าได้วางประดับหน้าบ้านไหน รับรองเลยว่า บ้านนั้นต้องสวยงามน่ามอง และดูสบายตาแน่ ๆ วันนี้กระปุกดอทคอมจะมาบอกวิธีการปลูกต้นไม้ในกระถาง พร้อมกับรวบรวมพรรณไม้ที่แข็งแรง ทนทาน ปลูกในกระถางมาฝากกันค่ะ
วิธีการปลูกต้นไม้ในกระถาง
มีขั้นตอนง่าย ๆ ไม่ยุ่งยากเลยค่ะ แค่ลองทำตามดังนี้
1. เลือกพรรณไม้ที่ชอบ
ต้นไม้ประดับที่ปลูกในกระถาง มีทั้งไม้ดอกและไม้ใบ ก็เลือกเอาตามใจชอบได้เลยค่ะ ใครที่ชอบสีสันสดใสก็เลือกปลูกต้นไม้ดอก และใครที่ชอบความเขียวชอุ่มชุ่มชื้น ดูแล้วสบายใจ ก็เลือกปลูกไม้ใบ รวมถึงดูความเหมาะสมของต้นไม้ที่เราชอบว่าสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อม สภาพอากาศ ความชื้น ในจุดที่เราจะนำต้นไม้ไปวางหรือไม่
2. เลือกกระถางต้นไม้ที่มีขนาดและน้ำหนักที่เหมาะสม
ควรเลือกกระถางให้เหมาะกับขนาดและพันธุ์ของต้นไม้ที่จะปลูก และควรคำนึงถึงการเคลื่อนย้ายกระถางด้วย ถ้าเป็นคนที่ไม่ชอบเปลี่ยนตำแหน่งต้นไม้ก็เลือกใช้กระถางทำจากปูนหรือกระถางเซรามิก วางประจำที่ไปเลย แต่ถ้าเป็นคนที่ชอบจัดสวน ย้ายที่เปลี่ยนตำแหน่งต้นไม้บ่อย ๆ ก็ควรเลือกกระถางที่มีน้ำหนักเบา ทำจากโฟมหรือไฟเบอร์กลาส
3. เลือกดินที่เหมาะกับต้นไม้ที่จะปลูก
ต้นไม้แต่ละชนิด แต่ละสายพันธุ์ ชอบดินแตกต่างกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วต้นไม้ในกระถางมักจะชอบดินร่วนปนทราย หรือดินที่มีการระบายน้ำได้ดี ซึ่งอาจจะผสมปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ขุยมะพร้าว แกลบ ลงไปในดินเพื่อเพิ่มสารอาหารที่จำเป็นต่อต้นไม้ได้
4. รดน้ำต้นไม้ที่ถูกวิธี
ควรดูและศึกษาต้นไม้แต่ละชนิดที่จะนำมาปลูกว่าชอบหรือไม่ชอบน้ำ ต้องการน้ำมาก-น้อยเพียงใด เพราะต้นไม้บางต้นก็ชอบน้ำ สามารถรดได้เป็นประจำเช้า-เย็น แต่บางชนิดก็ไม่ชอบน้ำ ควรรดประมาณ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือรดเฉพาะเมื่อหน้าดินเริ่มแห้ง
5. พื้นที่ในการวางกระถางต้นไม้
ทั่วไปแล้ว ควรวางกระถางต้นไม้ไว้ในบริเวณที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก มีแสงแดดส่องถึงรำไร แต่ต้นไม้บางประเภทก็ชอบแดดจัด จึงสามารถวางกระถางไว้ในที่ที่โดนแดดจัด ๆ ก็ได้ และควรเลือกวางเรียงกระถางให้ต้นไม้ถูกแสงแดดอย่างทั่วถึงกันด้วย
6. ตัดแต่งใบหรือพุ่มให้เป็นทรงอยู่เสมอ
