รวมเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการไหว้ตรุษจีน พิธีกรรมสำคัญในวันขึ้นปีใหม่ของคนจีน ที่มีมานานตั้งแต่สมัยโบราณ แถมยังสืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน ต้องเตรียมบ้านอย่างไร ตั้งโต๊ะแบบไหน ใช้อะไรบ้าง ไหว้กี่โมง ใช้ธูปกี่ดอก
เมื่อพูดถึงวันตรุษจีน นอกเหนือจาก "อั่งเปา" "แต๊ะเอีย" หรือคำอวยพรว่า "ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้" แล้ว พิธีไหว้ในวันตรุษจีนก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะชาวจีนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการไหว้มาก ๆ เรียกได้ว่าไหว้กันเกือบทุกเทศกาล ฉะนั้นเนื่องในโอกาสตรุษจีน 2567 (วันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567) กระปุกดอทคอมจึงขอนำวิธีเตรียมบ้านให้พร้อมก่อนไหว้ตรุษจีน วิธีจัดโต๊ะไหว้ตรุษจีน และความหมายของไหว้ตรุษจีนมาฝาก ทว่าก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับเทศกาลตรุษจีน กันสักหน่อยดีกว่าค่ะ
วันตรุษจีนคืออะไร
วันตรุษจีนเป็นวันขึ้นปีใหม่ของคนจีน คล้ายกันกับที่วันสงกรานต์เป็นวันขึ้นปีใหม่ของคนไทย ดังนั้นเราจึงจะได้เห็นชาวจีนทั่วโลกเฉลิมฉลองกันอย่างยิ่งใหญ่ในวันนี้ เพราะทุกคนล้วนให้ความสำคัญกับเทศกาลนี้มาก เนื่องจากเชื่อกันว่ามีมานานกว่า 4,000 ปีแล้ว โดยเดิมทีตรุษจีนเป็นเทศกาลที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งกำหนดการเดิมถือว่าวันที่ 30 เดือน 12 ตามปฏิทินจีน เป็นวันส่งท้ายปีเก่า ส่วนวันที่ 1 เดือน 1 ตามปฏิทินจีน เป็นวันแรกของฤดูใบไม้ผลิ วันขึ้นปีใหม่ วันตรุษจีน หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งได้ว่า วันชิวอิก นั่นเอง
ส่วนกำหนดการสำหรับการเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน ส่วนใหญ่แล้วจะเริ่มตั้งแต่ 1 เดือน ก่อนถึงวันตรุษจีน โดยจะมีวันสำคัญหลัก ๆ 3 วัน ได้แก่
วันจ่ายตรุษจีน : วันจ่ายหรือตื่อเล็ก เป็นวันที่ชาวจีนจะออกไปหาซื้ออาหาร ผลไม้ และเครื่องเซ่นไหว้ต่าง ๆ มาเตรียมไว้ให้พร้อมก่อนร้านค้าหยุดยาว โดยจะตรงกับวันก่อนสิ้นปี ซึ่งในปีนี้ก็คือ วันพฤหัสบดี ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567
วันไหว้ตรุษจีน : วันไหว้หรือวันสิ้นปี เป็นวันที่ชาวจีนจะทำการไหว้เทพเจ้าต่าง ๆ ด้วยอาหาร ผลไม้ และของเซ่นไหว้ที่ซื้อเตรียมไว้ก่อนหน้านี้ โดยจะตรงกับวันสิ้นปี ซึ่งในปีนี้ก็คือ วันศุกร์ ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567
