รวมสายพันธุ์ต้นสนทนแล้ง สู้แดด สามารถเลือกปลูกประดับสวนเพิ่มความร่มรื่น รวมทั้งเสริมสิริมงคลด้านชื่อเสียงและอำนาจ
ต้นสน เป็นต้นไม้อีกชนิดที่น่าสนใจนำมาจัดสวน เนื่องด้วยมีความทนแล้งเหมาะกับสภาพอากาศบ้านเรา บางสายพันธฺุ์มีกลิ่นหอมสามารถไล่ยุงได้ และด้วยชื่อเป็นมงคลช่วยเสริมฮวงจุ้ยด้วย วันนี้เราขอนำเสนอสายพันธุ์ต้นสน 9 ชนิด ได้แก่ ต้นสนฉัตร ต้นสนหอม ต้นสนหางกระรอก ต้นสนประดิพัทธ์ ต้นสนแผง ต้นสนมังกร สนเลื้อย สนสาหร่าย และสนสามใบ ใครมีพื้นที่บ้านว่าง ๆ ลองหาซื้อไปปลูกกันเลย
ต้นสน ลักษณะ
ต้นสน (Pine) เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงใหญ่ ลำต้นตั้งตรง สูงตั้งแต่ 1-60 เมตร มีทั้งต้นสนสายพันธุ์พื้นเมืองไทย ได้แก่ สนสองใบกับสนสามใบ และต้นสนต่างถิ่นหรือมีถิ่นกำเนิดจากต่างประเทศ เช่น สนคาริเบียน สนคาร์ปา และสนเทคูนูมานี่ โดยส่วนใหญ่กิ่งก้านแตกออกเป็นชั้น ๆ คล้ายทรงฉัตร เกือบทุกสายพันธุ์มีใบสีเขียวตลอดปี แต่บางชนิดใบเปลี่ยนสีในหน้าหนาว ใบสนมีหลายแบบทั้งรูปเข็ม รูปลิ่ม และเกล็ด ดอกออกเป็นช่อตามยอดลำต้นหรือปลายกิ่ง สามารถปลูกได้ทุกสภาพอากาศ
ต้นสนความหมาย
มีความเชื่อกันว่าการปลูกต้นสนจะช่วยส่งเสริมให้ผู้ปลูกมีความสนใจในสิ่งที่ดีงาม มีความสง่า และมีเกียรติ นอกจากนี้หากปลูกในวันเสาร์และปลูกไว้ทางทิศเหนือของบ้านก็จะช่วยเสริมความเป็นมงคลยิ่งขึ้น
ต้นสนชนิดต่าง ๆ
1. ต้นสนฉัตร
ต้นสนฉัตร (Norfolk lsland Pine) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Araucaria cookii R.Br.(Salisb.) Franco มีถิ่นกำเนิดในแอฟริกาใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และเกาะนอร์ฟอล์ก เชื่อว่าเป็นไม้มงคลเสริมบารมีและชื่อเสียง เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงใหญ่ สูงตั้งแต่ 5-60 เมตร เปลือกลำต้นสีน้ำตาล กิ่งและใบแตกออกมาจากต้นเป็นชั้น ๆ จากโคนถึงยอด โคนต้นมีชั้นใหญ่และเล็กลงจนถึงยอดคล้ายฉัตร ใบสีเขียว ปลายใบมีขนาดเล็กแหลมขึ้นเรียงซ้อนกันเป็นเกล็ดหนาทึบ ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดและการปักชำ ชอบแสงแดดปานกลางจนถึงแสงแดดจัด ต้องการปริมาณน้ำมาก ควรให้น้ำ 3-5 วัน/ครั้ง ชอบดินร่วนซุย สามารถปลูกได้ดีในกระถาง เมื่อต้นสนฉัตรมีอายุเกิน 5 ปี ควรนำมาปลูกในแปลงปลูกเพราะพุ่มจะโตสวย
2. ต้นสนหอม
ต้นสนหอม หรือหลิวหอมแอฟริกา มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Juniperus sp. เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก สูงประมาณ 2-10 เมตร ใบแตกกิ่งก้านตามลำต้น เปลือกสีน้ำตาลเทาถึงเข้ม ใบเป็นใบเดี่ยวรูปหอกออกเรียงตรงข้ามสลับตั้งฉาก 3 ใบ ปลายแหลมโคนสอบ โคนใบติดอยู่กับก้านหรือกิ่งแขนงและลำต้น ส่วนยอดของต้นรูปทรงคล้ายฉัตรจะเป็นพุ่มแหลม ใบอ่อนสีแดงอมน้ำตาล แล้วเปลี่ยนเป็นสีเขียวเมื่อใบแก่ มีกลิ่นหอมเย็นคล้ายกลิ่นมะนาวหรือตะไคร้ ไล่ยุงได้ดี ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ ปลูกได้ในดินทุกชนิด ชอบแดด ควรรดน้ำเช้าและเย็นพอชุ่ม
3. ต้นสนหางกระรอก
ต้นสนหางกระรอก จวงผา สนสร้อย หรือหางหมา (Squarrosa Sulphurea) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Dacrydium elatum (Roxb.) Wall. ex Hook. มีถิ่นกำเนิดในไทย ลาว มาเลเซีย กัมพูชา ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย เป็นไม้ยืนต้น สูงตั้งแต่ 1-25 เมตร ลำต้นรูปทรงกรวย กิ่งก้านแผ่ออกเป็นชั้น ปลายกิ่งมักย้อยห้อยลง ใบรูปเข็มปลายแหลมสีเขียวเข้มปนเทา มีดอกออกเป็นช่อปลายกิ่ง และผลกลมรี ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดและปักชำกิ่ง ชอบแดดจัดหรือแดดเต็มวัน ทนแล้ง ชอบน้ำปานกลาง
4. ต้นสนประดิพัทธ์