สำหรับต้นไม้ทรงพุ่ม ควรหมั่นตัดใบแต่งพุ่ม เพื่อให้ต้นไม้แตกใบใหม่ และทำให้พุ่มแน่น ดูเป็นทรงมากขึ้นด้วย
ไม้ดอกสำหรับปลูกในกระถางหน้าบ้าน
1. ดาวเรือง
ดาวเรือง (Marigold) ไม้ดอกชื่อมงคล เพราะพ้องกับคำว่า รุ่งเรือง และสีเหลืองสื่อถึงเงินทอง หลายคนนิยมปลูกในกระถางแล้วตั้งไว้หน้าบ้าน เพราะนอกจากความสวยงามแล้ว ยังช่วยไล่แมลงและสัตว์มีพิษอย่างงูได้อีกด้วย
วิธีปลูกดาวเรือง
วิธีที่นิยมที่สุดคือการเพาะเมล็ด ใช้ดินร่วน หมั่นรดน้ำให้ชุ่มชื้น และวางกระถางต้นดาวเรืองไว้ในบริเวณที่แสงแดดส่องถึง
2. เบญจมาศ
เบญจมาศ (Chrysanthemum) ไม้ดอกไม้ประดับหลายสายพันธุ์หลากสี ที่ช่วยดูดซับมลพิษและกลิ่นไม่พึงประสงค์ให้กลายเป็นอากาศที่บริสุทธิ์ได้ นอกจากนี้ยังสามารถไล่แมลงและยุงได้ จึงเหมาะปลูกไว้หน้าบ้าน เพราะให้ดอกสีสันสวยงามและต้นก็ไม่ใหญ่เทอะทะจนเกินไปด้วย
วิธีปลูกเบญจมาศ
เบญจมาศนิยมขยายพันธุ์ด้วยการแยกหน่อและปักชำ ปลูกได้ดีในดินร่วนปนทราย ชอบแดดและน้ำมาก สามารถวางต้นเบญจมาศในบริเวณที่โดนแดดจัดได้ และควรรดน้ำบริเวณโคนต้น 2 ครั้ง เช้า-เย็นเป็นประจำทุกวัน
3. พิทูเนีย
พิทูเนีย (Petunias) ไม้ดอกสีสันสวยงาม มีหลายสี เช่น ชมพู ขาว และม่วง ขนาดเล็กกะทัดรัด ปลูกใส่กระถางตั้งไว้ช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับหน้าบ้าน นอกจากนี้ต้นพิทูเนียยังมีคุณสมบัติที่น่าสนใจอีกอย่างคือ สามารถปลูกเพื่อไล่แมลงและศัตรูพืชต่าง ๆ เช่น เพลี้ย และหนอนได้
วิธีปลูกพิทูเนีย
นิยมใช้วิธีการขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด ปลูกได้ดีในดินร่วนหรือดินทรายที่ระบายน้ำได้ดี ชอบน้ำและแดดจัด
4. แพนซี หรือหน้าแมว
แพนซี หรือหน้าแมว (Pansy) ไม้ดอกสวยสีสันสดใส มีทั้งดอกสีพื้นและมีลายแต้มคล้ายหน้าแมว นิยมปลูกเป็นไม้กระถาง เพื่อประดับตกแต่งบ้านเรือนให้สวยงาม สบายตา หรือจะปลูกลงแปลงดินหรือในสวนหินก็ดูสวยไปอีกแบบ
วิธีปลูกแพนซี
นิยมขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด ควรใช้ดินที่มีความชื้นสูงและวางกระถางไว้ในบริเวณที่มีแสงแดดรำไร นอกจากนี้ควรหมั่นเด็ดยอดเพื่อให้ได้พุ่มสวยและแน่น
5. เจอราเนียม
เจอราเนียม (Geranium) ลักษณะต้นเป็นพุ่ม ใบหยัก ออกดอกเป็นช่อ หลายสี เช่น แดง ชมพู ขาว ม่วง และส้ม มักจะออกดอกในช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ ของทุกปี นิยมปลูกในกระถางเพื่อประดับตกแต่งให้บ้านสวยงามน่าอยู่ นอกจากนี้ใบของต้นเจอราเนียมยังมีน้ำมันหอมระเหยคล้ายตะไคร้ฟุ้งออกมาตามธรรมชาติ ซึ่งสามารถไล่ยุงได้ผลดีเลย