วันเที่ยวตรุษจีน : วันเที่ยว วันปีใหม่ หรือวันตรุษจีน เป็นวันที่ชาวจีนจะแต่งตัวสวยงามและพากันออกไปเที่ยว รวมถึงไปขอพรญาติผู้ใหญ่ที่เคารพด้วย โดยจะถือเป็นวันแห่งสิริมงคล งดทำบาปทุกชนิด ซึ่งในปีนี้ก็คือ วันเสาร์ ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567
1. ทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่
ชาวจีนส่วนใหญ่จะเตรียมทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่ก่อนถึงวันตรุษจีน เพราะเชื่อว่าเป็นการปัดสิ่งอัปมงคลของปีเก่าออกไป พร้อมต้อนรับสิ่งมงคลของปีใหม่เข้าบ้าน อีกทั้งบ้านที่สะอาด เรียบร้อย ไม่รกรุงรัง ยังทำให้พลังงานชี่ไหลเวียนอย่างเต็มที่ และเป็นการเปิดทางให้เงินทองไหลมาเทมาด้วย ซึ่งการทำความสะอาดจะไล่ตั้งแต่ชั้นบนลงชั้นล่าง เน้นบริเวณหน้าบ้านที่เป็นจุดเริ่มต้น ห้องครัวที่เป็นจุดรับโชคลาภ และห้องนอนที่เป็นจุดความสัมพันธ์ เป็นหลัก
2. ตกแต่งบ้านให้สวยรับปีใหม่
ชาวจีนส่วนใหญ่มักจะตกแต่งบ้านกันตั้งแต่ก่อนถึงวันตรุษจีนหรือไม่ก็ในวันส่งท้ายปีเก่า เพราะเชื่อว่าของมงคลต่าง ๆ ช่วยขับไล่สิ่งชั่วร้าย และเป็นการขอพรให้อายุยืนยาว สุขภาพดี และมีความสงบสุขไปในตัว โดยของมงคลแต่งบ้านมักจะเป็นสีมงคล ได้แก่ สีแดงหรือสีทอง ส่วนสิ่งของตกแต่งต่าง ๆ ได้แก่ โคมไฟสีแดง เปเปอร์คัตติ้ง ตุ้ยเหลียน กระดาษฟู ภาพมงคล กระดิ่ง ระฆัง และของที่มีสัญลักษณ์ประจำปี รวมถึงต้นไม้ต่าง ๆ เช่น ส้มจี๊ด หรือดอกเหมย เป็นต้น
ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้...เปิดศักราชใหม่ด้วย 9 ของแต่งบ้านมงคลควรมี !!
1. ห้ามทำความสะอาดบ้าน
ชาวจีนเชื่อว่าการทำความสะอาดบ้าน ปัด กวาด เช็ด ถู ล้างจาน หรือแม้แต่ทิ้งขยะในวันตรุษจีน เป็นการนำโชคลาภและเงินทองออกจากบ้าน ฉะนั้นพวกเขาจะไม่ทำความสะอาดบ้านทุกประเภทในวันปีใหม่เด็ดขาด เรียกได้ว่าถ้าหากจัดงานส่งท้ายปีเก่า ก็ต้องรีบเคลียร์ของก่อนเที่ยงคืน หรืออย่างมากสุดก็อาจจะแค่กวาดเศษฝุ่นไปกองรวมไว้มุมบ้านแล้วค่อยเคลียร์ทิ้งในวันถัดไป ซึ่งปกติแล้วชาวจีนมักจะทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่ก่อนวันปีใหม่อยู่แล้ว จึงไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องความสกปรกมาก ส่วนระยะเวลาที่เหมาะจะกลับมาทำความสะอาดบ้านอีกครั้งก็คือ ตั้งแต่วันที่ 3 ของปีใหม่เป็นต้นไปนั่นเอง
2. ห้ามทำของแตก
ชาวจีนเชื่อว่าการทำของแตกในวันตรุษจีน เป็นลางร้ายที่บอกว่าครอบครัวจะแตกแยกหรือมีคนเสียชีวิต ฉะนั้นพวกเขาจะระมัดระวังและไม่ทำสิ่งของแตกหรือชำรุดเด็ดขาด แต่ถ้าหากเผลอทำพลาดโดยไม่ตั้งใจ ก็สามารถแก้เคล็ดได้ด้วยการพูดว่า "luo di kai hua" ที่แปลว่า ดอกไม้จะเบ่งบานเมื่อตกลงสู่พื้น