ต้นสนประดิพัทธ์ (Iron Wood Horsetail) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Casuarina junghuhniana Mig. มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่เกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย เป็นไม้มงคลที่มีความเชื่อว่าถ้าปลูกในบ้านที่มีลูกชายจะทำให้มีความกล้าหาญและเป็นผู้นำ และถ้าปลูกเป็นแนวรั้วจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งในครอบครัว เป็นไม้ยืนต้น สูงประมาณ 10-20 เมตร ลำต้นตรง แตกกิ่งก้านจำนวนมากและมีขนาดเล็ก เรือนยอดรูปกรวยแหลม ใบเล็กแหลมติดอยู่ตามข้อของกิ่งย่อย และออกดอกที่ปลายกิ่ง ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำและตอนกิ่ง ชอบแดดตลอดวัน ควรปลูกในดินปนทรายหรือดินเค็ม ชอบน้ำปานกลาง ทนน้ำท่วมขังได้ดี
5. ต้นสนแผง
ต้นสนแผง (Chinese Arborvitae, Oriental Arborvitae) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Platycladus orientalis มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่จีน เกาหลี และญี่ปุ่น เป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบ สูงได้ถึง 8 เมตร แตกกิ่งก้านและแผ่กว้างเป็นแผ่นสีเขียวสด ใบตรงข้ามแต่ละคู่ตั้งฉากกัน มีดอกและมีผล ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดและตอนกิ่ง ชอบดินร่วนระบายน้ำดี ต้องการน้ำปริมาณมาก แสงแดดจัด
6. ต้นสนมังกร
ต้นสนมังกร (Chinese Juniper) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Juniperus chinensis L. มีถิ่นกำเนิดในจีน มองโกเลีย และญี่ปุ่น เป็นไม้มงคล เชื่อว่าบ้านไหนปลูกจะเสริมสร้างบารมี เพิ่มพลังอำนาจ เป็นไม้ยืนต้น สูงได้ถึง 20 เมตร เปลือกสีน้ำตาล แตกกิ่งก้านหนาแน่นไม่เป็นระเบียบ ใบเรียงตรงข้ามสลับตั้งฉาก ใบอ่อนรูปเข็มปลายแหลม ใบแก่รูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด แตกเป็นสี่แฉก สีเขียวเข้ม มีลักษณะเป็นเกล็ดบิดเป็นเกลียว ถ้าได้สัมผัสอากาศร้อนหรือขาดความชื้นจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลและแห้งตาย ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด ตอนกิ่ง และปักชำ ชอบแดด รดน้ำวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น ชอบดินทั่วไปที่มีอินทรียวัตถุ ระบายน้ำและอากาศได้ดี
7. สนเลื้อย
ต้นสนเลื้อย (Creeping Juniper) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Juniperus procumbens (Siebold ex Endl.) Mig มีถิ่นกำเนิดในญี่ปุ่นและเกาหลี เป็นไม้พุ่ม สูงประมาณ 30-50 เซนติเมตร ลำต้นทอดเลื้อยแผ่กิ่งก้านไปตามพื้นดิน ใบรูปเข็มปลายเรียวแหลมหรือใบคล้ายเกล็ดสีเขียวอมเทา ออกเป็นกระจุกแน่น ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำและตอนกิ่ง ชอบแสงแดดมาก ควรปลูกในดินร่วนปนทรายระบายน้ำดี ต้องการน้ำปริมาณน้อย ชอบอากาศเย็น ทนแล้ง
8. สนสาหร่าย
ต้นสนสาหร่าย (Himalayan Juniper, Drooping Juniper) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Juniperus recurva Buch.-Ham. ex D.Don มีถิ่นกำเนิดในประเทศปากีสถานและจีน เป็นไม้ยืนต้น ลำต้นตั้งตรง แตกกิ่งเป็นทรงพุ่มสูงรูปกรวยคว่ำ ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับรูปเข็มปลายเรียวแหลม ใบค่อนข้างหนาเป็นมัน แผ่นใบสีเขียวเข้ม ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด ชอบแสงแดดจัด ปลูกในดินทั่วไป ต้องการน้ำปานกลางถึงมาก
9. สนสามใบ
ต้นสนสามใบ (Pinus Kesiya) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pinus kasiya Royale ex. Gordon เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูงประมาณ 10-30 เมตร ทรงพุ่มรูปกรวย ใบมีขนาดเล็กยาวเรียวเป็นรูปเข็ม ออกเป็นกระจุก กระจุกละ 3 ใบ มีความยาวประมาณ 10-25 เซนติเมตร ขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อยละเอียดปลายแหลม ผลสีน้ำตาลมีลักษณะเป็นก้อนแข็ง โคนป้อมปลายสอบ มีหลายกลีบซ้อนกันอัดเป็นวงกลมหรือวงรี เมื่อผลแก่กลีบแต่ละกลีบจะแยกออกจากกัน ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดและปักชำกิ่ง ชอบแดดเต็มวัน ปลูกในดินทั่วไป ระบายน้ำและอากาศได้ดี ชอบน้ำปานกลาง
ได้รู้จักสายพันธุ์ต้นสนกันไปบ้างแล้ว ใครอยากปลูกต้องมีพื้นที่ที่มีแดดส่องถึง บางสายพันธุ์อาจต้องมีการตัดแต่งใบสักหน่อยเพื่อให้สวยงาม ถ้าชอบลองพิจารณาดูจากต้นไม้ที่เราแนะนำกันได้เลย