วิธีปลูกเจอราเนียม
วิธีในการขยายพันธุ์เจอราเนียมที่ได้ผลดีที่สุดคือ การเพาะเมล็ดและการปักชำ ชอบดินร่วนปนทราย และควรปลูกในพื้นที่ที่มีอากาศเย็น
6. แคคตัส หรือกระบองเพชร
แคคตัส (Cactus) หรือกระบองเพชรกระถางจิ๋วที่ตอนนี้กลายเป็นพืชฮอตฮิต มีคนปลูกกันมากมาย เพราะปลูกง่าย ไม่ต้องดูแลมาก มีมากกว่า 2,000 สายพันธุ์ให้เลือกปลูก ทั้งทรงลำต้น สี หนาม และดอก ก็แตกต่างกันไปตามแต่ละสายพันธุ์ นิยมปลูกในกระถางเล็ก วางไว้ตามมุมต่าง ๆ หรือหน้าบ้านเพิ่มความสบายตาน่ามองมากยิ่งขึ้น
วิธีปลูกแคคตัส
นิยมปลูกด้วยการปักชำเพราะเห็นผลง่ายและเร็วกว่าการเพาะเมล็ด ไม่ชอบน้ำเยอะ แต่ต้องไม่ให้ขาดน้ำ จึงควรรดน้ำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และวางไว้ในบริเวณที่มีแสงแดดรำไร นอกจากนี้ควรหมั่นใส่ปุ๋ยและตัดส่วนที่เน่าเสียทิ้งด้วย
ไม้ใบปลูกในกระถางหน้าบ้าน
7. ลิ้นมังกร
ลิ้นมังกร (Devil Tongue, Mother-in-law’s Tongue, Snake Plant) พืชที่มีคุณสมบัติเด่นในการฟอกอากาศและกรองสารพิษต่าง ๆ ปลูกไม่ยุ่งยาก เลี้ยงดูง่าย ชอบแดดรำไร และไม่ต้องรดน้ำมากประมาณ 1-2 วันต่อครั้ง ใครที่อยากมีต้นไม้กระถางตั้งสวย ๆ หน้าบ้าน ก็ลองเอาลิ้นมังกรไปปลูกก็ได้นะ เพราะให้ทั้งความสวยงามแถมได้อากาศบริสุทธิ์เป็นของแถมด้วย
วิธีการปลูกลิ้นมังกร
ควรเลือกใช้กระถางทรงสูง ใช้ดินร่วนโปร่ง รดน้ำประมาณ 1-2 วันต่อครั้ง ไม่ต้องให้แฉะมาก และควรวางกระถางไว้ในบริเวณที่อากาศถ่ายเทและมีแสงแดดรำไร ข้อสำคัญคือ ควรหมั่นหมุนกระถางเพื่อให้ใบในฝั่งต่าง ๆ ได้รับแสงแดดอย่างทั่วถึงกัน
8. เศรษฐีเรือนใน
เศรษฐีเรือนใน (Spider Plant, Airplane Plant) ต้นไม้กระถาง ลักษณะเด่นอยู่ที่ใบเรียวยาว ขอบใบสีเขียว ตรงกลางใบเป็นสีขาว สามารถปลูกในกระถางวางประดับหน้าบ้าน ริมระเบียง รวมถึงปลูกในบ้านก็ได้เหมือนกัน นอกจากนี้ต้นเศรษฐีเรือนในยังมีคุณสมบัติดูดสารพิษต่าง ๆ และฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ได้
วิธีปลูกเศรษฐีเรือนใน
ขยายพันธุ์ด้วยการแยกต้นอ่อนและนำไปปลูกต่อ ชอบดินร่วนผสมทราย ปุ๋ยหมัก และเศษอิฐ ต้องการน้ำน้อย จึงควรรดน้ำเมื่อตอนหน้าดินแห้งเท่านั้น และควรวางกระถางไว้บริเวณที่มีแสงแดดรำไร