3. ห้ามใช้ของมีคม
ชาวจีนเชื่อว่าการใช้ของมีคมตัดสิ่งของในวันตรุษจีน ถือเป็นการตัดโชคดีไปด้วย ฉะนั้นพวกเขาจะไม่ใช้ของมีคม เช่น มีดและกรรไกร ในวันปีใหม่เด็ดขาด
4. ห้ามซักผ้าในวันตรุษจีน
ชาวจีนเชื่อว่าเทพเจ้าแห่งน้ำเกิดในวันตรุษจีน ฉะนั้นการซักผ้าในวันตรุษจีนจึงเปรียบเสมือนเป็นการลบหลู่ท่านนั่นเอง
5. ห้ามเข้าไปในห้องนอนคนอื่นและห้ามให้คนอื่นเข้าห้องนอน
ชาวจีนเชื่อว่าการเข้าไปในห้องนอนคนอื่นหรือให้คนอื่นเข้าห้องนอนในวันตรุษจีน ถือเป็นโชคร้ายอย่างมาก ฉะนั้นพวกเขาจะไม่เข้าไปหาใครในห้องนอนเด็ดขาด แม้กระทั่งคนที่ป่วยหนัก ถ้าหากมีแขกมาเยี่ยม ก็ต้องออกมารอรับในห้องรับแขกเท่านั้น
แบ่งการไหว้ออกเป็น 3 ช่วง คือ
- ช่วงเช้ามืด คือ การไหว้เทพเจ้าต่าง ๆ ด้วยเครื่องไหว้ที่เป็นเนื้อสัตว์ 3 อย่าง คือ หมูสามชั้นต้ม ไก่ต้ม เป็ดต้ม พร้อมทั้งเหล้า น้ำชา และกระดาษเงิน-กระดาษทอง โดยจะกระทำในช่วง 7-8 โมงเช้า
- ช่วงสาย คือ การไหว้บรรพบุรุษที่เสียชีวิตแล้ว ด้วยซาแซ อาหารคาว-หวาน รวมถึงเผากระดาษเงิน-กระดาษทอง พร้อมเสื้อผ้าให้กับบรรพบุรุษ กระทำไม่เกินเที่ยงวัน นอกจากนี้หลังจากที่ทุกคนในครอบครัวร่วมรับประทานอาหารไหว้บรรพบุรุษเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะมีการแลกเปลี่ยนอั่งเปากันอีกด้วย
- ช่วงบ่าย คือ การไหว้ผีไม่มีญาติ ด้วยข้าว กับข้าว ขนม เช่น ขนมเข่งกับขนมเทียน และกระดาษเงิน-กระดาษทอง รวมถึงมีการจุดประทัดเพื่อปัดเป่าไล่สิ่งชั่วร้ายด้วย (ประมาณบ่ายโมงถึง 4 โมงเย็น)
วิธีจัดโต๊ะไหว้ในวันตรุษจีนส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับธรรมเนียมปฏิบัติที่สืบทอดกันมาในแต่ละครอบครัว ไม่ได้มีแบบแผนชัดเจน จึงอาจมีความแตกต่างกันเล็กน้อย ทว่าอย่างไรโครงสร้างหลักก็จะคล้าย ๆ กัน ดังต่อไปนี้
- วางโต๊ะไหว้ไว้หน้าเทวรูปหรือแท่นบูชา
- วางกระถางธูปไว้ด้านในสุดของโต๊ะ จัดให้อยู่หน้าเทวรูปหรือแท่นบูชาพอดี ซึ่งบางบ้านอาจจะปักกิมฮวยเอาไว้ในกระถางธูปด้วย
- วางเชิงเทียนคู่ขนาบข้างซ้าย-ขวา ของกระถางธูป
- วางโถกำยานไว้ด้านหน้าของกระถางธูป
- วางแจกันดอกไม้ขนาบข้างซ้าย-ขวา ของโถกำยาน แต่อย่าให้บังเชิงเทียนคู่ กรณีที่บ้านไหนไม่มีโถกำยาน ให้วางแจกันดอกไม้ขนาบข้างซ้าย-ขวา ของเชิงเทียนคู่แทน
- วางถ้วยน้ำดื่มไว้ด้านหน้าโถกำยาน
- วางถ้วยน้ำชาและถ้วยเหล้าไว้ด้านหน้าถ้วยน้ำดื่ม ทั้งนี้ จำนวนถ้วยน้ำดื่มต้องเท่ากับถ้วยน้ำชาและถ้วยเหล้าเสมอ โดยส่วนใหญ่จะมีจำนวนเท่ากับจำนวนบรรพบุรุษ แต่จำกัดสูงสุดอยู่ที่ไม่เกิน 5 ถ้วย
