แนวคิดการแต่งบ้านสไตล์ Wellness (เวลเนส) จัดสรรพื้นที่ในบ้านเพื่อให้อยู่สบายและดีต่อสุขภาพ เพื่อเป็นวันพักผ่อนในทุกวัน
ต่างคนต่างชอบสไตล์การแต่งบ้านต่างกันไป สำหรับใครที่อยากได้ไอเดียแต่งบ้านที่สร้างความสุขทั้งกายและใจ เราขอแนะนำการแต่งบ้านสไตล์ Wellness (เวลเนส) ที่สามารถตอบโจทย์การมีสุขภาพดีและทำให้บ้านเป็นสถานที่เหมาะกับการผ่อนคลายในทุกวันด้วย
องค์ประกอบบ้านสไตล์ Wellness
อากาศถ่ายเทดี
บ้านที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกจะดีต่อสุขภาพ เช่น การติดหน้าต่างบานใหญ่ เพดานสูง เป็นต้น รวมทั้งอาจปลูกต้นไม้ฟอกอากาศเพื่อช่วยสร้างความร่มรื่นและสดชื่นสบายตา
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่อันตรายต่อสิ่งแวดล้อม ดีต่อสุขภาพ เช่น งดใช้ไม้ย้อมสารเคมี วัสดุปูพื้นที่มีสารฟอร์มาลดีไฮด์ เนื่องจากจะไม่มีสารพิษจากการบำบัดลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ
ห้องรับประทานอาหารมีความเป็นส่วนตัว
การจัดห้องรับประทานอาหารในสภาพแวดล้อมที่ไม่วุ่นวาย มีความเงียบสงบ จะช่วยสร้างบรรยากาศที่ดี ทำให้มีความสงบและมีสติในการรับประทานอาหาร รวมทั้งต้องเลือกรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการที่ดีด้วย
มีแสงสว่างเพียงพอ
ช่วงเวลากลางวันถ้าแสงสว่างจากธรรมชาติที่ส่องมาภายในบ้านมีเพียงพอจะช่วยกระตุ้นให้เราตื่นตัวและทำงานอย่างกระฉับกระเฉง ถ้าแสงน้อยจะส่งผลให้ตาล้า ไม่สบายตา ปวดตา ปวดศีรษะ ช่วงเวลากลางคืนก็ควรควบคุมแสงไม่ให้เล็ดลอดเข้ามาในบ้านเพื่อไม่ให้รบกวนจังหวะการนอน
มีพื้นที่ให้ร่างกายได้เคลื่อนไหว
การทำให้ร่างกายแข็งแรงคือการเคลื่อนไหวร่างกาย เช่น ทำบันไดขึ้นชั้นต่าง ๆ หรือแบ่งพื้นที่ให้มีระดับความสูง-ต่ำต่างกัน หรือทำห้องฟิตเนสเล็ก ๆ ในบ้านก็ได้
การทำให้บ้านเย็นสบาย
การตกแต่งด้วยผ้าม่านกันความร้อน ช่วยลดแสงแดดจากภายนอกบ้านเข้ามา และเพิ่มความเย็นสบายภายในบ้านได้ รวมทั้งปูพรมทางเดิน ช่วยเพิ่มความอบอุ่นโดยเฉพาะช่วงที่อากาศหนาวเย็น คอยดักจับฝุ่นละอองไว้กับเส้นใย แถมยังช่วยลดการบาดเจ็บจากการลื่นล้ม
มีห้องเก็บเสียง
ภายในบ้านควรมีฉากกั้นป้องกันเสียงในแต่ละห้อง เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่น่าพึงพอใจ ไม้เป็นองค์ประกอบหนึ่งที่ช่วยได้ ไม้ไม่เพียงแต่ทำหน้าที่เป็นฉนวนเท่านั้น แต่ยังช่วยลดเสียงอีกด้วย เช่น การใช้วัสดุอย่างเทอร์โมวูดสำหรับปูพื้นและเพดาน เป็นต้น
มีมุมหรือห้องสำหรับผ่อนคลาย
ถ้าหาห้องทั้งห้องไม่ได้อาจหาเพียงมุมสงบสักมุมภายในบ้านเพื่อจัดสถานที่สำหรับพักผ่อน เช่น ระเบียงบ้าน มุมสวน ริมบ่อน้ำ เพิ่มเบาะรองนั่ง เก้าอี้หวาย หรือเสื่อ โต๊ะขนาดเล็กไว้วางเครื่องดื่มและหนังสือ หรืออ่างอาบน้ำไว้แช่ตัวในห้องน้ำ แค่นี้ก็ทำให้จิตใจได้ผ่อนคลายแล้ว
สร้างพื้นที่พบปะสังสรรค์ภายในบ้าน
การส่งเสริมปฏิสัมพันธ์ในครอบครัว ญาติมิตร หรือเพื่อนฝูง สามารถนำไปสู่ความสัมพันธ์เชิงบวกและทำให้มีความสุข เช่น การทำบาร์สำหรับอาหารเช้า การทำลานหน้าบ้านสำหรับปาร์ตี้
ออกแบบผสมผสานกับธรรมชาติ
การออกแบบบ้านด้วยธรรมชาติ เช่น การจัดสวน จะช่วยทำให้มีกำลังใจและกระปรี้กระเปร่า ทั้งต้นไม้ยังช่วยเพิ่มอากาศบริสุทธิ์และทำให้จิตใจสงบ
ไอเดียแต่งบ้านสไตล์ Wellness
การเชื่อมโยงกับธรรมชาติ
การอยู่ใกล้ธรรมชาติ เราสามารถเนรมิตบ้านของเราให้มีสวนเขียวขจีหรือน้ำเข้ามาเป็นองค์ประกอบ เช่น ปลูกต้นไม้ในบ้าน สร้างสระน้ำหรือนำน้ำพุเล็ก ๆ มาวาง เป็นต้น ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพกายและช่วยให้จิตใจสงบอีกด้วย
จัดบ้านให้เป็นระเบียบ
การทำให้บ้านมีระเบียบจะทำให้บ้านดูไม่รก มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น ถ้าหากสิ่งของนั้นมีความจำเป็นต้องใช้ แต่ไม่เป็นระเบียบ อาจหาชั้นวางหรือลิ้นชักแขวนผนังมาใส่ไว้ เช่น ห้องครัว หาขวดโหลมาใส่วัตถุดิบแห้งแล้ววางบนชั้นติดผนังเพื่อความเป็นระเบียบ เป็นต้น
สร้างจุดเชื่อมโยงกับภายนอก
การมีสุขภาพใจดีต้องเห็นวิวธรรมชาตินอกบ้าน เช่น ห้องครัวหลังบ้านหรือห้องนอนริมหน้าต่างเห็นวิวสวน ดาดฟ้าปลูกต้นไม้หรือพืชผักสวนครัว เป็นต้น
ใช้วัสดุเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
เฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านควรใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่มีโลหะหนัก ฟอร์มาลดีไฮด์ พีวีซี สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) ที่สามารถสร้างผลกระทบต่ออากาศและร่างกาย เช่น คลอโรฟอร์ม (Chloroform) เบนซีน (Benzene) ไวนิลคลอไรด์ (Vinyl Chloride) เป็นต้น