9. สาวน้อยประแป้ง
สาวน้อยประแป้ง (Dumb cane) ไม้ประดับที่นิยมปลูกในกระถางวางไว้บริเวณหน้าบ้านหรือตามมุมต่าง ๆ เพื่อตกแต่งทั้งนอกและในอาคารให้เกิดความสวยงาม น่ามอง ลักษณะใบใหญ่ พื้นใบสีเขียวและมีลายประด่างสีขาวแปลกตา มีข้อควรระวังคือ ทุกส่วนของต้นสาวน้อยประแป้งมีพิษ เมื่อสัมผัสโดยตรงอาจจะเกิดอาการระคายเคือง หากเผลอกินเข้าไปอาจถึงตายได้
วิธีปลูกสาวน้อยประแป้ง
นิยมขยายพันธุ์ด้วยการแตกหน่อ ใช้หน่อที่มีความสมบูรณ์แข็งแรง และนำไปปลูกในดินผสมปุ๋ยคอก ให้น้ำแบบพอดีวันละครั้ง และควรวางกระถางไว้บริเวณที่มีแสงแดดรำไร
10. กวักมรกต
กวักมรกต (Zamioculcas Zamiifolia, Emerald Palm, ZZ Plant) ต้นไม้ชื่อมงคล ช่วยกวักเงินกวักทอง กวักโชคลาภเข้าบ้าน ทำให้เป็นที่นิยมนำมาปลูกลงกระถางและตั้งไว้บริเวณหน้าบ้านหรือตามมุมต่าง ๆ นอกจากความสวยงามแล้ว ต้นกวักมรกตยังช่วยดูดสารพิษและฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ได้อีกด้วย
วิธีปลูกกวักมรกต
นิยมขยายพันธุ์ด้วยการแตกหน่อและการปักชำ ชอบดินร่วนผสมแกลบดำและกาบมะพร้าวหรือดินที่ระบายความชื้นได้ดี ไม่ชอบน้ำ จึงควรรดน้ำประมาณ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ก็เพียงพอ และควรวางกระถางไว้ในบริเวณที่มีแสงแดดรำไร
11. วาสนา
วาสนา (Cape of Good Hope, Dracaena) ต้นไม้ชื่อเป็นมงคลที่เชื่อกันว่า ถ้าปลูกไว้ในบ้านไหน จะทำให้บ้านนั้นมีโชควาสนา และยิ่งถ้าปลูกได้ดีจนออกดอก บ้านนั้นจะได้รับโชคลาภอันเป็นมงคลด้วย หลายบ้านจึงนิยมปลูกต้นวาสนาลงกระถางวางประดับไว้ที่หน้าบ้าน นอกจากตกแต่งบ้านเรือนให้สวยงามแล้ว ต้นวาสนายังช่วยฟอกอากาศและช่วยดูดซับสารพิษ ทำให้อากาศบริสุทธิ์ขึ้นได้ด้วย
วิธีปลูกวาสนา
นิยมขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ โดยเลือกกิ่งชำที่แข็งแรงปักลงในกระถางที่เตรียมดินร่วนผสมปุ๋ยหมักและแกลบเอาไว้ หมั่นรดน้ำเป็นประจำเช้า-เย็น และตั้งกระถางไว้ในบริเวณที่มีแสงแดดรำไร
12. ฟิโลใบหัวใจ
ฟิโลใบหัวใจ (Heart Leaf Philodendron) ไม้เลื้อยขนาดเล็กที่นิยมปลูกในกระถางประดับไว้ทั้งภายในและนอกอาคาร ลักษณะพิเศษของต้นนี้คือ ใบที่มีรูปร่างคล้ายหัวใจ สีเขียวมันวาว เป็นไม้ใบประดับที่ดูแลง่าย ทนทาน โตได้แม้อยู่ในที่แสงน้อย
