
เนื่องด้วยพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเข้าถึงพระราชหฤทัยถึงความรู้สึกของประชาชน จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดกิจกรรม "โครงการจิตอาสาประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์พระราชทาน" เพื่อทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายในพระราชพิธีถวายเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ซึ่งมีทั้งหมด 7 แบบด้วยกัน คือ ดอกดารารัตน์ ดอกกล้วยไม้ ดอกลิลลี่ ดอกกุหลาบ ดอกพุดตาล ดอกชบาหนู และดอกชบาทิพย์

1. ดอกดารารัตน์
ความหมาย : ดอกดารารัตน์ (Daffodil) หรือ นาร์ซิสซัส (Narcissus) ที่มาจากชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Narcissus Poeticus L. เป็นดอกไม้ที่แฝงไปด้วยความหมายอันลึกซึ้ง ซึ่งคำว่า "ดารา" หมายถึง ดวงดาว คือสิ่งที่อยู่สูงสุด ส่วนคำว่า "รัตน์" หมายถึง คือ สิ่งที่มีค่า นิยมใช้มอบให้แก่บุคคลอันเป็นที่รัก เพื่อบอกว่าไม่เคยหวังสิ่งใดตอบแทน นอกจากนี้ยังหมายถึงเกียรติยศ ความกล้าหาญ และสัญลักษณ์ของความหวัง อีกทั้งเป็นดอกไม้ทรงโปรดของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่เคยพระราชทานให้กับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถอยู่เสมอ เมื่อครั้งยังทรงศึกษาและประทับอยู่ที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์
ลักษณะ : มีถิ่นกำเนิดในแถบเมดิเตอร์เรเนียนและพบมากในเขตเมืองหนาว มีไม่ต่ำกว่า 50 สายพันธุ์ ซึ่งมีบางสายพันธุ์ที่อาจพบเห็นได้ในโซนเอเชีย ลำต้นมีความสูงประมาณ 6-20 นิ้ว ใบเรียวยาวออกตามลำต้น ดอกมีลักษณะคล้ายปากทรัมเป็ด มีทั้งกลีบดอกสีเหลืองทอง สีขาว และสีชมพู แต่ก็มีบางชนิดที่มี 2 สีในดอกเดียวกัน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ โดยเฉพาะดอกสีเหลือง
การปลูก : นิยมขยายพันธุ์ด้วยการนำหัวใต้ดินมาปลูก ในหลุมขนาดประมาณ 3-6 นิ้ว ดินที่เหมาะสำหรับการปลูกดอกดารารัตน์คือ ดินที่สามารถระบายน้ำได้ดี มีความเป็นกรดเล็กน้อยและโดนแสงแดดบ้าง หมั่นดูแลรดน้ำเป็นพิเศษในช่วงที่ดอกกำลังเจริญเติบโต แล้วค่อยลดลงตามลำดับ พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงการบำรุงด้วยปุ๋ยที่มีไนโตรเจนสูง
++++++++++++++++++++++++++++++

2. ดอกกล้วยไม้
ความหมาย : ดอกกล้วยไม้ เป็นสัญลักษณ์ของความมั่นคง ความรัก และความสง่างาม สมดังพระมหากรุณาธิคุณในการบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการของ พระบามสมเด็จพระปรมิทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนารถบพิตร ให้ขจรขจายไปทั้งแผ่นดินไทยตลอดการถึงนานาประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ยังถือเป็นดอกไม้มงคล ซึ่งมีความหมายถึงการประสบความสำเร็จ การงานราบรื่น และการมีมิตรภาพที่ดีอีกด้วย