- วางเครื่องคาวหรือกับข้าวไว้ด้านหน้าถ้วยน้ำชาและถ้วยเหล้า ให้เลือกที่เป็นมงคล 5 อย่าง หรือไม่เกิน 10 อย่าง รวมถึงข้าวสวย 2 ถ้วย แบบตักให้พูนถ้วยด้วย
- วางเนื้อสัตว์ 3 อย่าง (ซาแซ) หรือเนื้อสัตว์ 5 อย่าง (โหงวแซ) ไว้ด้านหน้าของเครื่องคาว จัดวางให้หันหน้าไปในทิศทางเดียวกัน
- วางเครื่องหวานและผลไม้หน้าเนื้อสัตว์ ให้เลือกที่เป็นมงคล 3 อย่าง หรือ 5 อย่าง ทั้งนี้ จำนวนเครื่องคาวต้องเท่ากับเครื่องหวานและผลไม้เสมอ แต่ไม่จำเป็นต้องเท่ากับจำนวนถ้วยน้ำดื่ม ถ้วยน้ำชา และถ้วยเหล้าก็ได้
- วางกระดาษเงิน-กระดาษทองเป็นลำดับสุดท้าย
วิธีการเลือกเครื่องไหว้ ของไหว้ สำหรับวันตรุษจีน ควรเลือกให้มีชื่อหรือความหมายที่เป็นมงคล ตัวอย่างเช่น
อาหาร
- หมู หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์
- เป็ด หมายถึง ความบริสุทธิ์และความสะอาด
- ไก่ หมายถึง ความขยันขันแข็งและความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ถ้าหากเป็นไก่เต็มตัว หมายถึง ความสมบูรณ์
- ปลา หมายถึง เหลือกินเหลือใช้ อุดมสมบูรณ์
- ปลาหมึก หมายถึง เหลือกินเหลือใช้ (เหมือนปลา)
- ถั่วตัด หมายถึง แท่งเงิน
- เม็ดบัว หมายถึง การมีลูกชายจำนวนมาก
- หน่อไม้ หมายถึง การอวยพรให้ร่ำรวย
- สาหร่ายทะเลสีดำ หมายถึง ความมั่งคั่งร่ำรวย
- บะหมี่ยาว หมี่ซั่ว หรือฉางโซ่วเมี่ยน หมายถึง อายุยืนยาว
ทั้งนี้ ควรหลีกเลี่ยงเต้าหู้ขาวอย่างเด็ดขาด เพราะว่าสีขาวถือเป็นสีสำหรับงานโศกเศร้า
ผลไม้
- กล้วย หมายถึง เรียกโชคลาภ ลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมือง
- องุ่น หมายถึง ความเพิ่มพูน
- สาลี่ หมายถึง โชคลาภมาถึง (แต่ไม่นิยมใช้ไหว้บรรพบุรุษและผีไม่มีญาติ)
- แอปเปิล หมายถึง ความสันติสุข สันติภาพ
- ส้มสีทอง หมายถึง ความสวัสดีมหามงคล
- สับปะรด หมายถึง มีโชคมาหา
ขนมหวาน
- ขนมเข่ง หมายถึง ความหวานชื่น ราบรื่นในชีวิต
- ขนมเทียน หมายถึง ความหวานชื่นและความราบรื่น
- ขนมไข่ หมายถึง ความเจริญเติบโต
- ขนมถ้วยฟู หมายถึง ความเพิ่มพูนรุ่งเรือง
- ขนมสาลี่ หมายถึง ความรุ่งเรืองและความเฟื่องฟู
- ซาลาเปา หรือหมั่นโถว หมายถึง ห่อโชคหรือโชคดี
- จันอับ (จั๋งอั๊บ) หมายถึง ความหวานที่เพิ่มพูน มีความสุขตลอดไป
ในเมื่อได้รู้ข้อมูลเกี่ยวกับการไหว้วันตรุษจีนไปพอสมควรแล้ว ก็หวังว่าคนไทยเชื้อสายจีนทั้งหลาย จะนำไปปรับใช้กันได้อย่างถูกต้อง อ้อ แล้วสุดท้ายนี้กระปุกดอทคอมก็ต้องขอสวัสดีปีใหม่จีน ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ นะคะ
บทความที่เกี่ยวข้องกับ วันตรุษจีน :
ขอบคุณข้อมูลจาก tescolotus, chinahighlights และ edition.cnn