วิธีปลูกฟิโลใบหัวใจ
การปักชำเป็นวิธีการขยายพันธุ์ฟิโลใบหัวใจได้ดีและง่ายที่สุด ไม่ค่อยชอบน้ำ ให้น้ำครั้งละ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ก็ได้ แต่ชอบความชื้น ควรฉีดละอองน้ำใส่ใบบ่อย ๆ และควรหมั่นเด็ดยอดเพื่อให้ใบแตกเป็นทรงพุ่มแน่นมากขึ้น
13. แก้วกาญจนา
แก้วกาญจนา (Aglaonema) ไม้ใบปลูกในกระถางประดับบ้านที่ดูแลง่าย และเติบโตได้ดีในทุกสภาพอากาศด้วย ใบของต้นแก้วกาญจนามีลักษณะป้อมคล้ายใบโพธิ์ สีเขียวเข้มเป็นมัน และมีลวดลายสีสันฉูดฉาด เช่น แดง ชมพู หรือจุดสีขาว ประปรายอยู่บนใบ ภายในลำต้นมียาง ถ้าสัมผัสอาจจะเกิดอาการคันและระคายเคืองเล็กน้อย
วิธีปลูกแก้วกาญจนา
ขยายพันธุ์ได้หลายวิธี เช่น ปักชำ เพาะเมล็ด แยกหน่อ หรือตอนยอด ชอบดินร่วนปนทรายที่ระบายน้ำได้ดี รดน้ำ 2 ครั้งเป็นประจำเช้า-เย็น และควรวางกระถางไว้ในบริเวณที่มีแสงแดดรำไร
14. เข็มริมแดง
เข็มริมแดง (Dragon Tree) ไม้ใบประดับที่มีรูปทรงแปลกตา ใบแหลมเป็นพุ่มแตกจากลำต้นที่ตั้งตรง โดดเด่นด้วยสีสันของใบที่มีทั้งสีเขียว สีเหลือง และสีแดง รวมกันอยู่ในใบเดียวอย่างลงตัว นิยมปลูกลงกระถางประดับไว้หน้าบ้านเรือนหรืออาคาร เพราะสวยงาม ปลูกง่าย และทนทาน
วิธีปลูกเข็มริมแดง
นิยมขยายพันธุ์ด้วยวิธีปักชำ ปลูกได้ในดินร่วนซุย ชอบอากาศเย็น ควรหมั่นรดน้ำทุกวัน และวางกระถางไว้ในบริเวณที่แสงแดดส่องถีง
15. บอนสี
บอนสี (Caladium) ไม้ประดับที่เป็นไม้มงคล เพราะมีความเชื่อว่า บ้านไหนที่ปลูกต้นบอนสี บ้านนั้นจะมีความสุขความเจริญ เป็นสิริมงคล และสมาชิกในบ้านจะอยู่กันอย่างมีความสุข ทำให้นิยมปลูกลงกระถางประดับไว้ตามบ้านเรือนที่อยู่อาศัย นอกจากชื่อเป็นมงคลแล้ว ต้นบอนสียังมีความสวยงามโดดเด่นคือ ใบที่มีสีสันหลากหลายแปลกตา เป็นเอกลักษณ์จนได้รับการยกย่องให้เป็น “ราชินีแห่งใบไม้” เลยทีเดียว
วิธีปลูกบอนสี
ขยายพันธุ์ได้หลายวิธี เช่น แยกหน่อ ผ่าหัว ผสมเกสร เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ และเพาะเมล็ด ชอบดินร่วนที่ระบายน้ำได้ดี ควรรดน้ำวันละ 1 ครั้ง และวางกระถางไว้ในบริเวณที่มีแสงแดดรำไร
หน้าบ้านของใครที่ยังดูโล่ง ๆ อยู่ ก็ลองหาต้นไม้ปลูกในกระถางเหล่านี้ไปปลูกไว้ เพื่อประดับตกแต่ง เพิ่มความสวยงาม สบายตา และทำให้บ้านดูน่าอยู่ขึ้นมากเลยนะคะ
อ่านเรื่องการปลูกต้นไม้แต่งบ้าน เพิ่มเติมได้ที่