ลักษณะ : การแบ่งประเภทกล้วยไม้จะแบ่งตามระบบราก ซึ่งมี 3 ประเภทด้วยกันคือ รากกึ่งดิน รากกึ่งอากาศ และรากอากาศ ลักษณะลำต้นเป็นข้อปล้องอวบน้ำ มีใบเลี้ยงเดี่ยว ส่วนรูปทรงและสีสันของดอกกล้วยไม้นั้นแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ ส่วนสายพันธุ์ที่นิยมปลูก ได้แก่ แคทรียา แวนด้า รองเท้านารี ฯลฯ (กล้วยไม้ เรื่องน่ารู้ก่อนปลูกและ 10 สายพันธุ์ยอดนิยม)
การปลูก : เริ่มจากนำกระถางมารองก้นด้วยถ่านไม้และใส่ออสมันด้า กดวัสดุปลูกให้เป็นหลุมแล้วนำต้นกล้ากล้วยไม้วางลงไป หมั่นดูแลรดน้ำด้วยน้ำสะอาดที่มีค่า pH เป็นกลาง ในช่วง 2-3 วันแรก และใส่บำรุงปุ๋ยในช่วงก่อนเที่ยงวัน
++++++++++++++++++++++++++++++

3. ดอกลิลลี่
ความหมาย : ดอกลิลลี่เป็นดอกไม้ที่สื่อถึงความรักอันบริสุทธิ์เช่นเดียวกับดอกกุหลาบสีขาว อีกทั้งยังเป็นการแสดงออกถึงความซื่อสัตย์และเทิดทูนด้วยอานุภาพแห่งความจงรักภักดีของพสกนิกรชาวไทยที่มีต่อ พระบามสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิอดุลยเดช และความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
ลักษณะ : ดอกไม้เมืองหนาวที่มีต้นกำเนิดในประเทศจีน มีความสวยงามจนได้รับสมญานามว่าดอกไม้ของเจ้าหญิง เป็นต้นไม้ที่มีหัวอยู่ใต้ดิน ซึ่งขนาดจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อโตเต็มที่ก็จะเกิดยอดใหญ่ที่เจริญเติบโตไปเป็นลำต้นเหนือดิน ส่วนที่ยอดของลำต้นเหนือดินนั้นก็มีช่อดอก แต่ละดอกมีกลีบดอก 6 กลีบ ซึ่งมีทั้งสีขาว ชมพู ส้ม แดง ม่วง และในหนึ่งต้นอาจมี 2 สีในดอกเดียวกันหรือมีจุดประบนกลีบดอก
การปลูก : ส่วนใหญ่นิยมขายพันธุ์ลิลลี่ด้วยการแยกหัวไปปลูก เพราะทำง่ายกว่าการเพาะเมล็ดหรือเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ โดยใช้หัวย่อยจากส่วนที่อยู่ใต้ดินหรือซอกใบปลูกในดินร่วนปนทรายหรือใส่อินทรีย์วัตถุผสมลงไปในดิน เพื่อให้ดินเก็บความชื้นและระบายน้ำได้ดีขึ้น หลังจากแยกหัวจากต้นแม่แล้วควรนำไปปักชำให้เร็วที่สุด เพื่อลดการสูญเสียน้ำ หรือเร่งรากด้วยการนำไปจุ่มน้ำสกัดชีวภาพก่อนลงดิน ทั้งนี้เหมาะที่จะปลูกในโรงเรือนพลาสติกที่สุด เพราะสามารถควบคุมแสงและอุณหภูมิได้ ดูแลด้วยการรดน้ำตอนเช้า ให้ดินชั้นบนชื้นและมากพอที่จะซึมลงสู่ราก แต่ไม่แฉะ ที่สำคัญควรระวังไม่ให้น้ำโดนช่อดอก
++++++++++++++++++++++++++++++

4. ดอกกุหลาบ
ความหมาย : สัญลักษณ์ของความรักที่บริสุทธิ์ด้วยอานุภาพแห่งความจงรักภักดีของทวยราษฎร์ที่ระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและถวายความอาลัยเป็นครั้งสุดท้ายแด่ พระบามสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ผู้เป็นกษัตริย์ที่รักยิ่งของคนไทย
