วิธีแยกขยะก่อนทิ้ง เพื่อการนำไปใช้ประโยชน์และกำจัดอย่างถูกต้อง พร้อมช่วยลดค่าใช้จ่ายได้อีกทาง
หลายคนมักจะคิดว่าจะแยกขยะไปทำไม ในเมื่อสุดท้ายก็เอาไปเทรวมกันอยู่ดี ? ซึ่งจริง ๆ แล้วขยะที่ถูกทิ้งได้มีการนำไปคัดแยกสำหรับ “ใช้ประโยชน์ต่อ” และ “นำไปกำจัดทิ้ง” ที่ล่าสุด สภากรุงเทพมหานคร มีมติผ่านร่างข้อบัญญัติใหม่ ปรับค่าธรรมเนียมเก็บขยะสำหรับบ้านที่มีการคัดแยกขยะ 20 บาทต่อเดือน และไม่คัดแยกขยะ 60 บาทต่อเดือน ด้วย ไปดูกันว่าจะคัดแยกขยะก่อนทิ้งยังไงบ้าง
ขยะมีกี่ประเภท
- ขยะอินทรีย์ : ขยะที่เน่าเสียง่าย ย่อยสลายได้เร็ว เช่น เศษอาหาร เศษผัก-ผลไม้ ใบไม้ กิ่งไม้
- ขยะทั่วไป : ขยะที่ไม่สามารถย่อยสลายเองได้และไม่สามารถนำไปรีไซเคิลต่อได้ เช่น ถุงแกง ซองขนม เศษผ้า เศษยาง กระดาษปนเปื้อน กล่องโฟม
- ขยะรีไซเคิล : ขยะที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้ เช่น ขายหรือรีไซเคิลเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ กระดาษ แก้ว กระป๋องโลหะ พลาสติกรีไซเคิล
- ขยะอันตราย : ส่วนใหญ่จะเป็นขยะที่อาจส่งผลให้เกิดผลกระทบต่อคนหรือสิ่งแวดล้อม เช่น แบตเตอรี่ กระป๋องบรรจุสารเคมี ถ่านไฟฉาย หลอดไฟ ยาหรือเครื่องสำอางหมดอายุ
วิธีแยกขยะไปทิ้ง
ขยะแยกไปใช้ประโยชน์
ขยะรีไซเคิล : รวมขยะใส่ถุงแล้วทำสัญลักษณ์ด้วยการมัดปากถุงด้วยเชือก ริบบิ้น เทปสีเหลือง หรือใส่ถุงขยะสีเหลือง แล้วนำไปทิ้งตามวันและเวลาที่สำนักงานเขตกำหนด
ขยะอินทรีย์ : ขยะส่วนนี้สามารถนำไปทำปุ๋ยหมักหรือเครื่องย่อยเศษอาหาร เปลี่ยนขยะเป็นปุ๋ยออร์แกนิกไว้สำหรับใส่ต้นไม้ในสวนได้ แต่ถ้าไม่ได้นำไปใช้ประโยชน์ในบ้านให้นำขยะใส่ถุงแล้วมัดปากให้เรียบร้อยหรือใส่ในภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด จากนั้นนำไปทิ้งในจุดทิ้งขยะ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะนำไปจัดการต่อไป
ขยะแยกสำหรับทิ้ง
ขยะทั่วไป : ใส่ถุงมัดปากให้แน่นแล้วนำไปวางที่จุดพักขยะ รอเจ้าหน้าที่มาจัดเก็บตามเวลา จากนั้นก็จะส่งต่อไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปบำบัดหรือกำจัดด้วยวิธีที่ถูกต้องต่อไป
ขยะอันตราย : ใส่ถุงแล้วทำสัญลักษณ์ด้วยการมัดปากถุงด้วยเชือก ริบบิ้น เทปสีส้ม หรือถุงสีส้ม แล้วนำไปทิ้งตามวันและเวลาที่สำนักงานเขตกำหนด เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปกำจัดอย่างถูกต้องต่อไป
ทั้งนี้ ถุงขยะ ควรทำจากพลาสติกหรือวัสดุอื่นที่มีความเหนียว ทนทาน ไม่ฉีกขาดง่าย ไม่รั่วซึม และมีขนาดที่เหมาะสมกับปริมาณขยะ หากเป็นภาชนะบรรจุขยะควรใช้วัสดุที่ทำความสะอาดง่าย มีความแข็งแรง ทนทาน ใช้ขนาดที่เหมาะสม เคลื่อนย้ายสะดวก มีฝาปิดมิดชิด เพื่อป้องกันสัตว์และแมลงพาหะนำโรค พร้อมทั้งมีการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ
บริการเก็บขยะ
หากมีขยะปริมาณมาก ๆ เป็นครั้งคราว สามารถแจ้งขอรับบริการที่สำนักงานเขตได้ โดยชำระค่าธรรมเนียมเป็นรายครั้ง ประกอบด้วย
-
ขยะชิ้นใหญ่ เช่น ที่นอน โต๊ะ ตู้ เตียง เศษไม้ เครื่องใช้ไฟฟ้า โซฟา เก้าอี้ โดยการโทรศัพท์แจ้งเพื่อขอรับบริการที่สำงานเขตในแต่ละพื้นที่ หรือติดตามประกาศวันนัดเก็บขยะชิ้นใหญ่จากสำนักงานเขต (ในส่วนนี้จะไม่มีค่าธรรมเนียม)
-
กิ่งไม้ปริมาณมาก โดยการโทรศัพท์แจ้งขอรับบริการเก็บขนกิ่งไม้จากอาคารบ้านเรือน
- เศษวัสดุก่อสร้างจากอาคารบ้านเรือน เช่น หิน ปูน คอนเกรีต ฝ้าเพดาน โทรศัพท์แจ้งขอรับบริการเก็บขนวัสดุก่อสร้าง
วิธีเข้าร่วมโครงการแยกขยะ กทม.
ทางกรุงเทพมหานครจะเปิดบริการให้ประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน BKK หรือเดินทางไปลงทะเบียนด้วยตัวเองที่ฝ่ายรักษาความสะอาดที่สำนักงานเขตทั้ง 50 แห่ง หลังจากลงทะเบียนแล้วเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจสอบเพื่อยืนยันว่ามีการคัดแยกขยะจริงหรือไม่ และเก็บค่าธรรมเนียม 20 บาทต่อเดือน ตามเดิม
โทษปรับ
นอกจากนี้หากทิ้งขยะไม่เป็นที่ยังมีโทษปรับอีกด้วย ตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2560 กำหนดไว้ว่า ทิ้งขยะลงบนที่ว่าง ที่สาธารณะ มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ทิ้งขยะลงแม่น้ำ ลำคลอง มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท
พ.ร.บ.ทางหลวง พ.ศ. 2535 ทิ้งขยะ สิ่งปฏิกูล บนผิวจราจรหรือไหล่ทาง มีโทษปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 3 ปี
จริง ๆ แล้วการแยกขยะก่อนทิ้งไม่ได้แค่ทำให้จ่ายค่าธรรมเนียมการเก็บขยะน้อยลงเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ขยะทุกชิ้นที่เกิดขึ้นถูกนำกลับไปใช้ประโยชน์และกำจัดอย่างถูกต้อง นอกจากจะช่วยลดมลพิษและลดขยะรอกำจัดในระบบให้น้อยลงแล้ว ยังทำให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้นในระยะยาวอีกด้วย