นอกจากนี้ยังเชื่อว่าเป็นต้นไม้มงคล นิยมปลูกไว้ตกแต่งสวนเพิ่มความสดชื่นสวยงามและได้รับฉายาว่า ราชินีแห่งอุทยาน (Queen of the Garden) หากนำมาปลูกไว้ก็จะช่วยเสริมความสง่างามภาคภูมิและเสริมสิริมงคลให้มีชีวิตที่เจริญก้าวหน้าอีกด้วย
ลักษณะ : เป็นไม้ยืนต้นพุ่มเล็ก มีความสูงตั้งแต่ 30-200 เซนติเมตร บางพันธุ์มีหนามที่ลำต้น ในขณะที่บางพันธุ์ก็ไม่มี ใบมีลักษณะโค้งมน ปลายแหละ ขอบใบมีหยักเล็กน้อย ออกดอกที่ปลายยอด กลีบดอกซ้อนกัน 4-6 ชั้น มีทั้งสีแดง สีชมพู สีขาว และสีเหลือง มีกลิ่นหอม
การปลูก : การปลูกดอกกุหลาบ นั้นมีหลายวิธีทั้งการเพาะเมล็ด การตอน การทาบกิ่ง การติดตา แต่ที่นิยมมากสุดคือ การปักชำ โดยตัดก้านกุหลาบส่วนที่มีกิ่งแยกออกมา ไปปักลงในกระถางใส่ดินร่วนหรือดินร่วนปนทราย ผสมกับแกลบและเศษใบไม้ ดูแลรดน้ำสม่ำเสมอ อย่าให้แฉะจนเกินไป ประมาณ 5-7 วันต่อครั้ง หมั่นใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกเดือนละ 1-2 ครั้ง
ความหมาย : สัญลักษณ์ของความรักที่บริสุทธิ์ด้วยอานุภาพแห่งความจงรักภักดีของทวยราษฎร์ที่ระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและถวายความอาลัยเป็นครั้งสุดท้ายแด่ พระบามสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ผู้เป็นกษัตริย์ที่รักยิ่งของคนไทย
นอกจากนี้ยังเชื่อว่าเป็นต้นไม้มงคล นิยมปลูกไว้ตกแต่งสวนเพิ่มความสดชื่นสวยงามและได้รับฉายาว่า ราชินีแห่งอุทยาน (Queen of the Garden) หากนำมาปลูกไว้ก็จะช่วยเสริมความสง่างามภาคภูมิและเสริมสิริมงคลให้มีชีวิตที่เจริญก้าวหน้าอีกด้วย
ลักษณะ : เป็นไม้ยืนต้นพุ่มเล็ก มีความสูงตั้งแต่ 30-200 เซนติเมตร บางพันธุ์มีหนามที่ลำต้น ในขณะที่บางพันธุ์ก็ไม่มี ใบมีลักษณะโค้งมน ปลายแหละ ขอบใบมีหยักเล็กน้อย ออกดอกที่ปลายยอด กลีบดอกซ้อนกัน 4-6 ชั้น มีทั้งสีแดง สีชมพู สีขาว และสีเหลือง มีกลิ่นหอม
การปลูก : การปลูกดอกกุหลาบ นั้นมีหลายวิธีทั้งการเพาะเมล็ด การตอน การทาบกิ่ง การติดตา แต่ที่นิยมมากสุดคือ การปักชำ โดยตัดก้านกุหลาบส่วนที่มีกิ่งแยกออกมา ไปปักลงในกระถางใส่ดินร่วนหรือดินร่วนปนทราย ผสมกับแกลบและเศษใบไม้ ดูแลรดน้ำสม่ำเสมอ อย่าให้แฉะจนเกินไป ประมาณ 5-7 วันต่อครั้ง หมั่นใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกเดือนละ 1-2 ครั้ง
++++++++++++++++++++++++++++++

5. ดอกพุดตาน
ความหมาย : ดอกไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ของความมั่นคงและอุดมสมบูรณ์ ซึ่งชาวจีนยกให้เป็นต้นไม้มงคล เพราะสามารถเปลี่ยนสีได้ถึง 3 สีภายในวันเดียวกัน เปรียบเหมือนกันวัฏจักรของมนุษย์ ที่เริ่มต้นจากเด็กน้อย ก่อนจะเป็นผ้าขาวที่ถูกแต่งแต้มสีสันตามเวลา จนกระทั่งเริ่มเข้าสู่วัยชราพร้อมกับสีที่เข้มขึ้น แล้วค่อย ๆ ร่วงโรยจากไป เพื่อเป็นการระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและพระราชกุศลอุทิศถวายครั้งสุดท้ายแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนารถบพิตร
ลักษณะ : เป็นไม้พุ่มขนาดกลาง ความสูงประมาณ 1-3 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยว โคนใบรูปหัวใจ ปลายใบแหลม มีขนปกคลุม ซึ่งดอกพุดตานนี้มีอีกชื่อหนึ่งว่า ดอกสามสี โดยดอกที่เริ่มบานจะเป็นสีขาว แล้วค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีชมพูและแดงภายใน 1 วัน ออกดอกตลอดปี ส่วนกลีบดอกนั้นมีทั้งแบบกลีบซ้อนและไม่ซ้อน อีกทั้งมีผลกลมและมีขน เมื่อแก่จะแตกออกเป็น 5 แฉก
การปลูก : การขยายพันธุ์พุดตานนั้นทำได้ทั้งการเพาะเมล็ด ปักชำ และตอนกิ่ง เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุย พื้นที่กลางแจ้ง มีแสงแดดจัด ต้องการนำและความชื้นปานกลาง ไม่ชอบที่แฉะหรือมีน้ำขัง
++++++++++++++++++++++++++++++

6. ดอกชบาหนู
ความหมาย : ดอกชบาหนู เป็นดอกไม้ที่เปรียบเสมือนความอาลัยในการสูญเสียของพสกนิกรทุกหมู่เหล่า และเป็นสัญลักษณ์ที่แทนดวงใจไทยทุกดวง ในการน้อมส่งเสด็จ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนารถบพิตร ในการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ
ลักษณะ : ชบาหนู มีอีกชื่อหนึ่งว่า "ชบาหลอด" หรือ "ชบาร่ม" เป็นไม้พุ่มสูงประมาณ 1 เมตร สีลำต้นออกเทาเล็กน้อย ใบเดี่ยวคล้ายรูปหัวใจ โดยมีลักษณะโคนใบมน ปลายใบแหลม ขอบใบหยักหรือเป็นแฉกตื้น ๆ ออกดอกตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ฐานดอกมีริ้วประดับสีเขียว กลีบดอกม้วนซ้อนกันสีแดง จะเผยออกมาเพียงเล็กน้อยเมื่อบาน มีผลกลมที่พอสุกจะเป็นสีส้มแดง
การปลูก : สามารถขยายพันธุ์ชบาหนูได้ ทั้งวิธีตอนกิ่งและปักชำ ดินที่เหมาะในการปลูกคือดินร่วนหรือดินที่ระบายน้ำได้ดี ชอบความชื้นปานกลางหรือต่ำ และพื้นที่ที่ปลูกควรโดนแสงตลอดวัน
ดอกไม้ทุกแบบล้วนถูกคัดสรรมาอย่างดี ทั้งรูปลักษณ์ที่สวยงามและแฝงไปด้วยความหมายสุดลึกซึ้ง เพื่อเป็นการการระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและพระราชกุศลอุทิศถวายครั้งสุดท้ายแด่ พระบามสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ขอขอบคุณข้อมูลจาก สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน, ฝ่ายส่งเสริมและเผยแพร่การประชาสัมพันธ์ ส่วนแผนงานและพัฒนางานประชาสัมพันธ์, คณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, thaikasetsart, สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, หมอชาวบ้าน, panmai, สารานุกรมพรรณไม้, มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์